โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ

โรคสะเก็ดเงิน

ประชากรประมาณ 7.4 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองที่เรียกว่าโรคสะเก็ดเงิน อาการนี้ส่งผลทำให้ร่างกายของคุณผลิตเซลล์ผิวมากและเร็วเกินไป  เซลล์ผิวหนังที่ถูกผลิตอย่างรวดเร็วนี้ถูกสร้างทับบนผิวและก่อตัวเป็นหย่อม ๆ อาจจะมีสีแดงหรือสีเงินสีขาวเงิน และอาจมีแผลร่วมด้วย โรคสะเก็ดเงินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในร่างกายรวมถึงหน้าอกแขนขาลำตัวและเล็บ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินและประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินซึ่งเป็นอาการข้อต่อที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเล็บ แพทย์ไม่แน่ใจถึงสาเหตุ และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน บางกรณีบางคนก็จะเป็นแค่ที่เล็บเท่านั้น แต่ปกติคนที่เป็นโรคนี้มักจะมีผื่นขึ้นตามตัวด้วยเช่นกัน

อาการของโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บมีอาการที่แตกต่างกัน

เล็บเป็นหลุมหรือเป็นคลื่น

เล็บเป็นพื้นผิวแข็งที่ก่อตัวเป็นชั้นบนสุดของเล็บ มันทำมาจากเซลล์เคราติน โรคสะเก็ดเงินที่เล็บทำเล็บของคุณสูญเสียเซลล์เคราติน ทำให้เกิดหลุมเล็ก ๆ ขึ้นบนเล็บมือหรือเล็บเท้าของคุณ จำนวนหลุมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจมีเพียงหลุมเดียวในแต่ละเล็บในขณะที่คนอื่นมีหลายสิบหลุม หลุมอาจตื้นหรือลึก หรือกลายเป็นคลื่นเล็บ

เล็บหลุด

บางครั้งเล็บของคุณอาจจะหลุดออกมาจากฐานเล็บได้ซึ่งเป็นผิวใต้แผ่นเล็บ การแยกนี้เรียกว่า onycholysis หากคุณมีโรคสะเก็ดเงินที่เล็บคุณอาจสังเกตสีขาวหรือสีเหลืองที่ปลายเล็บ สีจะลงไปจนถึงหนังกำพร้า แบคทีเรียสามารถเข้าไปในช่องว่างใต้เล็บและก่อให้เกิดการติดเชื้อซึ่งสามารถทำให้เล็บทั้งหมดมีสีเข้ม

รูปร่างหรือความหนาของเล็บเปลี่ยนไป

นอกจากหลุมแล้วคุณอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ บนพื้นผิวเล็บของคุณ โรคสะเก็ดเงินสามารถทำให้เกิดคลื่นที่ไม่สม่ำเสมอกับบนเล็บ ความอ่อนแอของโครงสร้างที่รองรับเล็บสามารถทำให้เล็บของคุณร่วน เล็บยังสามารถหนาขึ้นเนื่องจากการติดเชื้อราที่เรียกว่า onychomycosis เป็นปกติที่จะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ

การเปลี่ยนของสีเล็บ

สีของเล็บของคุณอาจเปลี่ยนไป คุณอาจเห็นรอยปะสีเหลืองแดงที่ฐานเล็บ เล็บเท้าหรือเล็บมือของคุณสามารถเปลี่ยนเป็นสีเหลืองน้ำตาลได้ เศษเล็บที่หลุดมักจะเป็นสีขาว

การรักษาโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บอาจรักษาได้ยากเพราะโรคสะเก็ดเงินจะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเล็บ : วิธีรักษามีดังนี้

• ยาปฎิชีวินะต่อต้านการอักเสบซึ่งอาจจะมาในรูปแบบการฉีดยา หรือการแช่เล็บลงในน้ำยา
• แพทย์อาจะสั่งสเตียรอยด์ สามารถทาลงบนเล็บของคุณหรือแพทย์ของคุณฉีดเข้าไปในฐานเล็บ
• ยาทานยาต้านเชื้อราเพื่อรักษาเชื้อราที่เกิดจากโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ
• การฉายแสงซึ่งสามารถรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยรังสียูวี
• ถอนเล็บที่เป็นปัญหาออก

การรักษาความสะอาดเช่นการตะไบเล็บและการขัดเล็บสามารถดูแลสภาพเล็บหลังจากหายจากอาการแล้ว

การดูแลเล็บของคุณ

ในระหว่างที่คุณทานยาเพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินของเล็บให้ระมัดระวังและดูแลเล็บของคุณเป็นพิเศษเพื่อปกป้องเล็บของคุณ

• ตัดเล็บให้สั้นเสมอเพื่อไม่ให้เล็บเกิดหลุดหรือลอกออก
• สวมถุงมือผ้าฝ้ายทุกครั้งที่ทำงานด้วยมือเพื่อป้องกันเล็บไม่ให้มีปัญหา
• สวมถุงมือยางเมื่อคุณล้างจานเพื่อป้องกันเล็บของคุณจากสบู่
• หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดเล็บด้วยแปรงขัดเล็บหรือของมีคม ซึ่งจะช่วยป้องกันเล็บแตก
• ทามอยเจอร์ไรเซอร์บนเล็บและหนังกำพร้าซึ่งเป็นผิวหนังที่ตายแล้วที่ฐานของนิ้วมือของคุณ ป้องกันเล็บที่ร้าวหรือเปราะได้

[ABTM id=1109]