มะเร็งไขกระดูกคืออะไร
มะเร็งไขกระดูก หรือ Multiple Myeloma คือมะเร็งชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเซลล์พลาสมา เซลล์พลาสมาเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่พบในไขกระดูก ในไขกระดูก เซลล์พลาสมาสร้างแอนติบอดี้ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยต่อสู้กับโรคและการติดเชื้อต่าง ๆ มะเร็งไขกระดูกเกิดขึ้นเมื่อเซลล์พลาสมาที่ปกติเกิดขึ้นในไขกระดูกและจำลองตัวเองอย่างรวดเร็ว การจำลองตัวอย่างรวดเร็วนั้นเป็นอันตราย หรือเป็นมะเร็ง สุดท้ายแล้ว เซลล์ดีในไขกระดูกจะถูกแทนที่ด้วยเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ปกคลุมเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีสุขภาพดี เช่นเดียวกับเซลล์เม็ดเลือดที่มีสุขภาพดี เซลล์มะเร็งก็พยายามที่จะสร้างแอนติบอดี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกมันจะสร้างได้แค่แอนติบอดี้ที่ผิดปกติ หรือที่เรียกว่า เอ็มโปรตีน (monoclonal proteins) เท่านั้น เมื่อแอนติบอดี้ที่เป็นอันตรายถูกสะสมในร่างกาย พวกมันจะทำให้ไตถูกทำลายและทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงอื่น ๆ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดพบว่ามะเร็งไขกระดูกนั้นพบยาก เพียง 4-5 คนจาก 100,000 ถูกวินิฉัยว่าเป็นมะเร็งไขกระดูกในแต่ละปีชนิดของมะเร็งไขกระดูก
มะเร็งไขกระดูกมี 2 ชนิดหลัก ๆ ซึ่งแบ่งตามผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อร่างกาย:- Indolent myeloma มะเร็งไขกระดูกชนิดนี้ไม่แสดงอาการ มักจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่ทำให้เกิดเนื้องอกกระดูก มีปริมาณของเอ็มโปรตีนและเอ็มพลาสมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- Solitary plasmacytoma ทำให้เกิดเนื้องอกในกระดูก ปกติแล้วจะตอบสนองต่อการรักษาดี แต่ต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด
- แคลเซียม
- ไตวาย
- เลือดจาง
- กระดูกถูกทำลาย
- กระหายอย่างมาก
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ท้องไส้ปั่นป่วน
- เบื่ออาหาร
- หลัง
- กระดูกเชิงกราน
- ซี่โครง
- กะโหลกศีรษะ
- อาการอ่อนแรงหรือชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขา
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- สับสน
- การปัสสาวะมีปัญหา
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ติดเชื้อซ้ำ ๆ
- สูญเสียการมองเห็น หรือมีปัญหากับการมองเห็น
มะเร็งไขกระดูกเกิดจากอะไร
สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งไขกระดูกยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม มะเร็งชนิดนี้เริ่มจากพลาสมาที่ผิดปกติที่จำลองตัวเองอย่างรวดเร็วในไขกระดูกมากกว่าที่ควรจะเป็น เซลล์มะเร็งไขกระดูกไม่มีวงจรชีวิตที่ปกติ แทนที่จะจำลองตัวแล้วตายไป พวกมันแบ่งตัวอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้มีเซลล์มะเร็งในร่างกายมากและไปแทนที่เซลล์ที่มีสุขภาพดีการรักษามะเร็งไขกระดูก
ยังไม่มีการรักษามะเร็งกระดูกให้หายขาด อย่างไรก็ตาม การรักษาจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้กระบวนการของโรคช้าลง การรักษาจะใช้ก็ต่อเมื่ออาการของโรคแย่ลง แพทย์จะไม่แนะนำให้ทำการรักษาหากคุณไม่มีอาการใด ๆ แพทย์จะทำการสังเกตอย่างใกล้ชิดถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าโรคกำลังดำเนิน ซึ่งปกติแล้วจะตรวจจากเลือดและปัสสาวะ หากคุณจำเป็นต้องได้รับการรักษา การรักษาจะมีดังนี้:การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (Targeted therapy)
การรักษาแบบเฉพาะเจาะจงเป็นการใช้เคมีในเซลล์มะเร็งไขกระดูกที่ทำลายโปรตีน ทำให้เซลล์มะเร็งตาย ยาที่อาจใช้ในการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง ได้แก่ bortezomib (Velcade) และ carfilzomib (Kyprolis) เป็นยาที่ใช้ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำที่แขนการรักษาโดยชีวบำบัด (Biological therapy)
การรักษาโดยชีวบำบัดใช้ภูมิคุ้มกันร่างกายจู่โจมเซลล์มะเร็ง ใช้ยาเม็ด thalidomide (Thalomid) lenalidomide (Revlimid) หรือ pomalidomide (Pomalyst) เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น Lenalidomide คล้ายกับ thalidomide แต่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า ทั้งยังมีประสิทธิภาพมากกว่า นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา เคมีบำบัด เคมีบำบัดเป็นการใช้ยาที่ช่วยฆ่าเซลล์ที่โตเร็ว ซึ่งรวมไปถึงเซลล์มะเร็งไขกระดูก มักถูกให้ในปริมาณมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการปลูกถ่ายเซลล์ อาจให้ได้ทางเส้นเลือด หรือเป็นเม็ดรับประทานการใช้โคติคอร์สเตียรอยด์
โคติคอร์สเตียรอยด์ เช่น prednisone และ dexamethasone มักถูกใช้ในการรักษามะเร็งไขกระดูก ยาทั้งสองชนิดนี้จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสมดุลโดยลดการอักเสบในร่างกาย จึงมีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งไขกระดูก มีทั้งเป็นชนิดเม็ดรับประทาน หรือให้ทางเส้นเลือดรังสีรักษา
รังสีรักษาเป็นการใช้พลังงานรังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งไขกระดูกและหยุดการเติบโตของเซลล์เหล่านั้น การรักษานี้ใช้เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งอย่างรวดเร็วในบางตำแหน่งของร่างกายการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์
การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เป็นการแทนที่เซลล์ไขกระดูกที่เป็นโรคด้วยเซลล์ที่มีสุขภาพดีจากผู้บริจาค ก่อนการทำ เซลล์ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างสเต็มเซลล์จะถูกเก็บจากเลือดของผู้ป่วย มะเร็งไขกระดูกจะถูกรักษาด้วยการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด เมื่อเนื้อเยื่อเหล่านั้นถูกทำลาย สเต็มเซลล์ก็จะถูกปลูกถ่ายเข้าไปในร่างกาย เข้าไปในกระดูกและเริ่มสร้างไขกระดูกใหม่ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ: การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์แพทย์ทางเลือก
แพทย์ทางเลือกกลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพื่อจัดการกับอาการของมะเร็งไขกระดูกและผลข้างเคียงของการรักษา แต่ไม่ได้ช่วยรักษามะเร็งไขกระดูก ควรปรึกษาเเพทย์ก่อนทำ:- ฝังเข็ม
- กลิ่นบำบัด
- การนวด
- การทำสมาธิ
- การผ่อนคลายต่าง ๆ
ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งกระดูก
- ความเสียหายของกระดูกและการแตกหัก : มะเร็งไขกระดูกหลายชนิดอาจทำให้กระดูกอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงของการแตกหักได้ สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากกิจกรรมที่ผิดปกติของเซลล์พลาสมาในไขกระดูกซึ่งนำไปสู่การทำลายเนื้อเยื่อกระดูกและการก่อตัวของรอยโรค lytic
- แคลเซียมในเลือดสูง : ระดับแคลเซียมในเลือดสูง (ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง) อาจเกิดขึ้นได้อันเป็นผลมาจากการสลายกระดูกที่เกิดจากมัลติเพิล มัยอิโลมา ภาวะแคลเซียมในเลือดสูงอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น กระหายน้ำมากเกินไป ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก สับสน และไตถูกทำลาย
- โรคโลหิตจาง : มัลติเพิล มัยอีโลมาสามารถยับยั้งการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงปกติในไขกระดูก ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ โรคโลหิตจางอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เหนื่อยล้า อ่อนแรง หายใจลำบาก และผิวสีซีด
- ความผิดปกติของไต : โปรตีนที่ผิดปกติที่ผลิตโดยเซลล์ myeloma สามารถทำลายไต นำไปสู่ความผิดปกติของไตหรือไตวายได้ อาการอาจรวมถึงการปัสสาวะออกลดลง บวม (บวมน้ำ) คลื่นไส้ อาเจียน และสับสน
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง : มะเร็งไขกระดูกหลายชนิดอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ส่งผลให้บุคคลเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเซลล์พลาสมาที่ผิดปกติไปรวมตัวกันที่เซลล์เม็ดเลือดขาวปกติในไขกระดูก ทำให้ความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับการติดเชื้อลดลง
- ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท : ในบางกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก มะเร็งไขกระดูกหลายชนิดสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น การกดทับไขสันหลังเนื่องจากการยุบตัวของกระดูกสันหลัง หรือความเสียหายของเส้นประสาทที่เกิดจากการแทรกซึมของเซลล์มะเร็งไขสันหลังเข้าไปในระบบประสาท
- มะเร็งทุติยภูมิ : ผู้ที่เป็นโรคมัลติเพิลมัยอีโลมาอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดมะเร็งทุติยภูมิ เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากผลของเคมีบำบัดและการฉายรังสีต่อไขกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน
- ภาวะแทรกซ้อนของการรักษา : การรักษาบางอย่างสำหรับมะเร็งไขกระดูกหลายชนิด เช่น เคมีบำบัด การฉายรังสี และการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อน เช่น การกดไขกระดูก การติดเชื้อ ปัญหาระบบทางเดินอาหาร และความเหนื่อยล้า
นี่คือที่มาในบทความของเรา
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรักษาแพทย์ทางเลือก เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ: การฝังเข็ม นี่คือที่มาในบทความของเรา- https://www.nhs.uk/conditions/multiple-myeloma/
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/multiple-myeloma/symptoms-causes/syc-20353378
- https://www.cancer.org/cancer/multiple-myeloma/about/what-is-multiple-myeloma.html
- https://www.webmd.com/cancer/multiple-myeloma/multiple-myeloma-symptoms-causes-treatment
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น