เมไทมาโซล (Methimazole) ป้องกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป เมไทมาโซลใช้รักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน นอกจากนี้ยังใช้ก่อนการผ่าตัดต่อมไทรอยด์หรือการรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตภาพรังสี เมไทมาโซลอาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามคำสั่งแพทย์
ก่อนรับประทานยา Methimazole
ไม่ควรใช้เมไทมาโซลหากกำลังตั้งครรภ์ หรือให้น้ำนมบุตร และมีประวัติการแพ้เมไทมาโซลมาก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเมไทมาโซลปลอดภัยสำหรับคุณ แจ้งแพทย์ก่อนเริ่มใช้เมไทมาโซลถึงประวัติการรักษา โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพต่อไปนี้- โรคตับ
- ความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ตั้งครรภ์ หรือให้น้ำนมบุตร
วิธีใช้ Methimazole คือ
โปรดใช้เมไทมาโซลตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ที่ความถี่ หรือปริมาณอื่นๆ นอกเหนือจากคำสั่งแพทย์ โดยปกติใช้เมไทมาโซลทุกๆ 8 ชั่วโมง รับประทานยาเป็นระยะๆ เพื่อให้ยาอยู่ในร่างกายในปริมาณที่สม่ำเสมอตลอดเวลา หากจำเป็นต้องใช้เมไทมาโซลในเด็ก แพทย์จะทำการติดตามน้ำหนักอย่างใกล้ชิด เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น เมไทมาโซลสามารถลดเซลล์เม็ดเลือดที่ช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อ และช่วยให้เลือดจับตัวเป็นลิ่ม ทำให้เราเสี่ยงที่จะเลือดออกได้มากขึ้น หรือตกเลือดได้ง่ายขึ้น ใช้เมไทมาโซลเป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด แม้ว่าคุณจะรู้สึกดี หรือไม่มีอาการของภาวะไทรอยด์ทำงานเกินแล้วก็ตาม ห้ามหยุดยาโดยกะทันหันที่นอกเหนือจากคำสั่งแพทย์ผลข้างเคียงของยา Methimazole
หากมีอาการต่อไปนี้ควรพบแพทย์โดยฉุกเฉิน- ลมพิษ
- หายใจลำบาก
- บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
- อ่อนเพลียกะทันหัน
- รู้สึกไม่สบาย
- มีไข้
- หนาวสั่น
- เจ็บคอ
- ไข้หวัด
- แผลในปาก
- เจ็บปวดปวดเมื่อกลืน
- เหงือกแดงหรือบวม
- ผิวซีด
- ช้ำง่าย
- เลือดออกผิดปกติ
- ต่อมบวมที่คอ หรือกรามของคุณ
- ปัญหาเกี่ยวกับตับ
- คลื่นไส้
- ปวดท้องตอนบน
- คัน
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- ปัสสาวะสีเข้ม
- อุจจาระสีนวล
- ดีซ่าน
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดท้อง
- ปวดศีรษะ
- เวียนศีรษะ
- ง่วงนอน
- ชา
- ผื่น
- คัน
- การเปลี่ยนสีผิว
- ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อ
- ผมร่วง
- รับรสชาติผิดไป
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น