Meropenem คือยาอะไร
เมอโรพีเนม (Meropenem) คือยาในกลุ่มคาร์บาพีเนม ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่องค์การอาหาร และยาของประเทศสหรัฐอเมริการับรองให้ใช้รักษาโรคผิวหนังที่ซับซ้อน การติดเชื้อเฉียบพลันของผิวหนัง เเละเนื้อเยื่อข้างเคียง การติดเชื้อที่ช่องท้องชนิดซับซ้อน และเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Meropenem ออกฤทธิ์ยับยั้งจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในผู้ใหญ่และเด็ก มีประสิทธิภาพในการรักษาการอักเสบจากแบคทีเรียในเด็ก ไม่ว่าจะเป็นที่ผิวหนัง เนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ กระดูก รวมไปถึงการติดเชื้อที่ข้อต่อ การติดเชื้อรุนแรงในระบบทางเดินอาหาร ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะไข้จากเม็ดเลือดขาวต่ำ ปอดอักเสบในโรงพยาบาล และการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่รุนแรง เป็นต้น ยา Meropenem ไม่ถูกใช้ในการรักษาการติดเชื้อจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือ ไข้หวัดธรรมดาวิธีใช้ยา Meropenem
ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาบนฉลากกำกับยาอย่างเคร่งครัด ยาเมอโรฟีเนมจะถูกฉีดให้ผู้ป่วยทางหลอดเลือดดำ โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อาจจะสอนให้ผู้ป่วยฉีดเองก่อนแล้วให้ยาไปฉีดเองที่บ้าน ยานี้จะต้องทำการผสมกับตัวยาอื่นก่อนที่จะใช้ ควรอ่านวิธีใช้ให้เข้าใจ หากมีคำถามควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที ยานี้เป็นยาที่ควรใช้จนหมดตามที่แพทย์สั่งถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากเป็นยาปฏิชีวนะ การเว้นช่วงฉีดยาอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทำให้เชื้อดื้อยาได้ปริมาณยาที่ใช้สำหรับการรักษาโรคต่าง ๆ มีดังนี้
- ผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อที่ผิวหนัง และการติดเชื้อเฉียบพลันของผิวหนัง เเละเนื้อเยื่อข้างเคียง ให้ใช้ Meropenem 500 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
- เด็กที่ติดเชื้อที่ผิวหนัง และการติดเชื้อเฉียบพลันของผิวหนัง เเละเนื้อเยื่อข้างเคียง เด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป ให้ใช้ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 8 ชั่วโมง ปริมาณยาสูงสุด 500 มิลลิกรัม
- ผู้ใหญ่ที่เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ให้ใช้ 2 กรัม ทุก 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 ถึง 21 วัน
- เด็กที่อายุ 3 เดือนขึ้นไปที่เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ให้ใช้ 40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทุก 8 ชั่วโมง ปริมาณยาสูงสุด 2 กรัม
- ผู้ใหญ่ที่เป็นปอดอักเสบในโรงพยาบาล ให้ใช้ 1 กรัม ทุก 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วัน
- ผู้ใหญ่ที่มีการติดเชื้อภายในช่องท้อง ให้ใช้ 1 กรัม ทุก 8 ชั่วโมง
- เด็กที่อายุ 3 เดือนขึ้นไปที่ติดเชื้อในช่องท้อง ให้ใช้ 20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทุก 8 ชั่วโมง ปริมาณยาสูงสุด 1 กรัม
ผลข้างเคียง
ผู้ป่วยอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา Meropenem ถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดขึ้น ผู้ป่วยควรพบแพทย์ อาการเหล่านั้นมีดังนี้:- หนาว ตัวเย็น
- วิงเวียนศีรษะ
- มีไข้
- เป็นลม
- หัวใจเต้นเร็ว
- มีผื่นคัน บวม
- อ่อนเพลีย หรือเป็นลม
- เหงื่อออก
- สับสน
- ไอ
- อุจจาระเป็นสีดำ
- แขน ขา หน้า มือ มีอาการบวม
- ท้องเสีย
- ผิวซีด
- ชัก
- หมดสติ
ข้อควรระวังในการใช้
- คุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณเคยมีอาการallergy-0094/”>แพ้ยา Meropenem หรือเคยแพ้ยาปฏิชีวนะบางอย่างมาก่อน เช่น Amoxicillin Penicillin Dicloxacillin Vaborbactam และอื่น ๆ
- ก่อนที่จะลด หรือเพิ่มปริมาณยา เริ่มใช้ยา หรือหยุดใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
- หากมีโรคประจำตัวอยู่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เช่น โรคชัก โรคเกี่ยวกับสมอง และโรคไต
- ผู้ป่วยอาจมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้ หากใช้ยานี้เป็นเวลานานกว่าที่แพทย์สั่ง
- หากผู้ป่วยเป็นหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ใครที่ควรหลีกเลี่ยง Meropenem
Meropenem เป็นยาปฏิชีวนะในวงกว้างที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด อย่างไรก็ตาม มีสถานการณ์และเงื่อนไขบางประการที่การใช้ meropenem อาจมีข้อห้ามหรือควรได้รับการดูแลด้วยความระมัดระวัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้เมอโรพีเนม และพวกเขาจะพิจารณาประวัติทางการแพทย์ สถานะสุขภาพในปัจจุบัน และปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของแต่ละบุคคล ต่อไปนี้คือบางสถานการณ์ที่อาจจำกัดการใช้เมอโรพีเนม:- ปฏิกิริยาการแพ้:
-
-
- บุคคลที่ทราบภาวะภูมิไวเกินหรืออาการแพ้เมโรพีเนมหรือยาปฏิชีวนะเบต้าแลคตัมอื่นๆ (เช่น เพนิซิลลิน, เซฟาโลสปอริน) ไม่ควรใช้เมโรพีเนม
-
- อาการชักหรือความผิดปกติทางระบบประสาทครั้งก่อน:
-
-
- เมโรพีเนมมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของอาการชัก โดยเฉพาะในบุคคลที่มีประวัติอาการชักหรือความผิดปกติทางระบบประสาท แนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง และอาจพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะทางเลือกในกรณีเช่นนี้
-
- การทำงานของไตบกพร่อง:
-
-
- Meropenem จะถูกกำจัดออกทางไตเป็นหลัก บุคคลที่มีความบกพร่องทางไตอย่างรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยา และในบางกรณี เมอโรพีเนมอาจมีข้อห้าม การติดตามการทำงานของไตอย่างใกล้ชิดถือเป็นสิ่งสำคัญ
-
- ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง:
-
-
- บุคคลที่มีความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) เช่น รอยโรคในสมองหรือการติดเชื้อ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดอาการชักเมื่อใช้เมอโรพีเนม อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ควรได้รับการประเมินอย่างรอบคอบในกรณีเช่นนี้
-
- อาการลำไส้ใหญ่บวม:
-
-
- Meropenem เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะอื่นๆ อาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ไวต่อการเจริญเติบโตมากเกินไปและการพัฒนาของอาการลำไส้ใหญ่บวมรวมถึงอาการลำไส้ใหญ่บวมปลอม ควรใช้ความระมัดระวังในบุคคลที่มีประวัติโรคระบบทางเดินอาหาร
-
- ผู้ป่วยที่ได้รับกรด Valproic:
-
-
- การใช้ meropenem ร่วมกับกรด valproic พร้อมกันอาจลดความเข้มข้นของกรด valproic สิ่งนี้อาจทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมอาการชักลดลงสำหรับผู้ที่รับประทานกรด valproic สำหรับโรคลมบ้าหมู
-
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาคุมกำเนิด:
-
-
- Meropenem อาจลดประสิทธิภาพของฮอร์โมนคุมกำเนิด (ยาคุมกำเนิด) อาจแนะนำให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดเพิ่มเติมหรือแบบอื่น
-
- ปฏิกิริยาภูมิไวเกินอย่างรุนแรงก่อนหน้าต่อยาปฏิชีวนะเบต้าแลคตัม:
-
-
- บุคคลที่เคยมีปฏิกิริยาภูมิไวเกินอย่างรุนแรง เช่น ภาวะภูมิแพ้ จากยาปฏิชีวนะเบต้าแลคตัมอื่นๆ ควรใช้เมอโรพีเนมด้วยความระมัดระวัง
-
- การใช้วาร์ฟาริน:
-
-
- Meropenem อาจเพิ่มฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดของ warfarin อาจจำเป็นต้องมีการติดตามอัตราส่วนมาตรฐานระหว่างประเทศ (INR) อย่างใกล้ชิด และอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาวาร์ฟาริน
-
- ทารกและทารกแรกเกิด:
-
- ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ meropenem ในทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือนยังไม่ได้รับการจัดตั้งขึ้น
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/drugs/2/drug-13960/meropenem-intravenous/details
- https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a696038.html
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18416587/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น