ประจำเดือนมาไม่ปกติ (Menstrual Problems) – อาการปัญหากับการรักษา

ประจำเดือนมาไม่ปกติคืออะไร 

ประจำเดือนมาไม่ปกติมักจะทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์หลายอย่าง อาการก่อนมีประจำเดือน หรือ Premenstrual syndrome (PMS) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เช่น การปวด และการเมื่อยล้า แต่อาการมักจะหายไปเมื่อประจำเดือนเร่ิมขึ้น  อย่างไรก็ตาม ปัญหารอบเดือนอื่น ๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ ประจำเดือนที่มากไป หรือน้อยไป หรือมาไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการมีรอบเดือนที่ไม่ปกติ  การมีรอบเดือนที่ปกตินั้นแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน รอบเดือนที่ปกติสำหรับคุณอาจไม่ปกติสำหรับคนอื่น จึงต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ และพบแพทย์เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวลขึ้นกับรอบเดือนของคุณ  ปัญหารอบเดือนที่คุณอาจพบมีดังนี้

อาการก่อนมีประจำเดือน 

PMS เกิดขึ้น 1 หรือ 2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน บางคนมีอาการทางร่างกาย และอารมณ์อย่างรุนแรง บางคนมีน้อย หรือบางคนไม่มีเลย PMSสามารถทำให้เกิดอาการได้ดังนี้: อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน ความรุนแรงนั้นก็เกิดขึ้นได้ต่างกัน PMS นั้นทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ก็ไม่ใช่อาการที่น่ากังวลหากมันไม่ได้ไปรบกวนกับกรทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน 

ประจำเดือนมามาก 

ปัญหารอบเดือนที่พบได้บ่อยคือ ประจำเดือนมามาก การที่ประจำเดือนมามากทำให้คุณเสียเลือดมากกว่าปกติ คุณอาจมีประจำเดือนยาวนานกว่า 5-7 วัน  ประจำเดือนมามากนั้นเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โพรเจสเทอโรน และเอสโตรเจน  สาเหตุอื่นของประจำเดือนมามาก หรือเลือดออกผิดปกติ มีดังนี้:
  • วัยหนุ่มสาว 
  • การติดเชื้อที่อวัยวะเพศ 
  • การอักเสบของปากมดลูก 
  • ภาวะพร่องไทรอยด์ 
  • เนื้องอกมดลูก 
  • การเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหาร หรือออกกำลังกาย 
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ปากมดลูกอักเสบ

ประจำเดือนขาด 

ในบางกรณี ประจำเดือนก็อาจไม่มา ซึ่งเรียกว่า ประจำเดือนขาด (amenorrhea) ภาวะขาดประจำเดือนเบื้องต้นนั้นเริ่มจากการที่คุณอายุ 16 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีประจำเดือน ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง หรือการเข้าสู่วัยหนุ่มสาวช้า ภาวะขาดประจำเดือนอีกอย่างนึงคือ การที่ประจำเดือนของคุณไม่มาเป็นเวลา 6 เดือน หรือมากกว่านั้น  สาเหตุของการขาดประจำเดือนในวัยรุ่น:
  • โรคคลั่งผอม (anorexia)
  • ภาวะขาดไทรอยด์ 
  • ภาวะถุงน้ำในรังไข่
  • นำหนักลด หรือเพิ่มกระทันหัน 
  • หยุดรับประทานยาคุม 
  • ตั้งครรภ์
ภาวะขาดประจำเดือนในผู้ใหญ่สามรถเกิดได้จาก:
  • ภาวะรังไข่ล้มเหลว
  • ปากมดลูกอักเสบ
  • หยุดยาคุม 
  • ตั้งครรภ์
  • ให้นมลูก 
  • สตรีวัยทอง
การขาดของประจำเดือนอาจหมายความว่าคุณตั้งครรภ์ หากคุณคิดว่าคุณอาจจะตั้งครรภ์ ควรทำการทดสอบการตั้งครรภ์ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ถูกต้อง ให้ตรวจหลังจากที่ประจำเดือนขาดไปอย่าน้อย  1 วัน 

รอบเดือนที่เจ็บปวด 

ประจำเดือนไม่เพียงแต่มามาก หรือมาน้อยไปเท่านั้น แต่ก็สามารถที่จะสร้างความเจ็บปวดได้ด้วย อาการปวดท้องน้อยนั้นเป็นเรื่องปกติระหว่าง PMS และสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อประจำเดือนเริ่มมาได้เช่นกัน อาการปวดประจำเดือนมากอาจมีความเชื่อมโยงกับโรคต่าง ๆ ดังนี้:

การรักษารอบเดือนมีปัญหา

วิธีการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหารอบเดือนที่เกิดขึ้น การรับประทานยาคุมสามารถช่วยลดอาการ PMS ได้ หากประจำเดือนมามากไป หรือน้อยไปที่เกี่ยวกับไทรอยด์ หรือความผิดปกติของฮอร์โมน อาการของคุณอาจจะดีขึ้นเมื่อรับประทานยาปรับฮอร์โมน  อาการปวดประจำเดือนอาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน แต่คุณก็จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเพื่อหาสาเหตุ เช่น ยาปฏิชีวนะใช้เพื่อรักษาการอักเสบของปากมดลูก 

 อาหารบำรุงรอบเดือน

โภชนาการสามารถมีบทบาทในการจัดการปัญหาเกี่ยวกับระดู รวมถึงปัญหาต่างๆ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ เลือดออกหนัก และปวดประจำเดือน แม้ว่ากลยุทธ์ด้านโภชนาการอาจไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้ แต่การรักษาอาหารที่สมดุลและอุดมด้วยสารอาหารสามารถช่วยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมได้ ต่อไปนี้คือข้อควรพิจารณาด้านโภชนาการเพื่อจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับระดู:
  • อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก:
      • ผู้หญิงที่มีประจำเดือนมามากอาจเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก รวมอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก เช่น เนื้อไม่ติดมัน สัตว์ปีก ปลา ถั่ว ถั่วเลนทิล เต้าหู้ และซีเรียลเสริมธาตุเหล็กเพื่อรองรับระดับธาตุเหล็ก
  • อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี:
      • วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ฮีม (พบในอาหารจากพืช) รวมผลไม้รสเปรี้ยว สตรอเบอร์รี่ พริกหยวก บรอกโคลี และมะเขือเทศในอาหารของคุณ
  • แคลเซียมและวิตามินดี:
      • ปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพกระดูก รวมผลิตภัณฑ์นม นมจากพืชเสริม ผักใบเขียว และการได้รับวิตามินดีจากแสงแดด
  • กรดไขมันโอเมก้า 3:
      • กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ ปลาที่มีไขมัน (ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล) เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัทเป็นแหล่งที่ดี
  • อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม:
      • แมกนีเซียมอาจช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ รวมอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม เช่น ผักใบเขียว ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืชไม่ขัดสี และพืชตระกูลถั่ว
  • วิตามินบี:
      • วิตามินบี โดยเฉพาะบี 6 และบี 12 มีบทบาทในการลดอาการของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) รวมถึงแหล่งต่างๆ เช่น สัตว์ปีก ปลา ไข่ ผักใบเขียว และซีเรียลเสริมอาหาร
  • ความชุ่มชื้น:
      • การดื่มน้ำให้เพียงพอสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดและการกักเก็บของเหลวที่เกี่ยวข้องกับรอบประจำเดือนได้ ดื่มน้ำปริมาณมากและพิจารณาชาสมุนไพร
  • จำกัดคาเฟอีนและเกลือ:
      • ปริมาณคาเฟอีนที่สูงและการบริโภคเกลือมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดได้ การจำกัดกาแฟ ชา และอาหารรสเค็มอาจช่วยจัดการกับอาการท้องอืดได้
  • ธัญพืช:
      • ธัญพืชไม่ขัดสีมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งสามารถช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และลดอารมณ์แปรปรวน เลือกธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ควินัว ข้าวโอ๊ต และโฮลวีต
  • อาหารต้านการอักเสบ:
      • รวมอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น เบอร์รี่ เชอร์รี่ ขมิ้น ขิง และปลาที่มีไขมัน สิ่งเหล่านี้อาจช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
  • โปรตีน:
      • ปริมาณโปรตีนที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพโดยรวม รวมถึงเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน สัตว์ปีก ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์นม พืชตระกูลถั่ว และแหล่งโปรตีนจากพืช
  • ชาสมุนไพร:
    • ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น ชาคาโมมายล์หรือขิง อาจมีฤทธิ์ผ่อนคลายและช่วยบรรเทาอาการไม่สบายประจำเดือนได้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ยาสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้ยาอยู่
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการตอบสนองของแต่ละคนต่อการเปลี่ยนแปลงอาหารอาจแตกต่างกันไป หากคุณประสบปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนอย่างรุนแรงหรือหากการเปลี่ยนแปลงอาหารไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการได้ จำเป็นต้องปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดและการจัดการที่เหมาะสม นอกจากนี้ หากคุณมีข้อจำกัดหรือข้อกังวลด้านอาหารโดยเฉพาะ นักโภชนาการที่ลงทะเบียนสามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลได้
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด