ยามีลอกซิแคม Meloxicam คืออะไร
ยา Meloxicam คือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เป็นยาที่ทำงานโดยการไปลดฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ และการเจ็บปวดภายในร่างกาย ยามีลอกซิแคมถูกนำมาใช้ เพื่อรักษาอาการเจ็บปวดหรือการอักเสบที่มีสาเหตุมาจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคข้อเสื่อมในผู้ใหญ่ ยามีลอกซิแคมยังได้ถูกนำมาใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ยา Meloxicam ยี่ห้อ Anjeso คือยาที่นำมาใช้รักษาอาการเจ็บปวดปานกลางถึงขั้นรุนแรงในผู้ใหญ่ ยา Vivlodex คือ ยาสำหรับใช้ในผู้ใหญ่เท่านั้น และยา Qmiiz คือยาสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 132 ปอนด์ (60 กิโลกรัม) อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ โรคข้อเข่าเสื่อมคำเตือนก่อนใช้ยา Meloxicam
ยามีลอกซิแคมอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะหากมีการใช้ยาในระยะยาวหรือใช้ยาในปริมาณสูง หรือกับผู้ที่มีโรคหัวใจ ไม่ควรใช้ยาดังกล่าวนี้ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดบายพาสหัวใจ (การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ หรือ CABG) ควรรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันทีหากพบว่ามีอาการเจ็บหน้าอก อ่อนแรง หายใจสั้น ลิ้นแข็งพูดไม่ชัดหรือมีปัญหาด้านการมองเห็นหรือการทรงตัว ยามีลอกซิแคมิาจเป็นสาเหตุของการเกิดเลือดออกในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถเป็นอาการร้ายแรงได้ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้าในขณะใช้ยา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ โทรหาแพทย์ทันทีหากมีอาการของเลือดออกในกระเพาะอาหารเช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ มีเลือดหรือมีลักษณะเหนียวคล้ายยางมะตอย หรือไอออกมาเป็นเลอดหรืออาเจียนมีสีคล้ายกาแฟบด หลีกเลี่ยงการสบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหารมากขึ้น ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการมช้ยาบรรเทาอาการหวัด ยาแก้แพ้หรือยาแก้ปวดทุกชนิด ยาที่มีความคล้ายกับยาที่มีส่วนประกอบของยามีลอกซิแคม ควรตรวจสอบฉลากยาเพื่อดูส่วนประกอบของ NSAID (ยาแก้อักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน คีโทโพรเฟน หรือนาพรอกเซน อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การใช้ยานาพรอกเซน ยามีลอกซิแคมยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะหากมีการใช้ยาในระยะยาวหรือใช้ยาในปริมาณสูงหรือหากเป็นภาวะโรคหัวใจ แม้แต่กับผู้ที่ไม่ได้มีภาวะโรคหัวใจหรือมีปัจจัยเสี่ยงก็ตามก็สามารถเกิดภาวะโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในขณะใช้ยาดังกล่าวนี้ได้ ไม่ควรใช้ยาดังกล่าวนี้ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดบายพาสหัวใจ (การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ หรือ CABG) ยามีลอกซิแคมอาจเป็นสาเหตุของการเกิดเลือดออกในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถเป็นอาการร้ายแรงได้ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้าในขณะใช้ยา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ไม่ควรใช้ยามีลอกซิแคมหากมีภาวะโรคภูมิแพ้หรือเคยมีอาการหอบหืดกำเริบหรือมีปฏิกิริยาภูมิแพ้ขั้นรุนแรงหลังการใช้ยาแอสไพรินหรือยา NSAID เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาดังกล่าว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณเป็น:- โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวานหรือหากสูบบุหรี่
- มีประวัติเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมองหรือภาวะลิ่มเลือด
- มีประวัติภาวะของแผลหรือมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- โรคหอบหืด
- โรคไต (หรือหากมีการฟอกไต)
- โรคตับ
- ภาวะคั่งน้ำ
ยา Meloxicam รับประทานอย่างไร
ควรรับประทานยามีลอกซิแคมตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามคำแนะนำตามฉลากยา บางครั้งแพทย์อาจสั่งเปลี่ยนปริมาณยาของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับผลการรักษาที่ดีที่สุด ไม่ควรทานยาในปริมาณที่มากเกินไปหรือนานเกินกว่าคำแนะนำ ควรใช้ยาในปริมาณน้อยที่สุดที่ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการการรักษาภาวะที่เกิดขึ้น ยามีลอกซิแคมชนิดเม็ดใช้รับประทาน ชนิดฉีดคือการให้ยาในรูปแบบสารละลายเข้าทางเส้นเลือด ผู้ให้บริการทางการแพทย์จะเป็นผู้ให้ยาในรูปแบบดังกล่าวนี้ สามารถรับประทานยาทางปากได้ทั้งแบบพร้อมอาหารหรือตอนท้องว่างได้ นำยาเม็ดแตกตัวในช่องปากออกจากบรรจุภัณฑ์เมื่อพร้อมรับประทานยาเท่านั้น วางยาเม็ดในปากและปล่อยให้ตัวยาละลายโดยไม่เคี้ยว กลืนยาเม็ดที่ละลายหลายๆครั้ง ปริมาณยาที่ต้องการอาจมีการปรับเปลี่ยนหากมีการเปลี่ยนยี่ห้อยา ความเข้มข้นหรือรูปแบบของตัวยา หลีกเลี่ยงการเกิดความผิดพลาดของยาด้วยการใช้ยาเฉพาะตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น การใช้ปริมาณยามีลอกซิแคมจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น) ปริมาณยาอาจมีการปรับเปลี่ยนหากคุณมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง หากมีการใช้ยานี้ในระยะยาว อาจจำเป็นต้องได้รับการตรวจทางการแพทย์บ่อยๆ การจัดเก็บยามีลอกซิแคมชนิดเม็ดหรือแคปซูลควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงที่ชื้นและร้อน ควรเก็บยาไว้ในขวดที่ปิดฝาสนิทเมื่อไม่ได้ใช้สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหารมากขึ้น หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแอสไพรินในขณะใช้ยามีลอกซิแคม ยกเว้นแพทย์สั่ง ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาแก้บวมหรือยาบรรเทาอาการหวัดหรือไข้หวัดชนิดอื่นๆ เพราะยาดังกล่าวอาจมีส่วนผสมของยาที่มีความคล้ายคลึงกับส่วนประกอบของยามีลอกซิแคม (เช่น ยาแอสไพริน ไอบรูโพรเฟน คีโตโพนเฟนหรือนาพรอกเซน)ผลข้างเคียงของยา Meloxicam
ไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือหากมีสัญญานของการเกิดปฏิกิริยาภูมแพ้ยามีลอกซิแคม: จาม คัดจมูกหรือมีน้ำมูก หายใจมีเสียงวี๊ดหรือมีปัญหาด้านการหายใจ มีผื่นลมพิษ บวมบริเวณใบหน้า ลิ้น ริมฝีปากหรือคอ ไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือหากมีสัญญานของอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง: มีอาการเจ็บหน้าอกแผ่กระจายไปยังบริเวณกรามหรือหัวไหล่ ชากระทันหันหรืออ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย ลิ้นแข็งพูดไม่ชัด รู้สึกหายใจสั้นถี่ หยุดการใช้ยาและโทรปรึกษาแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้- มีสัญญานแรกของผื่นขึ้นที่บริเวณผิวหนัง แม้ว่าจะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
- หายใจสั้น (แม้ในเวลาที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย)
- มีอาการบวมหรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มีสัญญานของเลือดออกในกระเพาะอาหาร-อุจจาระเหนียว หรือมีเลือดปน ไอออกมาเป็นเลือด หรืออาเจียนมีสีคล้ายสีกาแฟบด
- มีปัญหาเกี่ยวกับตับ- คลื่นไส้ ปวดท้องส่วนบน คัน รู้สึกเหนื่อยล้า มีอาการคล้ายไข้หวัด ไม่อยากอาหาร ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระเป็นสีคล้ายดินเหนียว มีอาการดีซ่าน (ผิวหนังหรือดวงตาเป็นสีเหลือง)
- มีปัญหาเกี่ยวกับไต – ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะ ปัสสาวะขัดหรือเจ็บปวด บวมบริเวณเท้าหรือข้อเท้า รู้สึกเหนื่อยล้าหรือหายใจสั้น
- เซลล์เม็ดเลือดแดงต่ำ (โลหิตจาง) – ผิวหนังซีดเซียว รู้สึกเวียนศีรษะ หรือหายใจสั้น อัตราการเต้นหัวใจเร็ว ไม่มีสมาธิหรือ
- มีปฏิกิริยาแพ้ผิวหนังรุนแรง – มีไข้ เจ็บคอ บวมบริเวณใบหน้าหรือลิ้น รู้สึกร้อนผ่าวที่ดวงตา เจ็บปวดผิวหนังบริเวณที่ขึ้นผื่นสีม่วงหรือแดงซึ่งมีการแพร่กระจาย (โดยเฉพาะที่ใบหน้าหรือช่วงบนของร่างกาย)และเป็นสาเหตุทำให้เกิดตุ่มพองและผิวหนังลอก
- ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการแสบร้อนที่หน้าอก
- ท้องเสีย ท้องผูก มีลมในกระเพาะอาหาร
- มึนงง
- มีอาการหวัด ไข้หวัด
ยาชนิดอื่นๆ ที่ส่งผลต่อยา Meloxicam มีอะไรบ้าง
ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยามีลอกซิแคมหากคุณกำลังรับประทานยาต้านอาการซึมเศร้าเช่น ไซตาโลแพรม เอสซิตาโลแพรม ฟลูอ็อกเซทีน (โปรแซ็ค) ฟลูวอกซามีน พาร็อกซีทีน เซอร์ทราลีน (โซลอฟต์) ทราโซโดน หรือวิลาโซโดน การรับประทานยาดังกล่าวนี้ร่วมกับยา NSAID อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดรอยฟกช้ำหรือเลือดออกง่าย แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังรับประทานยาทุกชนิดและทุกครั้งที่เริ่มและหยุดยา โดยเฉพาะ:
- ไซโคลสปอริน
- ลิเทียม
- เมโธเทรกเซท
- โซเดียมโพลีสไตรีนซัลโฟเนต (คายัคซาเลต)
- ยาเจือจางเลือด (วาฟาริน คูมาดิน แจนโทเวน)
- ยาสำหรับความดันเลือดหรือหัวใจ ซึ่งรวมไปถึงยาขับปัสสาวะหรือยาขับน้ำและยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ หรือ
- ยาสเตียรอยด์ (เช่นยาเพรดนิโซโลน)
Meloxicam ห้ามใช้ในใคร
บุคคลเหล่านี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษหรือหลีกเลี่ยงการใช้ Meloxicam :- โรคภูมิแพ้:
-
-
- บุคคลที่แพ้ยามีลอกซิแคมหรือยากลุ่ม NSAID อื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรง เช่น หายใจลำบาก
-
- โรคหอบหืด:
-
-
- ผู้ที่มีประวัติโรคหอบหืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการรุนแรงขึ้นจากแอสไพรินหรือ NSAIDs อื่นๆ ควรใช้ meloxicam ด้วยความระมัดระวัง NSAIDs รวมถึง meloxicam บางครั้งอาจทำให้เกิดหรือทำให้อาการของโรคหอบหืดแย่ลงได้
-
- ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร:
-
-
- บุคคลที่มีประวัติเป็นแผลในทางเดินอาหาร มีเลือดออก หรือมีการเจาะทะลุ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้จากการใช้ NSAID Meloxicam อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง และอาจนำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินอาหาร
-
- ปัญหาไต:
-
-
- Meloxicam ถูกขับออกทางไตเป็นหลัก บุคคลที่มีความบกพร่องทางการทำงานของไตอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรืออาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงยามีลอกซิแคมโดยสิ้นเชิง เนื่องจากยาสามารถสะสมในร่างกายได้
-
- ปัญหาเกี่ยวกับตับ:
-
-
- ผู้ที่มีความบกพร่องทางตับอย่างรุนแรงควรใช้ meloxicam ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากยาจะถูกเผาผลาญในตับ อาจจำเป็นต้องมีการทดสอบการทำงานของตับก่อนและระหว่างการรักษาด้วยยามีลอกซิแคม
-
- ภาวะหัวใจ:
-
-
- Meloxicam อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง บุคคลที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ ควรใช้ยามีลอกซิแคมด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
- การตั้งครรภ์:
-
-
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 ควรหลีกเลี่ยงการใช้เมลอกซิแคม เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ สตรีมีครรภ์ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
-
- ให้นมบุตร:
-
-
- Meloxicam สามารถผ่านเข้าสู่เต้านมได้และควรใช้ด้วยความระมัดระวังในระหว่างให้นมบุตร มารดาที่ให้นมบุตรควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์
-
- ผู้สูงอายุ:
-
- ผู้สูงอายุอาจไวต่อผลข้างเคียงของยามีลอกซิแคม เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ อาจจำเป็นต้องมีขนาดยาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าและการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในประชากรกลุ่มนี้
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น