ภาพรวม
อาการปวดกราม (Jaw Pain) คืออาการปวดเมื่อยบริเวณกรามที่ส่งผลต่อความสามารถในการกินและการพูด มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดกราม ตั้งแต่ปัญหาที่โพรงไซนัสและหูไปจนถึงฟันหรือขากรรไกรเองหมายความว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าสาเหตุของอาการปวดกรามเกิดจากอะไรเพราะอาการปวดกรามเกิดขึ้นได้จะหลายสาเหตุสาเหตุการปวดกรามเกิดจากอะไร
โดยส่วนใหญ่เเล้วอาการปวดกรามเกิดจากความผิดปกติหรืออาการบาดเจ็บที่ข้อต่อของกรามแต่ปัจจัยอื่นๆสามารถทำให้เกิดอาการปวดกรามได้เช่นกัน ซึ่งอาการดังต่อไปนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดกรามได้แก่ความผิดปกติของข้อต่อหรือกล้ามเนื้อขากรรไกร (TMD)
ความผิดปกติของข้อต่อเเละกล้ามเนื้อขากรรไกรเป็นส่วนเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ปวดกรามโดยในประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ที่มีภาวะนี้จำนวน 10 ล้านคน ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร (TMD) หรือเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าภาวะความผิดปกติของขากรรไกร (TMJ) โดยข้อต่อขากรรไกรเป็นข้อบานพับที่อยู่ระหว่างในขากรรไกรแต่ละข้าง มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดกรามเนื่องจากความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะข้อต่อขากรรไกรผิดปกติซึ่งสาเหตุที่ทำใ้หเกิดความผิดปกติที่ข้อต่อขากรรไกรมีดังต่อไปนี้- อาการเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนไหวของขากรรไกร
- อาการบาดเจ็บในข้อต่อขากรรไกร
- การกระตุ้นข้อต่อขากรรไกรมากเกินไป
- กระดูกรองข้อต่อขากรรไกรเคลื่อนที่
- โรคข้อต่อกระดูกอักเสบที่เกิดขึ้นกับจานรองข้อต่อที่ทำหน้าที่ปกป้องข้อต่อขากรรไกร
- อาการกัดฟันตอนกลางคืน
- อาการกัดฟันที่เกิดขึ้นเองอย่างไม่ได้ตั้งใจเนื่องจากความเครียดเเละวิตกกังวล
- ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับข้อต่อขากรรไกรเช่นถูกตีที่หน้าในขณะเล่นกีฬา
อาการปวดหัวแบบชุด
โดยทั่วไปอาการปวดหัวแบบชุดเป็นอาการปวดหัวอย่างรุนเเรงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดรอบหลังเบ้าตา แต่อาการเจ็บปวดที่สามารถเคลื่อนย้ายลงไปที่ขากรรไกรได้เช่นกัน โดยอาการปวดหัวแบบชุดนี้เป็นอาการปวดหัวชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนเเรงปัญหาเกี่ยวกับโพรงไซนัสอักเสบ
ไซนัสเป็นโพรงจมูกที่อยู่ใกล้กับข้อต่อขากรรไกร ถ้าหากเกิดภาวะติดเชื้อในโพรงไซนัสด้วยเชื้อโรคเช่นไวรัสหรือแบคทีเรีย สามารถส่งผลให้เกิดน้ำมูกจำนวนมากในโพรงไซนัสที่ก่อให้เกิดแรงกดดันบนข้อต่อขากรรไกรและทำให้เกิดอาการปวดกรามได้เมื่อเป็นไซนัสอักเสบอาการปวดฟัน
บางครั้งอาการติดเชื้ออย่างรุนเเรงที่ฟันเรียกว่าอาการรากฟันติดเชื้อ ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดรอบๆขากรรไกรได้โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
โดยส่วนใหญ่โรคปวดเส้นประสาทใบหน้ามีสาเหตุเกิดจากการกดทับของเส้นประสาทใบหน้าที่ทำหน้าที่แสดงความรู้สึกของใบหน้าส่วนใหญ่ ได้แก่ด้านบนและด้านล่างของขากรรไกรภาวะหัวใจวาย
ภาวะหัวใจวายสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณอื่นๆของร่างกายนอกจากหน้าอกเช่นแขน หลัง คอและขากรรไกร โดยเฉพาะผู้หญิงมักเคยมีประสบการณ์ปวดกรามด้านซ้ายขอใบหน้าเนื่องจากภาวะหัวใจวาย ควรโทรหาเบอร์ฉุกเฉินทันทีเพื่อนำผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลถ้าหากมีอาการดังต่อไปนี้เกิดขึ้นวิธีรักษาอาการปวดกราม
สำหรับวิธีบรรเทาอาการปวดทันที
ใช้แผ่นเจลร้อนหรือน้ำแข็งที่อยู่ในถุงพลาสติกและพันด้วยผ้าบางประคบลงบนใบหน้าเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นพัก 10 นาทีเเละค่อยประคบด้วยน้ำเเข็งอีกครั้ง อีกวิธีหนึ่งคือการนำผ้าชุบน้ำร้อนเเล้วประคบบริเวณที่ปวดกราม ความร้อนสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกรามเนื่องจากการใช้กล้ามเนื้อขากรรไกรมากเกินไป คุณสามารถนำผ้าชุบน้ำใหม่ได้หลายครั้งเพื่อรักษาความร้อน คุณสามารถซื้อแผ่นเจลร้อนหรือเจลเย็นได้ที่ร้านขายยาหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามการใช้เเผ่นเจลควรมีผ้าบางห่อหุ้มแผ่นเจลทุกครั้งเพื่อไม่ทำให้ผิวหน้าไหม้ ถ้าคุณรู้สึกว่าแผ่นเจลร้อนหรือเย็นเกินไปควรรีบนำออกทันที คุณสามารถหาซื้อยาตามร้านขายยาให้เองได้เช่นยาพาราเซลตามอลและยาไอบลูโพรเฟนที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเเละไม่สบาย การนวดขากรรไกร วิธีทำคือใช้นิ้วชีเเละนิ้วกลางกดลงบริเวณที่ปวดกรามเช่นขากรรไกรด้านขวาที่อยู่ก่อนหูซึ่งเป็นบริเวณที่ข้อต่อขากรรไกรบรรจบกัน นวดกรามด้วยการถูเป็นวงกลม 5- 10 ครั้ง จากนั้นอ้าปากเเละนวดวนซ้ำ นอกจากนี้การนวดกล้ามเนื้อที่คอเเต่ละข้างสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกรามได้เช่นกัน นี่คือเทคนิคนวดหน้าอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณบรรเทาอาการเจ็บปวดขากรรไกรได้ (คลิกที่ลูกศรเพื่อเปิดดูวิดีโอทั้งหมด)การปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตเพื่อบรรเทาอาการปวดกรามในระยะยาว
การบรรเทาความเครียด เทคนิคลดความเครียดที่ช่วยบรรเทาอาการปวดกรามได้แก่- โยคะ
- ท่องเที่ยว
- การนั่งสมาธิ
- แอปเปิ้ล
- เนื้อหมัก
- หมากฝรั่ง
- น้ำแข็ง
การรักษาด้วยยา
แพทย์ส่วนใหญ่จะเเนะนำให้คุณรักษาอาการปวดกรามด้วยตนเองก่อน แต่ถ้ายังปวดกรามอยู่หลังจากใช้วิธีดังกล่าวเเล้ว คุณจำเป็นต้องไปปรึกษาทันตแพทย์ คุณอาจจำเป็นต้องทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของอาการเจ็บปวด ฟันยางคืออุปกรณ์พลาสติกทางทันตกรรมที่ใส่เข้าไปในด้านบนหรือด้านล่างของฟันที่พอดีกับช่องปาก แม้ว่าคุณสามารถหายซื้อฟันยางได้เองแต่ทันจแพทย์จะช่วยทำให้ฟันยางที่มีขนาดพอดีกับปากและใช้ได้นานกว่า ฟันยางใช้สำหรับใส่ตอนเข้านอนเพื่อช่วยป้องกันการกัดฟันตอนกลางคืน ตัวช่วยคลายกล้ามเนื้อ ถ้าอาการปวดกรามไม่สามารถบรรเทาด้วยการใส่ฟันยาง ทันตเเพทย์จะใช้ตัวช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการปวดตึงที่กราม อย่างไรก็ตามอุปกรณ์นี้ไม่สามารถใช้กับภาวะผิดปกติของขาข้อต่อกรรไกรได้ การฉีดสารโบท็อกซ์ เป็นการรักษาที่มีการสอดใส่วัตถุเข้าไปในร่างกายได้แก่การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงาม เมื่อทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อขากรรไกร พิษจากโบทูลินั่มท็อกซินที่อยู่ในสารโบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อขากรรไกร ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้รักษาภาวะผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรได้เช่นกัน การฉีดโบท็อกซ์สามารถอยู่ได้นานหนึ่งเดือน ดังนั้นจำเป็นต้องฉีดซ้ำอีกครั้ง การผ่าตัดขากรรไกร วิธีรักษานี้นำมาใช้น้อยมาก โดยแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดขากรรไกรก็ต่อเมื่อเกิดภาวะผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร โดยปกติการผ่าตัดใช้สำหรับผู้ที่มีอาการปวดกรามรุนเเรงเนื่องจากปัญหาทางโครงสร้างของข้อต่อขากรรไกรอาหารที่ควรรับประทาน
อาหารอ่อนสำหรับผู้ที่มีอาการปวดกราม
อาการปวดกราม อาจเกิดขึ้นเป็นระยะๆ และอาจเกิดขึ้นจากการใช้ TMJ มากเกินไป เพื่อช่วยพักผ่อนกราม ของคุณ ให้ลองทานอาหารอ่อนๆ อาหารอ่อนโดยทั่วไปประกอบด้วยผักและผลไม้ที่ปรุงสุกดี ไข่ ซุป โยเกิร์ตและสมูทตี้ เมื่อทำตามอาหารอ่อน สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าคุณยังคงได้รับวิตามิน ไฟเบอร์ โปรตีน และสารอาหารอื่นๆ ในปริมาณที่จำเป็น หากคุณขาดสิ่งเหล่านี้ ให้พิจารณาการเสริมโภชนาการในขณะที่คุณรับประทานอาหารอ่อน ต่อไปนี้คือคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารอ่อนจำนวนหนึ่งเพื่อให้คุณเริ่มต้นได้:- ไข่คน
- สมูทตี้ผลไม้และโยเกิร์ต
- ซีเรียลร้อน (เช่น ครีมข้าวสาลี ปลายข้าว ข้าวโอ๊ต โจ๊ก)
- คอทเทจชีส
- โยเกิร์ต
- ซอสแอปเปิ้ล
- ถั่ว
- ปลา
- ไก่นุ่ม
- เนื้อดิน
- เต้าหู้
- ผักที่ปรุงอย่างดี
- ผักโขมครีม
- อะโวคาโด
- ควินัว
- ฟาริน่า
- มักกะโรนีและชีส
- มันบดและน้ำเกรวี่
- มีทโลฟ
- ซุป
อาหารเสริมสร้างข้อต่อและกราม
มีการแสดงอาหารบางอย่างที่ช่วยเสริมสร้างข้อต่อและสนับสนุนสุขภาพข้อต่อโดยรวม มีการแสดงอื่น ๆ ที่ขัดขวางสุขภาพข้อต่อที่ดีและควรหลีกเลี่ยง (หรืออย่างน้อยก็ลดลง) เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ อาหารที่ดีต่อการซ่อมแซมข้อต่อและสุขภาพข้อต่อโดยรวม:- เจลาตินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ข้อต่อแข็งแรงขึ้น
- เนื้อเครื่องในและเนื้อแดง (ในปริมาณที่พอเหมาะ) ซึ่งช่วยเพิ่มสารอาหารซ่อมแซมข้อต่อในร่างกายของคุณ
- ไขมันอิ่มตัว (ในปริมาณที่พอเหมาะ) ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างข้อต่อ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการเพิ่มน้ำหนักนั้นไม่ดีต่อสุขภาพข้อต่อ ดังนั้นควรรับประทานไขมันอิ่มตัวในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น
- สารกันบูดโดยเฉพาะผงชูรส
- อาหารประเภทแป้งโดยเฉพาะข้าวสาลี
- ผลิตภัณฑ์นม
- น้ำตาล (!)
- ยีสต์
- อาหารที่มีปริมาณซาลิไซเลตสูง (เช่น เยลลี่ แยม น้ำผลไม้)
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/oral-health/why-your-jaw-hurts
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tmj/symptoms-causes/syc-20350941
- https://www.nhs.uk/conditions/temporomandibular-disorder-tmd/
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/317184
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น