ชื่อสามัญ: imipramine (im IP ra meen)
ชื่อแบรนด์: Tofranil, Tofranil-PM
รูปแบบการให้ยา:แคปซูลชนิดรับประทาน (pamoate 100 มก.; pamoate 125 มก.; pamoate 150 มก.; pamoate 75 มก.); ยาเม็ดชนิดรับประทาน (10 มก.; 25 มก.; 50 มก.)
Imipramine คืออะไร
Imipramine คือยากล่อมประสาท Tricyclic ที่ใช้ในการรักษาอาการของภาวะซึมเศร้า Imipramine นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในรักษาอาการปัสสาวะรดที่นอนในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป Imipramine อาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในคู่มือการใช้ยานี้ ทั้งนี้แล้วแต่แพทย์จะพิจารณาในการใช้งานคำเตือน
ผู้ที่ใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการซึมเศร้าอาจมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเมื่อทานยากล่อมประสาทในครั้งแรก หากผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ควรรายงานให้แพทย์ทราบ รู้อย่างไรว่าเป็นโรคซึมเศร้า อ่านต่อที่นี่ก่อนรับประทานยานี้
ผู้ที่ไม่เหมาะในการใช้ยา Imipramine คือ:- เคยมีอาการหัวใจวาย
- คุณแพ้ยาแก้ซึมเศร้าอื่น ๆ( Amitriptyline , Amoxapine , Clomipramine , Desipramine , Doxepin , Nortriptyline , Protriptyline หรือ Trimipramine)
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- อาการชัก
- โรคสองขั้ว
- โรคจิตเภทหรือความเจ็บป่วยทางจิตอื่น ๆ
- โรคไตหรือตับ
- ต่อมไทรอยด์โต
- โรคต้อหิน
- ปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายปัสสาวะ
วิธีรับประทานยา
ใช้ยานี้ตามคำแนะนำบนฉลากหรือตามที่แพทย์ของคุณกำหนด อย่าใช้ในปริมาณมากกว่าหรือน้อยกว่าที่แพทย์แนะนำ หมั่นรายงานผลของอาการให้แพทย์ทราบเพราะแพทย์อาจจะมีการปรับเปลี่ยนยา แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ควรหยุดใช้ Imipramine โดยฉับพลัน ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการค่อย ๆ ลดขนาดยา เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้องให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสง ปิดฝาให้แน่นเมื่อไม่ใช้งานกรณีที่ลืมทานยา
หากลืมทานยาให้ทานยาทันทีที่นึกได้ หากใกล้ถึงเวลาที่ต้องรับประทานยาในมื้อถัดไป สามารถข้ามมื้อที่ลืมไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่าการรับประทานยาเกินขนาด
การใช้ยา Imipramine เกินขนาดอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อาการใช้ยาเกินขนาดอาจรวมถึงหัวใจเต้นผิดปกติ หมดสติ ชัก หรือโคม่า ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์หรือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีผลข้างเคียงของ Imipramine
หากผู้ป่วยมีอาการแพ้ยาให้ไปพบแพทย์ทันที อาการแพ้ยา มีดังนี้- ลมพิษ
- หายใจยาก
- ใบหน้า ลำคอบวม
- แสบตา
- ผิวไหม้
- แผลพุพอง ผิวหนังเปลี่ยนสี
- ช้ำง่ายเลือดออกผิดปกติจุดสีม่วงหรือสีแดงใต้ผิวหนัง
- ปวดตาหรือบวม หรือเห็นรัศมีรอบแสงไฟ
- วิงเวียนคล้ายจะหมดสติ
- อาการเจ็บหน้าอก
- หัวใจเต้นแรง
- อาการชาหรืออ่อนแรงกะทันหันปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น การพูด หรือความสมดุล
- ไข้
- เจ็บคอ
- เห็นภาพหลอน ความคิดหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติ
- ปัสสาวะเจ็บปวดหรือยาก
- ชัก
- ดีซ่าน
- ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
- ความรู้สึกเล็กน้อย, อ่อนแอ, ขาดการประสานงาน;
- ปากแห้ง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- เต้านมบวม (ในผู้ชายหรือผู้หญิง)
ปฎิกริยาต่อยาอื่น ๆ
ทั้งนี้ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาทุกครั้ง รวมถึงแจ้งเกี่ยวกับโรคประจำตัวที่เป็น และยาที่กำลังรับประทานอยู่ รวมไปถึงวิตตามินและอาหารเสริมอื่น ๆหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น