ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป (Hyperthermia) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

Hyperthermia คือ ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป สภาวะร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมความร้อนในของร่างกายให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมได้

ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ คือ ลักษณะที่อุณหภูมิร่างกายลดลงจนถึงระดับต่ำอย่างเป็นอันตราย ซึ่งปัญหาของอุณหภูมิร่างกายในลักษณะตรงข้ามนั้น ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน เรียกว่า ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

ความหมายของร่างกายเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป คือ เมื่อมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 °C เพราะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติคือต่ำกว่า 35 °C อุณหภูมิของร่างกายโดยเฉลี่ยคือ 37 ° C

สาเหตุของภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด หรือสัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานาน ๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

คนงานก่อสร้าง เกษตรกร และผู้ที่ต้องอยู่ในความร้อนเป็นเวลานาน ๆ ควรระมัดระวังตนเองเพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป รวมทั้งอาชีพนักดับเพลิง และผู้ทีงานใกล้เตาอบ หรือทำงานในอาคารที่ระบบปรับอากาศทำงานไม่ดี

ภาวะสุขภาพที่มีปัญหา อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ อุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปได้ ยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะจะลดความสามารถในการขับเหงื่อ การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ จะทำให้การควบคุมความดันโลหิตสูงในภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปทำได้ยากขึ้น

เด็ก และผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูง เด็ก ๆ มักชอบเล่นกลางแจ้ง โดยไม่รู้จักพัก หรือดื่มน้ำเลย ผู้สูงอายุมักไม่ค่อยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ พวกเขาจึงไม่สามารถตอบสนองต่ออาการที่ร้อนได้ทัน ยิ่งในบ้านไม่มีอุปกรณ์ปรับอากาศเลยก็ยิ่งเสี่ยงจะเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปได้ง่ายขึ้น

ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป และไข้ต่างกันอย่างไร?

อุณหภูมิในร่างกายถูกควบคุมโดยสมองส่วนที่เรียกว่าไฮโปทาลามัส โดยปกติจะรักษาอุณหภูมิร่างกายที่ประมาณ 37° C อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย

การเป็นไข้ คือ กรณีที่ร่างกายมีการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย สมองส่วนไฮโปทาลามัสอาจเปลี่ยนแปลงการควบคุมอุณหภูมิ โดยอุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นจากปฏิกิริยาที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อเชื้อเหล่านั้นได้อีกด้วย เมื่ออาการติดเชื้อหายไปอุณหภูมิของร่างกายก็จะกลับเข้าสู่ระดับปกติ

ส่วนกรณีภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป ความร้อนของร่างกายจะตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม เนื่องจากกลไกการระบายความร้อนตามธรรมชาติอย่างการขับเหงื่อไม่สามารถเอาชนะความร้อนจากสภาพแวดล้อมได้ อุณหภูมิร่างกายจึงสูงขึ้น

การรักษาด้วยยาสามัญอย่างอะเซตามิโนเฟน (ไทลินอล) สามารถช่วยลดไข้ได้ แต่จะช่วยแก้ไขภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปได้ การปรับอุณหภูมิสภาพแวดล้อม การดื่มน้ำ และใช้ความเย็นช่วย (เช่น น้ำเย็น หรือถุงน้ำแข็งวางบนผิวหนัง) เท่านั้น

อาการของภาวะอุณหภูมิสูงเกินไป

ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปเกิดได้หลายอาการ เกิดจากการปรับตัวของภาวะร่างกายกับกิจกรรมต่าง และสภาพแวดล้อม ได้แก่:

  • ภาวะความเครียดจากความร้อน: กรณีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นแต่กลับไม่มีเหงื่อออก แสดงถึงอาการความเครียดจากความร้อน ภาวะความเครียดจากความร้อนจะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง อย่างอาการอ่อนเพลียจากความร้อน และโรคลมแดด

นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ได้แก่:

หากสงสัยว่า เกิดภาวะอาการเครียดจากความร้อนให้ไปพักในบริเวณที่อากาศเย็นสบาย ดื่มน้ำ หรือของเหลวที่มีเกลือแร่เพื่อคืนความชุ่มชื้น เกลือแร่ เป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกาย อย่างแคลเซียม โซเดียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยลดอาการขาดน้ำ ช่วยควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของประสาท และความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อ แต่หากอาการแย่ลงให้รีบไปพบแพทย์

  • โรคเพลียความร้อน: การเผชิญความร้อนสูงเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และเกิดความเครียด แสดงว่ากำลังเผชิญกับความเหนื่อยล้าจากความร้อน ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อน ๆ หรือสภาพการทำงานที่ร้อนจัดจะเสี่ยงต่อโรคเพลียความร้อนเป็นพิเศษ

นอกเหนือจากรู้สึกร้อน กระหายน้ำ และเหนื่อยล้า แล้วอาจประสบปัญหากับการรวบรวมสมาธิเพื่อการทำงานได้ กรณีพบอาการควรหาทางปรับร่างกายและจิตใจให้เย็นลงด้วยของเหลว

การพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพอาการที่ร้อนจะช่วยป้องกันโรคเพลียความร้อนได้ในที่สุด

  • เป็นลมแดด: การเป็นลม หมดสติ ที่เกิดขึ้นเมื่อความดันเลือดลดลง หรือการไหลเวียนของเลือดไปสมองลดลงชั่วคราว

เป็นแนวโน้มที่เกิดเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนนาน ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ยาประเภท beta-blocker เพื่อลดความดันโลหิตก็จะยิ่งเสี่ยงที่จะเป็นลมแดดมากขึ้น

การเป็นลมแดดมักมีอาการวิงเวียนหรือเวียนศีรษะ หากรู้สึกคล้ายจะเป็นลม ให้หาทางผ่อนคลายและทำตัวให้เย็นลงเพื่อป้องกันไม่ให้หมดสติ โดยนอนราบแล้วยกขาขึ้น

เช่นเดียวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อนอื่น ๆ การดื่มน้ำคือสิ่งสำคัญ หรือของเหลวทุกชนิด ยิ่งเป็นเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา หรือเกลือแร่ก็จะยิ่งดี

  • ตะคริวจากความร้อน: ตะคริวจากความร้อนเป็นอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดเมื่อใช้แรงมาก ๆ หรือการออกกำลังกายอย่างหนักในอากาศที่ร้อน โดยปกติเป็นอาการที่เกิดจากความไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย โดยจะเกิดอาการบริเวณหน้าท้อง ขา หรือกล้ามเนื้อแขน อาการนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการนอนพักในที่เย็น และดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่เสียไปในขณะที่เหงื่อออก

  • บวมจากความร้อน: อาการบวมจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในบริเวณร้อน ๆ เป็นเวลานาน ๆ หรือในผู้ที่ไม่คุ้นกับอุณหภูมิที่ร้อน โดยมีการบวมที่มือ ขาส่วนล่าง หรือข้อเท้า เกิดจากการสะสมของของเหลวบริเวณแขนขาของคุณ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองเกี่ยวกับการดูดซึมโซเดียมเข้าสู่เลือดผ่านทางไต ที่กระตุ้นโดย Aaldosterone

โดยปกติอาการบวมนี้จะหายไปเองเมื่อผู็ป่วยเกิดความคุ้นเคยต่อสภาพแวดล้อม หรือทำการระบายความร้อน หรือยกเท้าให้สูงขึ้น และเติมน้ำและเกลือแร่ให้ร่างกาย

  • ผดร้อน: บางครั้งการอยู่ในที่ร้อน ๆ เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดตุ่มแดงคล้ายสิวขึ้นบนผิวหนัง มักเกิดเมื่อเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผดร้อนหายเองได้ เมื่อตัวเย็นลงหรือทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่หากติดเชื้อ ก็อาจทำให้ผดเกิดได้นานขึ้น

เมื่อเหงื่อไม่สามารถขับออกมาได้ จะเกิดอาการดังนี้:

  • วิงเวียนศีรษะ

  • อ่อนเพลีย

  • กระหายน้ำ

  • การทำงานของร่างกายส่วนต่าง ๆ เกิดปัญหา

  • ไม่มีสมาธิ

  • ผิวหนังเย็นและชื้น

  • ชีพจรเต้นเร็ว

นับเป็นอาการสุดท้ายก่อนเกิดฮีทสโตรก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ป่วยจะต้องพักผ่อน และดื่มน้ำทันทีที่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ และหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การรักษาภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

แม้ว่าภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปจะหายได้เมื่อพักให้คลายร้อนและดื่มน้ำ แต่ก็อาจมีอาการที่รุนแรงจนต้องไปพบแพทย์ ซึ่งต้องพิจารณาเมื่อเกิดอาการดังต่อไปนี้:

อาการที่ร้ายแรงที่สุดของภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป คือ ช่วงที่อุณหภูมิร่างกายสูงจนถึงแก่ชีวิตได้ เกิดเมื่ออาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความร้อนอย่างลมแดดไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ระดับความร้อนที่เป็นอันตรายคือ เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงกว่า  40° C  ทำให้เป็นลมหมดสติ

อาจมีอาการอื่น ๆ เป็นสัญญาณร่วมด้วยได้แก่ :

  • ฉุนเฉียว โกรธง่าย

  • ความสับสน มึนงง

  • การประสานงานระหว่างอวัยวะส่วนต่าง ๆ มีปัญหา

  • ผดแดง

  • เหงื่อไม่ออก

  • ชีพจรเต็นอ่อนหรือเร็วผิดปกติ

เมื่อเกิดสัญญาณเหล่านี้ให้ผู้ป่วยรีบแก้ไขอาการ ดังนี้:

  • พยายามไปยังบริเวณที่มีอากาศเย็น หรือบริเวณที่มีเครื่องปรับอากาศ

  • ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่

  • อาบน้ำเย็น หรือรดน้ำเพื่อช่วยเร่งการฟื้นตัว

  • วางถุงน้ำแข็งไว้ใต้แขน และบริเวณขาหนีบ

หากอาการยังไม่ดีขึ้น เมื่อพยายามแก้ไขอาการแล้ว ให้รีบติดต่อแพทย์ทันที

อาการแทรกซ้อนของภาวะอุณหภูมิสูงเกินไป

อุณหภูมิร่างกายสูงเป็นภาวะที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ซึ่งมักเกิดจากการสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน การออกกำลังกายมากเกินไป หรือสภาวะทางการแพทย์บางประการ อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ ซึ่งบางรายอาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ต่อไปนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป:
  • อาการอ่อนเพลียจากความร้อน: นี่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยของภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป และเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียของเหลวและอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากการขับเหงื่อมากเกินไป ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนแรง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และหัวใจเต้นเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการเพลียแดดอาจลุกลามไปสู่โรคลมแดดได้
  • โรคลมแดด: โรคลมแดดเป็นรูปแบบที่รุนแรงของภาวะตัวร้อนเกินและเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิแกนกลางของร่างกายสูงขึ้นถึงระดับที่เป็นอันตราย ซึ่งมักจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาการอาจรวมถึงสับสน ชัก หมดสติ หายใจเร็วและตื้น และเหงื่อออกน้อย โรคลมแดดสามารถทำลายอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ และไต และอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันที
  • ภาวะขาดน้ำ: การสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานและเหงื่อออกมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของภาวะอุณหภูมิร่างกายรุนแรงขึ้นอีก การขาดน้ำอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปัญหาไต ปวดกล้ามเนื้อ และความดันโลหิตต่ำ
  • การสลายตัวของกล้ามเนื้อ: นี่คือภาวะที่เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อสลายตัวอย่างรวดเร็วและปล่อยโปรตีนที่เรียกว่าไมโอโกลบินเข้าสู่กระแสเลือด ไมโอโกลบินอาจเป็นอันตรายต่อไตและอาจทำให้ไตเสียหายหรือล้มเหลวได้ การสลายตัวของกล้ามเนื้ออาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคที่เกิดจากความร้อนอย่างรุนแรง
  • ความเสียหายของอวัยวะ: อุณหภูมิร่างกายสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของลมแดดสามารถทำลายอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงสมอง หัวใจ ตับ และไต ความเสียหายนี้อาจส่งผลระยะยาวและอาจต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างกว้างขวาง
  • อาการชัก: อุณหภูมิร่างกายที่สูงสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการชักในบางคนได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีอาการป่วยบางประการ อาการชักอาจทำให้การจัดการภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
  • Disseminated Intravascular Coagulation (DIC): ในกรณีที่รุนแรงของโรคลมแดด ความสามารถของร่างกายในการควบคุมการแข็งตัวของเลือดอาจลดลง นำไปสู่ภาวะ DIC ภาวะนี้อาจส่งผลให้มีเลือดออกผิดปกติและอวัยวะถูกทำลาย
  • อาการโคม่าและความตาย: หากไม่รักษาภาวะอุณหภูมิร่างกายสูง โดยเฉพาะโรคลมแดด อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ อาจนำไปสู่อาการโคม่า และในบางกรณีอาจถึงแก่ชีวิตได้
การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนของภาวะตัวร้อนเกิน ซึ่งรวมถึงการไม่ขาดน้ำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนมากเกินไป การสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม และการพักในที่ร่มหรือเย็นเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงอากาศร้อน หากมีใครมีอาการของภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามไปสู่ระยะและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงยิ่งขึ้น

สรุปภาพรวมภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป

การป้องไม่ให้เกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป เริ่มจากการตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงานหรือเล่นในอากาศที่ร้อนจัด แต่หากจำเป็นต้องอยู่ในที่ร้อน ๆ ควรปฏิบัติดังนี้

  • พักผ่อนในที่เย็น หรือในบริเวณที่มีการปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย หากอยู่กลางแจ้งควรยืนในที่ร่ม

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่ ทุกๆ 15 – 20 นาทีเมื่ออยู่ในที่ร้อนนาน ๆ

  • สวมเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา และสีอ่อนเมื่ออยู่กลางแจ้ง

  • หากในบริเวณที่อยู่อาศัยไม่มีเครื่องปรับอากาศ อาจใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้า ห้องสมุด หรือสถานที่สาธารณะที่เย็นสบายในช่วงที่มีอากาศร้อนแทน

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/320226

  • https://www.nih.gov/news-events/news-releases/hyperthermia-too-hot-your-health-1

  • https://www.nih.gov/news-events/news-releases/hyperthermia-too-hot-your-health-1

  • https://www.medicinenet.com/hyperthermia_symptoms_and_signs/symptoms.htm

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด