ฮอร์สแรดิช (Horseradish) คืออะไร
ฮอร์สแรดิช (Horseradish) เป็นรากผักที่มีรส และกลิ่นฉุน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมาเป็นเวลากว่าหลายพันปีแล้ว โดยเฉพาะการใช้เป็นเครื่องปรุง และก็ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้อีกด้วย ฮอร์สแรดิชมีสารประกอบมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมไปถึงฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และต้านมะเร็ง ฮอร์สแรดิชมีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกของยุโรป ฮอร์สแรดิชเป็นผักที่กินได้ เทียบเท่ากับมัสตาร์ด วาซาบิ กะหล่ำปลี และเคล ฮอร์สแรดิชเป็นรากยาว ๆ สีขาวและมีใบสีเขียว เมื่อรากถูกตัด เอนไซม์จะแตกตัวกลายเป็นสารประกอบที่เรียกว่า ซินิกริน และกลายเป็นน้ำมันมัสตาร์ด น้ำมันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท ซึ่งเป็นความลับของกลิ่นและรสของมันที่อาจทำให้ตา จมูก และคอระคายเคืองได้ รากนั้นปกติจะถุกขูดแล้วหมักในน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาลสำหรับใช้ในการปรุงรสซอสฮอร์สแรดิชที่นำไปผสมกับมายองเนสหรือซาวครีมเป็นที่นิยมมาก เรามักสับสนระหว่างฮอร์สแรดิช และวาซาบิ เพราะวาซาบิที่เรามักพบเห็นในร้านอาหารญี่ปุ่นคือ ฮอร์สแรดิชบดผสมกับสีผสมอาหารให้สารอาหารมากมาย
ฮอร์สแรดิชมักถูกรับประทานให้ปริมาณที่น้อย ๆ และให้พลังงานน้อย แต่มีแร่ธาตุและสารประกอบพืชมากมาย ฮอสเรดิช 1 ช้อนโต๊ะ 15 กรัมให้สารอาหาร:- พลังงาน: 7
- โปรตีน: น้อยกว่า 1 กรัม
- ไขมัน: น้อยกว่า 1 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต: 2 กรัม
- ใยอาหาร: 0.5 กรัม
ประโยชน์อื่น ๆ ต่อร่างกาย
ถึงแม้จะเป็นเพียงปริมาณเล็กน้อย ฮอร์สแรดิชให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายอาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
กลูโคซิโนเลตและไอโซไทโอไซยาเนตในรากฮอร์สแรดิชอาจมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งโดยการห้ามไม่ให้เซลล์มะเร็งเติบโต และทำให้เซลล์มะเร็งตาย สารประกอบฮอร์สแรดิชบางชนิด เช่น ซินิกริน อาจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับการถูกทำลายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ โมเลกุลอนุมูลอิสระเหล่านี้อาจทำให้ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น มะเร็ง เมื่อระดับของโมเลกุลเหล่านี้มีมากเกินไปในร่างกาย เอนไซม์เพอร์ออกซิเดตที่พบในรากแรดิชช่วยเพิ่มพลังในการต่อต้านมะเร็งในมะเร็งตับอ่อนมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย
อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท คือน้ำมันที่ได้จากฮอสเรดิชอาจมีคุณสมบัติการต่อต้านแบคทีเรียที่ดีมาก การศึกษาต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่ามันอาจต่อสู้กับแบคทีเรียที่อันตรายต่าง ๆ เช่น E. coli H. pylori และ Salmonella ไอโซไทโอไซยาเนทอาจมีเอนไซม์ที่ช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์แบคทีเรีย แต่กลไกของมันก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนักฮอร์สแรดิชอาจช่วยให้ระบบทางเดินหายใจสุขภาพดีขึ้น
การรับประทานฮอร์สแรดิชจะทำให้เกิดความรู้สึกร้อนในโพรงจมูก จมุก และคอ ด้วยเหตุผลนี้ มันมักถูกใช้ในการบรรเทาอาการหวัดและปัญหาการหายใจเราจะใช้ฮอร์สเเรดิชอย่างไร
ส่วนมากแล้วฮอร์สแรดิชมักถูกใช้เป็นเครื่องปรุง มันมักถูกรับประทานในรูปแบบที่ปรุงแล้ว ซึ่งทำจากฮอร์สแรดิชขูด น้ำส้มสายชู น้ำตาล และเกลือ ซอสฮอร์สแรดิช มักถูกนำไปผสมกับกับซาวครีมหรือมายองเนส เครื่องปรุงเหล่านี้มักถูกเสิร์ฟกับปลาหรือเนื้อ ฮอร์สแรดิชยังถูกขายในรูปแบบของชาด้วย ยังไม่มีปริมาณที่กำหนดแน่ชัดว่าเราสามารถรับประทานฮอร์สแรดิชได้เท่าไหร่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เพื่อทราบปริมาณที่เหมาะสมผลข้างเคียงของฮอร์สแรดิช
ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการรับประทานฮอสเเรดิชมากเกินไปที่จำกัด อย่างไรก็ตาม ฮอร์สแรดิชนั้นมีกลิ่นฉุน มันจึงดีกว่าที่จะใช้ในปริมาณที่น้อย ๆ ความเผ็ดของรากฮอร์สแรดิชอาจระคายเคืองปาก จมูก หรือกระเพาะอาหารหากบริโภคมากเกินไป มันอาจรบกวนผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร มีปัญหาระบบย่อยอาหาร หรือมีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง ยังไม่เป็นที่ทราบว่าการรับประทานฮอร์สแรดิชมากในเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่ให้นมบุตรปลอดภัยหรือไม่ข้อเท็จจริงของฮอร์สแรดิช
- ฮอร์สแรดิชเป็นผักรากที่ใช้เป็นเครื่องเทศ
- ฮอร์สแรดิชเป็นพืชชนิดหนึ่งมีอายุถึง 1,500 ปีก่อนคริสตกาล; ชาวกรีกยุคแรกใช้มันเป็นยาถูเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง
- ฮอร์สแรดิช เชื่อกันว่า “ม้า” หมายถึงขนาดใหญ่และความหยาบ ส่วน “หัวไชเท้า” มาจากภาษาละติน “radix” ซึ่งหมายถึงราก
- ฮอร์สแรดิชเป็นไม้ยืนต้นที่มาจากตระกูลเดียวกับมัสตาร์ด วาซาบิ บรอกโคลี และกะหล่ำปลี
- ฮอร์สแรดิชพืชชนิดหนึ่งมีการเฉลิมฉลองในเทศกาล International Horseradish ในเมือง Collinsville รัฐอิลลินอยส์ ในสุดสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนของทุกปี
- เมื่อตัดหรือขูด เอ็นไซม์จากเซลล์พืชที่ตอนนี้แตกสลายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดไอโซไทโอไซยาเนต ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้เกิดกลิ่นกัดและกลิ่นหอมของฮอร์สแรดิช
- ฮอร์สแรดิช 1 ช้อนชามีเพียง 2 แคลอรี่
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/diet/health-benefits-horseradish#1
- https://www.verywellhealth.com/horseradish-benefits-4585217
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น