ฮอร์โมนทดแทนบำบัด-HRT (Hormone Replacement Therapy) – ประโยชน์ ความเสี่ยง ผลข้างเคียง

การให้ฮอร์โมนทดแทนบำบัด (HRT) คือ การรักษาเพื่อช่วยบรรเทาอาการวัยทอง การให้ฮอร์โมนทดแทนฮอร์โมนที่มีระดับต่ำเมื่อเข้าสู่วัยทอง

ประโยชน์ของการให้ฮอร์โมนทดแทนเพศหญิง

ประโยชน์หลักๆของการให้ฮอร์โมนทดแทนคือ การช่วยบรรเทาอาการวัยทองที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ได้ เช่น: อาการหลายอย่างนี้จะหายไปหลังจากผ่านไปสองสามปี แต่ก็เป็นอาการไม่น่าพึงพอใจ และการรับประทานฮอร์โมนทดแทนสามารถส่งผลในการช่วยบรรเทาอาการในผู้หญิงหลายๆคน และยังช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกอ่อนแอ (ภาวะกระดูกพรุน) ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากภาวะวัยทอง

ความเสี่ยงในการได้รับฮอร์โมนทดแทน

การให้ฮอร์โมนทดแทนบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม

วิธีให้ฮอร์โมนทดแทนเริ่มอย่างไร

ปรึกษาแพทย์หากคุณสนใจจะเริ่มการให้ฮอร์โมนทดแทน ตามปกติแล้วนั้นเราสามารถเริ่มให้ฮอร์โมนทดแทนได้ทันทีที่เริ่มมีอาการวัยทอง และไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจใดๆก่อน แพทย์จะอธิบายความแตกต่างของฮอร์โมนแต่ละชนิด และช่วยคุณในการเลือกชนิดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ คุณอาจเริ่มต้นด้วยปริมาณโดสต่ำ ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง อาจใช้เวลาสองสามสัปดาห์เพื่อรู้สึกถึงผลในการรักษา และอาจมีผลข้างเคียงบ้างในช่วงแรก แพทย์มักจะแนะนำให้ลองรักษาดูก่อนราว 3 เดือนเพื่อดูว่าสามารถช่วยได้ หรือไม่ หากพบว่าไม่แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนปริมาณยา หรือเปลี่ยนชนิดของฮอร์โมนที่คุณรับประทาน

คนที่ควรได้รับฮอร์โมนทดแทนคือใครบ้าง

ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถได้รับฮอร์โมนทดแทนหากพบว่ามีอาการบางอย่างร่วมกับภาวะวัยทอง แต่การได้รับฮอร์โมนทดแทนอาจไม่เหมาะหากคุณ:
  • มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งมดลูก
  • มีประวัติการเกิดลิ่มเลือด
  • มีภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษา – ความดันเลือดจะต้องได้รับการควบคุมก่อนเริ่มได้รับฮอร์โมนทดแทน
  • เป็นโรคตับ
  • ตั้งครรภ์ – อาจยังคงเป็นไปได้ที่จะตั้งครรภ์แม้ในขณะการได้รับฮอร์โมนทดแทน ดังนั้นควรใช้ยาคุมกำเนิดไปอีก 2 ปี หลังประจำเดือนมาเดือนสุดท้ายหากคุณอายุต่ำกว่า 50 ปี หรืออีก 1 ปีหากมีอายุหลัง 50 ปีขึ้นไป

ประเภทของฮอร์โมนทดแทน

ฮอร์โมนทดแทนมีหลายชนิดแตกต่างกันออกไป และการหาว่าเหมาะกับคุณเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องยากมาก ชนิดที่แตกต่างกันโดย
  • ฮอร์โมนทดแทน – ผู้หญิงส่วนใหญ่รับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจนร่วมกับโปรเจสเตอโรน ถึงกระนั้นก็ตามผู้หญิงที่ไม่มีมดลูกแล้วก็สามารถรับเอสโตรเจนได้ด้วย
  • วิธีการได้รับฮอร์โมนทดแทน – มีทั้งรูปแบบยาเม็ด แผ่นแปะผิวหนัง เจล และครีมสำหรับทาช่องคลอด ยาเหน็บช่องคลอด หรือห่วง
  • แผนการรักษาฮอร์โมนทดแทน – ยาฮอร์โมนสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องหยุด หรือใช้ในรอบที่ได้รับเอสโตรเจนได้โดยไม่ต้องหยุดเพียงแต่รับโปรเจสโตเจนทุกๆสองสามสัปดาห์
แพทย์จะแนะนำในการเลือกชนิดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณอาจต้องลองมากกว่าหนึ่งชนิดก่อนจะหาเจอว่ามีหนึ่งชนิดที่ได้ผลดีที่สุด

Hormone Replacement Therapy

การหยุดฮอร์โมนทดแทน

ไม่มีข้อจำกัดในการได้รับฮอร์โมนในระยะยาว แต่ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเวลาในการรักษา ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถหยุดฮอร์โมนทดแทนได้ทันทีที่อาการวัยทองหมดไปซึ่งอาจใช้เวลาราวสองสามปี ผู้หญิงที่ได้รับฮอร์โมนทดแทนวัยทองมากกว่าหนึ่งปีมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้มากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยได้ใช้ฮอร์โมนทดแทน ความเสี่ยงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนทดแทนทุกชนิดยกเว้นเอสโตรเจนทางช่องคลอด ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมจะลดลงหลังหยุดฮอร์โมนทดแทน แต่บางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอาจจะยังคงอยู่ได้นานมากกว่า 10 ปีเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่เคยใช้ฮอร์โมนทดแทน เมื่อคุณตัดสินใจที่จะหยุด คุณสามารถเลือกทำได้ในทันทีหรือค่อยๆหยุด การค่อยๆลดปริมาณฮอร์โมนทดแทนมักเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะอาจเป็นสาเหตุของอาการที่จะกลับมาในระยะสั้นๆ ติดต่อแพทย์หากอาการเหล่านี้ยังคงอยู่นานหลายเดือนหลังหยุดการได้รับฮอร์โมน หรือหากมีอาการรุนแรงขึ้น คุณอาจต้องกลับไปเริ่มได้รับฮอร์โมนทดแทนอีกครั้ง

ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนทดแทน

เมื่อนำไปใช้ร่วมกับยาทุกชนิด ฮอร์โมนทดแทนอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดผลข้างเตียงได้ แต่มักหายไปได้เองภายในสามเดือนหลังเริ่มการรักษา อาการผลข้างเคียงทั่วไปเช่น

ตัวเลือกอื่นแทนฮอร์โมนทดแทน

หากคุณไม่สามารถรับฮอร์โมนทดแทน คุณอาจต้องการพิจารณาวิธีอื่นในการควบคุมอาการวัยทองของคุณ ทางเลือกอื่นแทนฮอร์โมนทดแทน ซึ่งรวมไปถึง
  • การจัดสรรในการใช้ชีวิต เช่นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การลดจำนวนกาแฟลง ลดแอลกอฮอล์ และอาหารรสเผ็ด และหยุดการสูบบุหรี่
  • ทิโบโลน – ยาที่มีความคล้ายกับฮอร์โมนทดแทนที่ผสมกัน (เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน) แต่อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่า และอาจเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนรอบสุดท้ายมากกว่า 1 ปีขึ้นไปเท่านั้น
  • ยาต้านเศร้า – ยาต้านเศร้าบางชนิดสามารถช่วยเรื่องอาการร้อนผ่าว และเหงื่ออกตอนกลางคืนได้ แต่อย่างไรก็ตามพวกมันอาจเป็นสาเหตุที่ไม่น่าพอใจจากผลข้างเคียงเช่น  กระสับกระส่าย และมึนศีรษะ 
  • โคลนิดีน – เป็นยาที่ไม่ใช่ฮอร์โมนที่อาจช่วยลดอาการร้อนผ่าว และเหงื่อออกในผู้หญิงบางคนได้ ถึงแม้จะได้ประโยชน์ค่อนข้างน้อยก็ตาม
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ อาการวัยทอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮอร์โมนทดแทน

การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน (HRT) คืออะไร? 
  • การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนเกี่ยวข้องกับการใช้ฮอร์โมนเพื่อเสริมหรือทดแทนระดับฮอร์โมนตามธรรมชาติของร่างกาย มักใช้เพื่อบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดประจำเดือน
ฮอร์โมนใดที่มักจะถูกแทนที่ใน HRT? 
  • ในฮอร์โมนทดแทนวัยหมดประจำเดือน มักกำหนดให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (ในผู้หญิงที่มีมดลูก) หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว (ในผู้หญิงที่ไม่มีมดลูก) ในบริบทของภาวะฮอร์โมนเพศชายไม่สมดุลหรือฮอร์โมนเพศชายไม่สมดุล อาจพิจารณาทดแทนฮอร์โมนเพศชาย
HRT มีประโยชน์อย่างไร? 
  • HRT สามารถบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับวัยหมดประจำเดือน เช่น ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน และช่องคลอดแห้ง นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันการสูญเสียกระดูกและลดความเสี่ยงของกระดูกหักในสตรีวัยหมดประจำเดือน
มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ HRT หรือไม่? 
  • แม้ว่า HRT จะสามารถให้ผลประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่ได้ปราศจากความเสี่ยง การศึกษาบางชิ้นเชื่อมโยง HRT กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะสุขภาพบางอย่าง รวมถึงมะเร็งเต้านม ลิ่มเลือด และปัญหาหัวใจและหลอดเลือด การตัดสินใจรับการรักษา HRT ควรกระทำหลังจากพิจารณาปัจจัยด้านสุขภาพและความเสี่ยงส่วนบุคคลอย่างรอบคอบแล้ว
ใครต้องบำบัดด้วย HRT? 
  • HRT มักแนะนำสำหรับผู้หญิงที่มีอาการวัยหมดประจำเดือนปานกลางถึงรุนแรง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นผู้สมัคร และต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาล และความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลด้วย สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อพิจารณาความเหมาะสม
HRT สามารถใช้สำหรับผู้ชายได้หรือไม่? 
  • ใช่ การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนไม่ได้จำกัดเฉพาะสตรีเท่านั้น ผู้ชายอาจได้รับการบำบัดทดแทนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพื่อจัดการกับอาการที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับภาวะฮอร์โมนเพศชายหรือวัยชรา
  •  
มีทางเลือกอื่นแทน HRT ในการจัดการอาการวัยหมดประจำเดือนหรือไม่? 
  • การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำ อาหารเพื่อสุขภาพ และการจัดการความเครียด สามารถช่วยจัดการกับอาการวัยหมดประจำเดือนได้ การใช้ยาและการบำบัดที่ไม่ใช่ฮอร์โมนอาจพิจารณาได้ตามความต้องการและความชอบส่วนบุคคล
HRT ควรดำเนินต่อไปนานแค่ไหน? 
  • ระยะเวลาของ HRT แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปจะมีการกำหนดระยะเวลาที่สั้นที่สุดที่จำเป็นในการบรรเทาอาการ และการตัดสินใจดำเนินการต่อหรือหยุดยาควรกระทำโดยปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
HRT สามารถโต้ตอบกับยาอื่น ๆ ได้หรือไม่? 
  • ใช่ HRT สามารถโต้ตอบกับยาอื่นๆ ได้ สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมด รวมถึงยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และอาหารเสริม เพื่อป้องกันการโต้ตอบที่อาจเกิดขึ้น
สรุป: การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับความไม่สมดุลของฮอร์โมน แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ใครก็ตามที่พิจารณา HRT ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะ ผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น และความเสี่ยงที่เป็นไปได้ก่อนตัดสินใจ
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด