วิตามินบี 12 หรือเรียกว่า โคบาลามิน คือ วิตามินที่จำเป็นที่ร่างกายต้องการแต่ไม่สามารถผลิตได้ด้วยตนเอง
สามารถพบได้ตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่สามารถเพิ่มเติมได้จากอาหารบางชนิด และสามารถหารับประทานในรูปแบบของอาหารเสริมชนิดรับประทาน หรือการฉีดเข้าร่างกาย
วิตามินบี12มีบทบาทมากมายต่อร่างกาย ช่วยให้เซลล์ประสาททำงานเป็นปกติ และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
สำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ วิตามินบี12แนะนำให้บริโภคต่อวันคือ 2.4 ไมโครกรัม และอาจต้องการมากกว่าสำหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
วิตามินบี 12 มีประโยชน์ต่อร่างกายในรูปแบบที่นาประทับใจหลายอย่าง เช่นการเสริมสร้างพลังงาน การทำให้ความจำดีขึ้น และช่วยป้องกันโรคหัวใจ
ต่อไปนี้คือ 9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพจากวิตามินบี12 โดยอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
1. ช่วยการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและป้องกันโรคโลหิตจาง
วิตามินบี 12 มีบทบาทที่จำเป็นในการช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ระดับวิตามินบี12ต่ำเป็นสาเหตุทำให้การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงลดลง เซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีสุขภาพดีจะมีขนาดเล็ก และกลม ถ้าเม็ดเลือดแดงเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีลักษณะเป็นวงรีอาจแสดงว่าเกิดภาวะพร่องวิตามินบี12 เพราะมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีรูปทรงที่ผิดปกติ ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่สามารถเคลื่อนย้ายจากไขกระดูกเข้าสู่กระแสเลือดในอัตราที่เหมาะสม เป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางเมกะโลบลาติก เมื่อมีภาวะโลหิตจาง ร่างกายเราจะไม่มีเซลล์เม็ดเลือดแดงเพียงพอที่จะลำเลียงออกซิเจนไปสู่อวัยวะที่จำเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเหนื่อยล้า และอ่อนแรง2. อาจช่วยป้องกันภาวะความผิดปกติของทารกโดยกำเนิด
การมีระดับวิตามินบี12ทีพอเหมาะคือสิ่งสำคัญสำหรับการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพที่ดี จากการศึกษาพบว่าสมองของทารก และระบบประสาทต้องการระดับบี12ที่เพียงพอจากมารดาเพื่อการพัฒนาที่เหมาะสม ภาวะพร่องวิตามินบี12ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อาจเพิ่มความเสี่ยงภาวะทารกพิการแต่กำเนิด เช่นภาวะหลอดประสาทไม่ปิด ยิ่งไปกว่านั้น การขาดวิตามินบี12ยังอาจส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด หรือการแท้งบุตร จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีระดับวิตามินบี12ต่ำกว่า 250 mg/dL ส่งผลต่อเด็กในการเกิดภาวะพิการแต่กำเนิดมากถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับคนที่มีระดับวิตามินบี12ที่เหมาะสม ผู้หญิงที่มีภาวะพร่องวิตามินบี12 และมีระดับต่ำกว่า 150 mg/dL จะมีความเสี่ยงสูงถึงห้าเท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มีระดับสูงกว่า 400 mg/dL3. อาจช่วยให้กระดูกมีสุขภาพที่ดี และป้องกันโรคกระดูกพรุน
การรักษาระดับของวิตามินบี12ที่เหมาะสมอาจช่วยทำให้กระดูกมีสุขภาพที่ดี จากการศึกษาผู้ใหญ่มากกว่า 2,500 คนที่มีภาวะพร่องวิตามินบี12 พบว่ามีความหนาแน่นกระดูกน้อยกว่าปกติ ความหนาแน่นกระดูกที่ลดลงสามารถทำให้กระดูกเปราะ และแตกหักง่ายเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภาวะกระดูกพรุน จากการศึกษาอื่นๆแสดงให้เห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันระหว่างการมีระดับวิตามินบี12ต่ำและภาะวะกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้หญิง อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ กระดูกหัก4. อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม
โรคตาที่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นบริเวณตรงกลาง การรักษาระดับของวิตามินบี12ให้มีความเหมาะสมอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ นักวิจัยเชื่อว่าอาหารเสริมที่มีวิตามินบี12อาจทำให้โฮโมซีสทีนต่ำ เป็นกรดอะมิโนที่ถูกพบในกระแสโลหิตของเรา โฮโมซีสทีนสูงมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ จากการศึกษาผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปจำนวน 5,000 คน ที่ได้รับอาหารเสริมที่มีวิตามินบี12 ร่วมกกรดโฟลิคและวิจามินบีAอาจช่วยลดตวามเสี่ยงได้ กลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมเหล่านี้เป็นเวลา 7 ปีมีเพียงไม่กี่รายที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุเมื่อเทียบกับกลุ่มกินยาหลอก5.อาจช่วยทำให้อารมณ์ และอาการซึมเศร้าดีขึ้น
วิตามินบี12ช่วยเรื่องของอารมณ์ ผลที่ได้ของวิตามินบี12ในเรื่องของอารมณ์ยังไม่เป็นที่เข้าใจได้มากนัก แต่อย่างไรก็ตามวิตามินชนิดนี้มีบทบาทที่จำเป็นในการสังเคราะห์ และเผาผลาญเซโรโทนิน สารเคมีที่มีส่วนรับผิดชอบในการควบคุมอารมณ์ การขาดวิตามินบี12อาจทำให้การผลิตเซโรโทนินลดลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอารมณ์หดหู่ การใช้อาหารเสริมวิตามินบี12ช่วยทำให้อาการซึมเศร้าในคนที่ขาดวิตามินชนิดนี้ดีขึ้นได้ คนที่มีภาวะซึมเศร้า และมีวิตามินบี12ต่ำพบว่าการได้รับยาต้านซึมเศร้าร่วมกับวิตามินบี12อาจช่วยทำให้อาการหดหู่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาต้านซึมเศร้าเพียงอย่างเดียว6. มีประโยชน์ต่อสมองด้วยการป้องกันการสูญเสียนิวรอน (เซลล์ประสาท)
ภาวะพร่องวิตามินบี12มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญเสียความจำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ วิตามินมีบทบาทในการช่วยป้องกันสมองฝ่อ ซึ่งเป็นการสูญเสียนิวรอนในสมองและมักเกิดขึ้นร่วมกับกับการสูญเสียความจำหรือสมองเสื่อม จากการศึกษาในคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมในระยะแรกแสดงให้เห็นว่าการรับประทานวิตามินบี12ร่วมกับอาหารเสริมกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยชะลอจิตเสื่อมได้7. อาจช่วยเสริมสร้างพลังงาน
วิตามินบีทุกชนิดมีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงานของร่างกาย ถึงแม้ตัววิตามินเองจะไม่ได้ให้พลังงานเองก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าวิตามินบี12สามารถเสริมสร้างพลังงานในคนที่พร่องวิตามินได้ แต่คนที่มีสัญญานของการพร่องวิตามินบี12ส่วนใหญ่มักมีอาการเหนื่อยล้า หรือหมดพลังาน อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์8. อาจช่วยให้หัวใจมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยการลดโฮโมฮีสทีนลง
ระดับกรดอะมีโนโฮโมฮีสทีนในเลือดสูงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ หากพบว่ามีภาวะพร่องวิตามินบี12อย่างเห็นได้ชัด ระดับโฮโมฮีสทีนก็จะเริ่มสูงขึ้น จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าวิตามินบี12อาจช่วยลดระดับโฮโมฮีสทีนลง ซึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ9. ช่วยให้ผม ผิว และเล็บมีสุขภาพที่ดี
การได้รับวิตามินบี12 มีบทบาทในการผลิตเซลล์ ระดับของวิตามินที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ผม ผิว และเล็บมีสุขภาพที่ดี เมื่อระดับวิตามินบี12ต่ำสามารถก่อให้เกิดอาการของโรคผิวหนังได้หลายอย่าง ซึ่งรวมไปถึงภาวะไฮเปอร์พิกเมนเทชั่น เล็บเปลี่ยนสี ผมมีการเปลี่ยนแปลง โรคด่างขาว (ภาวะสูญเสียสีผิวเป็นหย่อมๆ) และปากนกกระจอก(เกิดการติดเชื้อ และมีแผลแตกที่มุมปาก) อาหารเสริมที่มีวิตามินบี12แสดงว่าทำให้อาการโรคผิวหนัดีขึ้นในคนที่ขาดวิตามินบี12 คนที่มีภาวะเสี่ยงของการขาดวิตามินบี12 คือ ใครบ้าง? การขาดวิตามินบี12สามารถเกิดขึ้นได้ 2 ทาง หนึ่งคือขาดจากการรับประทานอาหารหรือร่างกายไม่สามารถดูดซับจากอาหารที่รับประทานได้เต็มที่ คนที่มีความเสี่ยงในการขาดวิตามินบี12คือ:- ผู้สูงอายุ
- คนที่มีโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคโครห์น หรือโรคซีลิแอค
- คนที่ได้รับการผ่าตัดทางเดินอาหาร เช่นการผ่าตัดลดความอ้วน หรือการผ่าตัดลำไส้
- คนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด
- คนที่รับประทานยาเมตฟอร์มินเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
- คนที่รับประทานยายับยั้งการหลั่งกรดสำหรับการเจ็บหน้าอกบ่อยๆเรื้อรัง
บทสรุป
วิตามินบี12คือ วิตามินที่สามารถละลายได้ในน้ำ ซึ่งจะต้องได้รับผ่านการบริโภค หรืออาหารเสริม วิตามินบี12มีส่วนรับผิดชอบต่อการทำงานของร่างกายหลายอย่าง และอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายรูปแบบ เช่นป้องกันความพิการแต่กำเนิดในทารก ช่วยสุขภาพของกระดูก ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น และทำให้ผิวหนัง และเส้นผมมีสุขภาพที่ดี การได้รับวิตามินบี12ที่เพียงพอผ่านการบริโภคคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่อย่างไรก็ตามหากเกิดปัญหาในการได้รับที่พอเพียง หรือมีโรคที่ส่งผลต่อการดูดซึม อาหารเสริมคือวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้รับวิตามินบี12 เพิ่มเติมอาการของการขาดวิตามินบี 12:
ความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอ:
- วิตามินบี 12 เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตพลังงาน การขาดอาจส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าและอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
ปัญหาทางระบบประสาท:
- วิตามินบี 12 มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเส้นประสาท การขาดสารอาหารอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ชา รู้สึกเสียวซ่า และเดินลำบาก
โรคโลหิตจาง:
- วิตามินบี 12 ที่ไม่เพียงพอสามารถนำไปสู่โรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก ทำให้ผิวซีดหรือดีซ่าน หายใจลำบาก และใจสั่น
ความบกพร่องทางสติปัญญา:
- การสูญเสียความทรงจำ ความยากลำบากในการมุ่งเน้น และการเปลี่ยนแปลงอารมณ์อาจเกิดขึ้นได้เมื่อขาดวิตามินบี 12 ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของการรับรู้
วิธีแก้ปัญหาการขาดวิตามินบี 12:
การเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหาร:
- รวมอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 12 ไว้ในอาหารของคุณ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม หากรับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกน ให้พิจารณารับประทานอาหารเสริมหรืออาหารเสริมวิตามินบี 12
การเสริม:
- อาหารเสริมวิตามินบี 12 มีจำหน่ายหลายรูปแบบทั้งแบบเม็ด แบบฉีด และแบบเม็ดอมใต้ลิ้น ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดตามความต้องการส่วนบุคคล
ระบุสภาวะสุขภาพที่สำคัญ:
- หากสงสัยว่ามีปัญหาการดูดซึมวิตามินบี 12 โปรดปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อจัดการกับสภาวะที่ซ่อนอยู่และปรับปรุงการดูดซึมบี 12
การตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยระบุและแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรง
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น