ทุเรียน (Durian) เป็นผลไม้เขตร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่นิยมในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผลไม้ที่ได้ฉายาว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ทุเรียนยังมีสารอาหารมากมายมากกว่าผลไม้อื่นๆ
แต่กระนั้น ทุเรียนก็เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกลิ่นเพราะเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นรุนแรงมาก สำหรับผู้ที่ไม่ชอบ
ทุเรียนคือผลไม้อะไร
ทุเรียนเป็นผลไม้ในเขตร้อนที่โดดเด่น เพราะมีขนาดใหญ่และมีเปลือกที่เป็นหนามแข็งและแหลม มีกลิ่นรุนแรง เนื้อสัมผัสคล้ายคัสตาร์ดที่มีเม็ดขนาดใหญ่ ทุเรียนมีหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่เป็นที่นิยมคือ Durio zibethinus ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีเนื้อหลายสี แต่ส่วนใหญ่มักมีสีเหลืองหรือขาว แต่ก็อาจมีสีแดงหรือสีเขียวก็ได้ ทุเรียนเป็นผลไม้ในเขตร้อนที่มีทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่มักอยู่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นมาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย ขนาดผลอาจใหญ่ได้ถึง 1 ฟุต (30ซ.ม) และกว้างถึง 6 นิ้ว (15 ซ.ม)ทุเรียนนำมาทำอะไรได้บ้าง
ทุเรียนนำมาใช้ได้ทั้งในอาหารหวานและคาว รับประทานได้ทั้งเนื้อและเม็ด เพียงแต่เม็ดทุเรียนต้องนำไปปรุงให้สุกเสียก่อน รสชาติของทุเรียนจะมีรสคล้ายชีส อัลมอนด์ กระเทียมและคาราเมลรวมกัน เรานำทุเรียนไปประกอบอาหารได้เช่น:- ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน
- เม็ดทุเรียน ต้ม เผาหรืออบ
- ลูกอม ไอศกรีม และของหวานอื่นๆ
- เป็นเครื่องเคียง
คนท้องกินทุเรียนได้ไหม
กินได้ การตั้งท้องไม่ใช่อาการป่วย จึงไม่เป็นข้อห้ามในการกินผลไม้กลิ่นแรง รสอร่อยนี้ แต่ปริมาณการกินเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการตั้งท้อง มดลูกจะใหญ่ขึ้นดันอวัยวะภายในช่องท้องขึ้นมาใกล้กะบังลม เมื่อท้องใหญ่ขึ้นหญิงจะกินอาหารได้น้อยลงตามธรรมชาติ ดังนั้น ถ้ากินพอเหมาะก็ไม่มีปัญหาอะไร และถ้ากินทุเรียนมาก อาจมีปัญหาเรื่องน้ำหนักได้ทุเรียนมีสรรพคุณอะไรบ้าง
สรรพคุณตามตำรายาไทยระบุว่า- รากทุเรียน มีรสฝาดขมใช้แก้ไข้และแก้ท้องร่วง
- ใบทุเรียน มีรสขม เย็นเฝื่อน ใช้แก้ไข้ แก้ดีซ่าน ขับพยาธิ และทำให้หนองแห้ง
- เปลือกทุเรียน มีรสฝาดเฝื่อน ใช้รักษากลากเกลื้อน สมานแผล แก้น้ำเหลืองเสีย พุพอง แก้ฝี ตานซาง
- เนื้อทุเรียน มีรสหวาน ร้อน ใช้แก้จุกเสียดในท้อง ให้ความร้อนกับร่างกาย บำรุงกำลัง แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝีแห้ง และขับพยาธิไส้เดือน
ห้ามกินทุเรียนกับอะไรบ้าง
ไม่มีข้อห้ามกินทุเรียนกับอาหารหรือเครื่องดื่มใดๆ อย่างเป็นทางการ แต่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมโทษของทุเรียน
ทุเรียนมีแคลอรีสูง อาจทำให้น้ำหนักขึ้น ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรรับประทานด้วยความยับยั้งชั่งใจแคลอรี่ และสารอาหารในทุเรียน
ทุเรียนมีสารอาหารสูงเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ เนื้อทุเรียนหนึ่งถ้วย (243กรัม) มี:- แคลอรี่: 357
- ไขมัน: 13 กรัม
- คาร์บ: 66 กรัม
- ใยอาหาร: 9 กรัม
- โปรตีน: 4 กรัม
- วิตามินซี: 80% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ไทแอมีน: 61% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- แมงกานีส: 39% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี6: 38% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- โปแตสเซียม: 30% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ไรโบเฟลวิน: 29% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ทองแดง: 25% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- โฟเลต: 22% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- แมกนีเซียม: 18% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ไนอาซิน: 13% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ประโยชน์ต่อสุขภาพของทุเรียน
ทุกส่วนของต้นทุเรียน -ใบ เปลือก ราก และผล -พบว่านำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้หลายอย่างในประเทศมาเลเซีย รวมไปถึงอาการไข้สูง ดีซ่านและโรคผิวหนัง จากการศึกษายังพบว่าทุเรียนมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังต่อไปนี้:- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง การศึกษาในหลอดทดลองพบว่าทุเรียนช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งเต้านมแพร่กระจายได้
- ป้องกันโรคหัวใจ มีสารประกอบหลายตัวในทุเรียนที่อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
- ต้านการติดเชื้อ เปลือกทุเรียนมีสารประกอบที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียและโรคติดเชื้อรา
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด ทุเรียนมีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำกว่าผลไม้เขตร้อนอื่นๆ ซึ่งทำให้ระดับนำ้ตาลในเลือดขึ้นอย่างช้าๆหลังจากกินเข้าไป
ทุเรียนมีแนวโน้มส่งผลให้เกิดอันตรายหากรับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์
การบริโภคทุเรียนพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สารประกอบคล้ายซัลเฟอร์ในทุเรียนอาจช่วยขัดขวางเอนไซม์จากการย่อยสลายแอลกอฮอล์ ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเพิ่มขึ้นจนถึงระดับอันตรายได้ อาจมีอาการเช่น คลื่นไส้ อาเจียนและหัวใจสั่น เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทุเรียนพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์วิธีรับประทานทุเรียน
การปอกเปลือกทุเรียนถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะเปลือกทุเรียนจะมีหนามแหลมและแข็ง จึงต้องใช้ถุงมือในการป้องกันมือตัวเอง คุณต้องกรีดที่เปลือกด้วยมีดและงัดเปลือกออกด้วยมือก่อนที่จะต้องค่อยๆนำเนื้อทุเรียนออกมา คุณสามารถรับประทานแบบสดๆได้เลย อาจรับประทานร่วมกับข้าวเหนียวมูล หรือนำไปเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารจานอื่นๆ คุณสามารถค้นหาวิธีปอกเปลือกทุเรียน รวมถึงสูตรอาหารต่างๆที่ใช้ทุเรียนได้ตามออนไลน์ เนื้อทุเรียนสามารถขายแบบแช่แข็งได้ ซึ่งอาจทำให้ผิวสัมผัสเปลี่ยนไปเล็กน้อย อาจร่อนและเหนียวทำไมทุเรียนถึงมีกลิ่นรุนแรง
ความคิดเห็นเรื่องกลิ่นของทุเรียนมีหลากหลาย บางคนชอบมากในขณะที่บางคนก็เกลียดมาก กลิ่นที่รุนแรงนี้มีคนอธิบายไว้ว่าทุเรียนนั้นมีกลิ่นคล้ายกลิ่นของซัลเฟอร์ กลิ่นเน่า กลิ่นผลไม้ น้ำผึ้ง และมีกลิ่นหัวหอมเน่า การจากศึกษาสารประกอบของกลิ่นทุเรียนพบว่ามีสารประกอบมากถึง 44 ชนิด ซึ่งรวมไปถึงกลิ่นเหม็น คาราเมล ไข่เน่า และผลไม้ กลิ่นของทุเรียนมักทำให้ห้ามนำเข้าไปในหลายๆโรงแรมและในระบบขนส่งสาธารณะในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจของทุเรียน
ทุเรียนเป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีกลิ่นฉุนและรสชาติเฉพาะตัว ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับทุเรียนมีดังต่อไปนี้:- “ราชาแห่งผลไม้”:ทุเรียนมักถูกเรียกว่า “ราชาแห่งผลไม้” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- กลิ่นฉุน:ทุเรียนมีชื่อเสียงในด้านกลิ่นหอมฉุน ซึ่งบางคนพบว่าน่าพึงพอใจและคนอื่นๆ อธิบายว่าฉุนและไม่พึงประสงค์ ในบางสถานที่ แม้กระทั่งการขนส่งสาธารณะและโรงแรมก็ไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากมีกลิ่นของมัน
- พันธุ์:ทุเรียนมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว พันธุ์มูซังคิง D24 และหมอนทองเป็นพันธุ์ยอดนิยมบางพันธุ์
- แหล่งกำเนิดเขตร้อน:ทุเรียนมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์
- ลักษณะภายนอก:ผลมีลักษณะเด่นมีเปลือกสีเขียวหรือสีน้ำตาลแหลมคม
- ภายใน:เนื้อทุเรียนมีลักษณะเป็นครีม คล้ายคัสตาร์ด และมีสีเหลืองอ่อนถึงสีส้ม ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น หวาน และบางครั้งก็เผ็ด
- อุดมไปด้วยสารอาหาร:ทุเรียนเป็นแหล่งใยอาหาร วิตามิน (เช่น วิตามินซีและวิตามินบี) และแร่ธาตุ (รวมถึงโพแทสเซียมและทองแดง) ที่ดี นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ค่อนข้างสูงเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลตามธรรมชาติ
- การใช้ประโยชน์ในการประกอบอาหาร:ทุเรียนถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลายประเภท ตั้งแต่ขนมหวานไปจนถึงอาหารคาว มักใช้ในไอศกรีม ลูกอม เค้ก และแม้แต่ในแกงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบดั้งเดิม
- ความสำคัญทางวัฒนธรรม:ทุเรียนมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่ง และมีปรากฏในเทศกาล นิทานพื้นบ้าน และพิธีกรรมต่างๆ
- ผลไม้ตามฤดูกาล:ทุเรียนเป็นผลไม้ตามฤดูกาล และมีจำหน่ายแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาคและพันธุ์ ฤดูทุเรียนหลักมักอยู่ในช่วงฤดูร้อน
- การเก็บเกี่ยว:ทุเรียนจะถูกเก็บเกี่ยวเมื่อสุก และสิ่งสำคัญคือต้องกำหนดเวลาเก็บเกี่ยวให้ถูกต้อง เนื่องจากหลังจากเก็บแล้วผลไม้จะสุกได้ไม่ดีนัก
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:เชื่อกันว่าทุเรียนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ให้สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อยอาหาร และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม มีน้ำตาลธรรมชาติและแคลอรี่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
สรุป
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารเพื่อสุขภาพมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งรวมไปถึงวิตามินบี วิตามินซี แร่ธาตุ สารประกอบพืช ไขมันเพื่อสุขภาพและใยอาหาร แต่กระนั้นเรื่องของกลิ่นและรสชาติก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะชอบหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น