ไข้ละอองฟางคืออะไร
โรคไข้ละอองฟาง (Hay fever) หรือที่เราเรียกว่าโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ โรคไข้ละอองฟางสามารถเกิดขึ้นตามฤดูกาล ตลอดทั้งปี หรือเกิดจากงานประจำวัน จมูกอักเสบเกี่ยวโยงมาจากอาการระคายเคือง หรือการอักเสบในจมูก
สาเหตุของโรคไข้ละอองฟางเกิดจากอะไร
โดยปกติโรคไข้ละอองฟางมักเกิดขึ้นทันทีที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ที่สามารถพบเจอได้ทั่วไปทั้งในที่อยู่อาศัย หรือนอกที่อยู่อาศัย ทั้งตามฤดูหรืออาจเป็นตลอดทั้งปี
สารก่อภูมิแพ้ที่พบเห็นได้ทั่วไปคือ:
-
ละอองเกสรดอกไม้
-
ขนสัตว์
-
ไรฝุ่น
-
ควันบุหรี่
-
น้ำหอม
สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ ระบบภูมิต้านทานของเราจะสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันสารดังกล่าว สารแอนติบอดี้จะส่งสัญญานผ่านเส้นเลือด ร่างกายจะสร้างสารฮิสตามีนขึ้นมาจึงเกิดอาการของโรคไข้ละอองฟางในที่สุด
ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม
โอกาสการเกิดภาวะภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น หากมีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคภูมิแพ้ จากการศึกษาพบว่า หากพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคไข้ละอองฟางก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนโรคหอบหืด และโรคผิวหนังอักเสบไม่ได้มาจากโรคภูมิแพ้ จึงไม่ใช้ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไข้ละอองฟาง
อาการทั่วไปที่พบได้คือ:
-
คันคอหรือเพดานปาก
-
มีเสมหะในคอ
-
คันจมูก
-
ปวดไซนัส
-
คันผิว
ไข้ละอองฟางอาจเป็นอยู่อย่างเรื้อรังหากไม่ได้รับการรักษา
อาการโรคไข้ละอองฟางแตกต่างจากไข้หวัดอย่างไร
ถึงแม้ว่าอาการของโรคไข้ละอองฟางและไข้หวัดจะมีความคล้ายกันมากก็ตาม แต่มีจุดที่แตกต่างใหญ่ๆ คือ ไข้หวัดจะทำให้เป็นไข้ และปวดตามตัว การรักษาของทั้ง 2 โรคก็แตกต่างกันมาก.
ข้อแตกต่าง |
ไข้ละอองฟาง |
ไข้หวัด |
เวลา |
โรคไข้ละอองฟางจะเกิดขึ้นในทันทีหลังเจอสารก่อภูมิแพ้ |
ไข้หวัดจะเริ่มภายใน 1-3 วันหลังจากติดเชื้อไวรัส |
ระยยะเวลา |
โรคไข้ละอองฟางจะยังมีอาการอยู่หากยังต้องสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ปกติแล้วมักมีอาการนานหลายอาทิตย์ |
ไข้หวัดตามปกติมักมีอาการอยู่ราว 3-7 วัน |
อาการ |
โรคไข้ละอองฟางทำให้มีน้ำมูกไหลใสๆ |
ไข้หวัดทำให้มีน้ำมูกไหลข้นและอาจเป็นสีเหลือง |
ไข้สูง |
ไข้ละอองฟางจะไม่มีไข้ |
ไข้หวัด จะมีไข้ต่ำๆ |
ภาวะโรคอื่นๆ ที่คล้ายกับไข้ละอองฟาง
โรคอื่นๆอาจมีอาการคล้ายกับโรคไข้ละอองฟางได้เช่น
-
จามบ่อย
-
จมูกอักเสบติดเชื้อ รวมถึงการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน
-
จมูกอักเสบมีการระคายเคือง เป็นปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงทางกาย หรือสารเคมี
อาการโรคไข้ละอองฟางในเด็กทารก และเด็กเล็ก
โรคไข้ละอองฟางเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กมากที่สุด และจะค่อยๆดีขึ้นก่อนอายุ 3 ขวบ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลอาการภูมิแพ้ โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด และเด็กเล็ก เพราะโรคไข้ละอองฟางที่มีอาการรุนแรงอาจนำไปสู่ปัญหาโรคอื่นๆ ในระยะยาวได้ อย่างเช่น หอบหืด ไซนัสอักเสบ หรือการติดเชื้อในช่องหูเรื้อรัง จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่ายีนอาจเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าโรคหอบหืดของเด็กอาจจะพัฒนาควบคู่ไปกับโรคไข้ละอองฟาง
เด็กเล็กอาจต้องประสบปัญหายุ่งยากมากในการจัดการกับอาการโรคไข้ละอองฟางมากกว่าวัยอื่น เพราะส่งผลต่อสมาธิ และการนอน บางครั้งอาการที่เป็นอาจทำให้สับสนกับโรคไข้หวัดได้ โรคไข้ละอองฟางนี้เด็กจะไม่มีไข้เหมือนโรคไข้หวัด แต่อาการจะยังคงอยู่ไปประมาณ 2-3 อาทิตย์
อาการระยะยาวของโรคไข้ละอองฟางคืออะไร
อาการของโรคไข้ละอองฟางบ่อยครั้งมักเกิดขึ้นแบบฉับพลันหลังจากเจอกับสารก่อภูมิแพ้ และอาจมีอาการอยู่สองถึงสามวัน เช่น:
ยิ่งอาการมีอยู่นานมากเท่าไรยิ่งส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ในทางที่แย่ลงได้มากขึ้นเท่านั้น เช่น
-
คุณภาพในการนอน
-
อาการหอบหืด (Ashma)
-
อาการที่เกิดขึ้นส่งผลให้คุณภาพชีวิตไม่มีความสุขในการทำกิจกรรม หรืออาจเป็นสาเหตุให้ประสิทธิภาพในการเรียนหรือการทำงานลดลง หรืออาจมีความจำเป็นต้องทำงานหรือเรียนที่บ้านได้เท่านั้นl
-
การติดเชื้อที่ช่องหู โดยเฉพาะในเด็ก
-
ตาแดง หรือภูมิแพ้ขึ้นตา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ และทำให้เกิดการระคายเคืองที่เนื้อเยื่อบริเวณตา
-
ไซนัสอักเสบ
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการของโรคไข้ละอองฟางเหมือนกับโรคไข้หวัด โดยเฉพาะในรายที่เป็นโรคในระยะเวลานาน และมีอาการแย่ลง
สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการมีอะไรบ้าง
อาการของโรคมีหลายแบบขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงของเวลา ถิ่นที่อยู่อาศัย และรูปแบบการแพ้ที่ผู้ป่วยเป็น การทราบสาเหตุจะสามารถช่วยให้เราเตรียมรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้ก่อนล่วงหน้า ในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิจะส่งผลต่อผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ตามฤดูกาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับการช่วงดอกไม้บานตามธรรมชาติของดอกไม้แต่ละชนิดในแต่ละช่วงเวลาของปี เช่น
-
ละอองเกสรของต้นหญ้า ต้นไม้ หรือดอกไม้
-
การแพ้ละอองเกสรจะยิ่งทำให้อาการแย่ลงในวันที่มีอากาศร้อน แห้ง วันที่ลมพัดพาเอาละอองเกสรมา
แต่อาการของโรคไข้ละอองฟางก็อาจปรากฎให้เห็นได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน หากผู้ป่วยมีอาการแพ้สารก่อภูมิแพ้ในที่อยู่อาศัย เช่น
-
ไรฝุ่น
-
ขนสัตว์
-
แมลงสาบ
-
เชื้อรา
บางครั้งอาการไข้ละอองฟางจากสารก่อภูมิแพ้อาจปรากฏให้เห็นได้ตามฤดูกาลด้วย การแพ้พวกเชื้อราอาจจะยิ่งแย่ลงในช่วงอากาศอบอุ่น หรือช่วงอากาศชื้น
สาเหตุที่ทำให้อาการโรคไข้ละอองฟางแย่ลง
อาการของโรคไข้ละอองฟางจะยิ่งแย่ลงหากมีการกระตุ้นจากสิ่งอื่นๆ ด้วย เพราะโรคไข้ละอองฟางเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุจมูก และทำให้จมูกยิ่งไวต่อการกระตุ้นในอากาศมากขึ้น
สิ่งกระตุ้นเช่น
-
ควันจากการเผา
-
มลภาวะทางอากาศ
-
ควันบุหรี่
-
ลม
-
ยาฆ่าแมลง
-
กลิ่นฉุน
-
อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
-
ความชื้นเปลี่ยนแปลง
-
กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ
ไข้ละอองฟางควรไปพบแพทย์เมื่อไร
อาการของโรคไข้ละอองฟางไม่ใช่อาการที่เป็นอันตรายแบบเฉียบพลัน การทดสอบภูมิแพ้ไม่ได้วินิจฉัยโรคไข้ละอองฟาง ควรปรึกษาแพทย์หากพบว่า อาการไม่ดีขึ้นหลังจากได้รับยาที่คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อทดสอบภูมิแพ้ในการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
ควรไปพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้
-
มีอาการนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
-
ยาสามัญที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปไม่สามารถบรรเทาอาการได้
-
มีโรคอื่นร่วม เช่น โรคหอบหืดอาจทำให้อาการของโรคไข้ละอองฟางยิ่งแย่ลง
-
โรคไข้ละอองฟางที่เกิดอาการตลอดทั้งปี
-
มีอาการที่รุนแรง
-
การรับประทานยาแก้แพ้แล้วเกิดผลข้างเคียง
วิธีการดูแลและจัดการกับอาการ
ด้วยการดูแลตัวเองที่บ้าน และการวางแผนที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการได้ ทั้งยังสามารถลดโอกาสการเกิดอาการที่มาจากการสัมผัสฝุ่น และเชื้อราได้โดยการทำความสะอาด และระบายอากาศในห้อง สำหรับสภาวะแวดล้อมนอกที่พักอาศัยสามารถดาวน์โหลดแอป เพื่อดูความแรงของลมซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัดพาละอองเกสรได้
การเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันที่ช่วยลดโอกาสเป็นไข้ละอองฟาง เช่น
-
ปิดหน้าต่างให้สนิทอยู่เสมอ เพื่อป้องกันละอองเกสรเข้ามา
-
สวมแว่นตาไว้ เพื่อป้องกันดวงตาเวลาออกไปข้างนอก
-
ใช้เครื่องดูดความชื้น เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
-
ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสสัตว์
-
บรรเทาอาการคัดจมูกโดยใช้กาเนติ
-
ใช้สเปรย์พ่นน้ำเกลือ เพื่อลดเสมหะในคอ บรรเทาอาการเจ็บคอ
ทางเลือกในการรักษาสำหรับเด็ก เช่น
-
ใช้ยาหยอดตา
-
ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
-
ยาต้านฮีสตามีนชนิดไม่ง่วง
-
ฉีดยาแก้แพ้ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้กับเด็กที่อายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป
ทางเลือกในการรักษาอื่นๆที่อาจไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าได้ผลมากนัก แต่ก็อาจช่วยได้บ้าง คือ การเลือกรับประทานอาหารบางชนิด เช่น
-
สารสกัด butterbur
-
สาหร่ายสไปรูลิน่า
-
พริกชี้ฟ้า
-
น้ำมันปลา
แม้แต่น้ำผึ้งเองก็ยังสามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ตามฤดูกาลได้ แต่ในผู้ที่แพ้ผึ้งควรหลีกเลี่ยง แต่หากไม่แพ้การรับประทานน้ำผึ้งจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรือคันคอได้
การรักษาด้วยยา
มียาต้านฮีสตามีนชนิดไม่ง่วงหลายชนิดที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ที่สามารถนำมาใช้ป้องกันไม่ให้เกิดอาการได้ก่อนที่จะต้องไปสัมผัสกับละอองเกสรที่แพ้ล่วงหน้า ควรปรึกษาเภสัชกร เพื่อหาชนิดของยาที่เหมาะสม และดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยด้วยยาที่แพทย์สั่ง รวมไปถึงการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด หรือการฉีดยาแก้แพ้
ภาวะแทรกซ้อนของไข้ละอองฟาง
ไข้ละอองฟางหรือที่เรียกว่าโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อละอองเกสรดอกไม้หรือสารก่อภูมิแพ้ในอากาศอื่นๆ แม้ว่าไข้ละอองฟางจะไม่รุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สามารถนำไปสู่โรคแทรกซ้อนหรือทำให้ปัญหาสุขภาพอื่นๆ รุนแรงขึ้นได้ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นและข้อควรพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับไข้ละอองฟาง ได้แก่:- โรคหอบหืด : คนที่เป็นไข้ละอองฟางมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคหอบหืดหรือทำให้อาการหอบหืดแย่ลง ซึ่งเป็นภาวะระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง การอักเสบและการระคายเคืองในทางเดินหายใจที่เกิดจากไข้ละอองฟางสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคหอบหืดในบุคคลที่อ่อนแอได้
- ไซนัสอักเสบ : ไซนัสอักเสบเรื้อรังอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้ละอองฟาง อาการคัดจมูกและอักเสบอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดการอุดตันในช่องไซนัส เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไซนัส
- การติดเชื้อที่หู : เด็กที่เป็นไข้ละอองฟางอาจมีความไวต่อการติดเชื้อที่หูมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขามีโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ที่ไม่ได้รับการจัดการที่ดี การสะสมของของเหลวในหูชั้นกลางเนื่องจากการคัดจมูกสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการติดเชื้อได้
- ปัญหาการนอนหลับ : อาการไข้ละอองฟาง เช่น อาการคัดจมูกและจาม อาจรบกวนการนอนหลับ นำไปสู่ความเหนื่อยล้าและคุณภาพชีวิตลดลง
- ประสิทธิภาพการทำงานบกพร่อง : อาการของโรคไข้ละอองฟางอาจรบกวนสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงาน และผลการเรียนหรือการทำงาน
- การหายใจทางปาก : อาการคัดจมูกเรื้อรังอาจทำให้หายใจทางปาก ซึ่งอาจส่งผลให้ปากแห้ง กลิ่นปาก และเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาทางทันตกรรม
- อาการกำเริบของอาการอื่นๆ : อาการไข้ละอองฟางอาจทำให้อาการอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมแย่ลง เช่น กลากหรือโรคผิวหนังภูมิแพ้ เนื่องจากมีกลไกการแพ้ร่วมกัน
- ผลกระทบทางสังคมและอารมณ์ : ไข้ละอองฟางเรื้อรังสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเป็นอยู่โดยรวมของบุคคล ซึ่งนำไปสู่อาการหงุดหงิด วิตกกังวล และซึมเศร้าในบางกรณี
- คุณภาพชีวิตที่ลดลง : อาการไข้ละอองฟางเรื้อรังสามารถลดคุณภาพชีวิตของบุคคลได้โดยการจำกัดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฤดูที่มีละอองเกสรดอกไม้สูงและต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
-
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hay-fever/symptoms-causes/syc-20373039
-
https://www.nhs.uk/conditions/hay-fever/
-
https://www.medicalnewstoday.com/articles/160665
-
https://medlineplus.gov/hayfever.html
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team