อาการประสาทหลอน (Hallucinations) เป็นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่ปรากฏขึ้นจริง แต่ถูกสร้างขึ้นโดยความคิดของผู้ป่วย โดยสามารถส่งผลต่อประสาทสัมผัสทั้งห้าของ เช่น คุณอาจได้ยินเสียงที่ไม่มีใครในห้องสามารถได้ยินหรือเห็นภาพที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง
อาการเหล่านี้เกิดจากความเจ็บป่วยทางจิตใจ ผลข้างเคียงของยา หรือความเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น โรคลมชักหรือความผิดปกติจากการเมาสุรา
ผู้ป่วยอาจต้องไปพบจิตแพทย์ นักประสาทวิทยาหรือแพทย์ทั่วไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการประสาทหลอนที่ผู้ป่วยมี
การรักษา ได้แก่ การใช้ยารักษา แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลงและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อปรับปรุงอาการประสาทหลอน
โรคประสาทหลอน (Hallucinations)” width=”600″ height=”335″ />
ประเภทของประสาทหลอน
ประสาทหลอนอาจส่ผลต่อการมองเห็น การรับรู้กลิ่น รสชาติ การได้ยิน หรือประสาทสัมผัสในร่างกายอาการประสาทหลอน : เกี่ยวกับการได้กลิ่น
อาการประสาทหลอนที่เกี่ยวข้องกับการได้กลิ่น ผู้ป่วยอาจได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เมื่อตื่นขึ้นมากลางดึก หรือรู้สึกว่าร่างกายของคุณมีกลิ่นไม่ดี ทั้งที่ไม่มีกลิ่นใดๆ อาการประสาทหลอนประเภทนี้อาจรวมถึงกลิ่นที่คุณชอบเช่น กลิ่นของดอกไม้อาการประสาทหลอน : ภาพหลอน
โดยเห็นภาพหลอนที่สิ่งต่าง ๆ ที่เห็นไม่ได้อยู่ที่นั่น ภาพหลอนอาจเป็นวัตถุ รูปแบบ ภาพบุคคล หรือแสง เช่น ผู้ป่วยอาจเห็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในห้อง หรือผู้ป่วยเห็นไฟกระพริบที่ไม่มีใครเห็นอาการประสาทหลอน : เกี่ยวกับการได้ยิน / หูแว่ว
อาการประสาทหลอนประเภทนี้พบได้บ่อยที่สุด ผู้ป่วยอาจได้ยินคนที่พูดกับคุณหรือบอกให้คุณทำบางสิ่ง เสียงอาจจะโกรธเป็นกลางหรืออบอุ่น ตัวอย่างอาการประสาทหลอนทางการได้ยิน ได้แก่ ได้ยินเสียงว่ามีคนกำลังเดินอยู่ในห้องใต้หลังคา หรือเสียงแตะซ้ำ ๆอาการประสาทหลอน : เกี่ยวกับการรับรสชาติ
อาการประสาทหลอนประเภทนี้คล้ายคลึงกับอาการประสาทหลอนที่เกี่ยวกับการได้กลิ่น แต่ไปเกี่ยวข้องกับการรับรสชาติแทน รสชาติที่ได้รับจะแปลกหรือไม่เป็นที่พอใจ อาการประสาทหลอนแบบนี้พบบ่อยในผู้ป่วยโรคลมชักอาการประสาทหลอน : เกี่ยวกับการสัมผัส
ประสาทหลอนประเภทนี้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของการสัมผัส หรือการเคลื่อนไหวในร่างกายของผู้ป่วย เช่น อาจรู้สึกว่าแมลงกำลังคลานอยู่บนผิวหนัง หรืออวัยวะภายในกำลังเคลื่อนไหว ผู้ป่วยอาจรู้สึกถึงสัมผัสแห่งจินตนาการว่ามีมือผู้อื่นสัมผัสร่างกายสาเหตุของอาการประสาทหลอน
สภาวะด้านสุขภาพจิต
ความเจ็บป่วยทางจิตใจ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการประสาทหลอน เช่น โรคจิตเภท โรคสมองเสื่อม และโรคเพ้อคลั่งอาการหลอนจากยาเสพติด
การใช้สารเสพติดสามารถเป็นสาเหตุของอาการประสาทหลอน บางคนเห็นหรือได้ยินสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือใช้สารเสพติด เช่น โคเคน ในขณะที่ยากล่อมประสาท เช่น LSD และ PCP สามารถทำให้มีอาการประสาทหลอนได้เช่นกันการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้ หากนอนไม่เพียงพอเป็นระยะเวลานานก็มีแนวโน้มสูงว่าจะมีอาการประสาทหลอน นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะได้เห็นภาพหลอนก่อนนอนหลับ ซึ่งเรียกว่าภาพหลอนจากจิตหลอน หรือก่อนที่จะตื่นจากการนอนหลับ เราเรียกว่า อาการภาพหลอนแบบสะกดจิตยารักษาบางชนิด
ยาบางชนิดที่ใช้รักษาสภาพร่างกายและจิตใจ สามารถก่อให้เกิดอาการประสาทหลอนได้ เช่น ยารักษาโรคพาร์กินสัน โรคซึมเศร้า โรคจิต และโรคลมชักปัจจัยอื่นๆ
ปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้คือ:- ไข้สูง โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
- ไมเกรน
- ความโดดเดี่ยวทางสังคม พบมากในผู้สูงอายุ
- อาการชัก
- อาการหูหนวกตาบอด หรือปัญหาการมองเห็น
- โรคลมชัก (ในบางกรณีอาการชักจากโรคลมชักสามารถทำให้คุณเห็นรูปร่างกระพริบหรือจุดสว่าง)
- การเจ็บป่วยโรคร้ายแรงขั้นสุดท้าย เช่น HIV ระยะ 3 (โรคเอดส์) มะเร็งสมองหรือไตและตับวาย
การวินิจฉัยอาการประสาทหลอน
สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำ คือ เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ทันทีหากมีความสงสัยว่ารับรู้สิ่งที่ไม่ตรงกับความจริง แพทย์จะซักถามเกี่ยวกับอาการของและทำการตรวจร่างกาย รวมถึงทำการทดสอบเพิ่มเติม อาจจะมีการสแกนสมองร่วมด้วย หากรู้จักผู้ป่วยประสาทหลอน อย่าปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว ในบางครั้งความกลัวและความหวาดระแวงที่เกิดจากอาการประสาทหลอนอาจนำไปสู่การกระทำสิ่งที่ไม่สมควร คุณควรสังเกตการณ์และนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ เพื่ช่วยเหลือผู้ป่วย คุณอาจช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยและความถี่ของการเกิดอาการการรักษาอาการประสาทหลอน
แพทย์จะทำการแนะนำวิธีการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนการรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์
การเข้าปรึกษากับจิตแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาของผู้ป่วยประสาทหลอน วิธีนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการประสาทหลอนมาจากสภาวะทางจิตใจ การได้พูดคุยกับจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญได้ดี ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยผู้ป่วยพัฒนากลยุทธ์การรับมือกับอาการประสาทหลอนได้การใช้ยารักษาประสาทหลอน
การรักษาอาการประสาทหลอนขึ้นอยู่กับสาเหตุทั้งหมดของผู้ป่วย เช่น หากผู้ป่วยมีอาการประสาทหลอนจากการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก แพทย์จะให้ยาที่ลดอาการประสาทหลอนลง อย่างไรก็ตามหากอาการประสาทหลอนเกิดจากโรคพาร์กินสันและโรคสมองเสื่อม การใช้ยาชนิดเดียวกันอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ การวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญมากในการรักษาอาการประสาทหลอนอย่างมีประสิทธิภาพเราจะใช้ชีวิตกับโรคประสาทหลอนได้อย่างไร
อาการประสาทหลอนอาจเกิดจากสภาวะทางการแพทย์ต่างๆ เช่น โรคจิตเภท ความผิดปกติทางระบบประสาทบางอย่าง การใช้สารเสพติด หรือแม้แต่ยาบางชนิด สิ่งสำคัญคือต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับทั่วไปในการจัดการภาพหลอน:- ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักประสาทวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านอาการประสาทหลอนหรืออาการข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน พวกเขาสามารถทำการประเมินอย่างละเอียดและแนะนำทางเลือกการรักษาที่เหมาะสม
- การจัดการยา: หากอาการประสาทหลอนเชื่อมโยงกับสภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคจิตเภท แพทย์อาจสั่งจ่ายยารักษาโรคจิต การปฏิบัติตามตารางการใช้ยาที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการอาการอย่างมีประสิทธิภาพ
- จิตบำบัด: จิตบำบัด เช่น การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) สามารถช่วยให้บุคคลรับมือกับอาการประสาทหลอน ลดความเครียด และเรียนรู้กลยุทธ์ในการจัดการประสบการณ์ของตน
- ระบบสนับสนุน: สร้างเครือข่ายการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของครอบครัว เพื่อน หรือกลุ่มสนับสนุน การพูดคุยกับผู้อื่นที่อาจมีประสบการณ์คล้ายกันจะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจและจัดการกับอาการดังกล่าว
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: กำจัดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและลดแรงกดดันในพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเงียบสงบ
- จัดการกับความเครียด: ความเครียดอาจทำให้ภาพหลอนรุนแรงขึ้นในบางกรณี มีส่วนร่วมในกิจกรรมลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ การฝึกหายใจลึกๆ หรืองานอดิเรกที่คุณชอบ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด: การใช้สารเสพติดอาจทำให้ภาพหลอนแย่ลงได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงยาเสพติดและจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- จดบันทึก: การบันทึกภาพหลอนสามารถช่วยให้คุณและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพติดตามรูปแบบและตัวกระตุ้น ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจในการจัดการและการรักษาที่ดีขึ้น
- ยึดติดกับกิจวัตรประจำวัน: การกำหนดกิจวัตรประจำวันสามารถให้ความมั่นคงและคาดการณ์ได้ ซึ่งอาจช่วยจัดการกับอาการประสาทหลอนได้
- ให้ความรู้แก่ตัวคุณเองและคนที่คุณรัก: การทำความเข้าใจกับสภาวะและอาการสามารถช่วยให้บุคคลและระบบสนับสนุนสามารถรับมือกับความท้าทายได้ดีขึ้น
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://medlineplus.gov/ency/article/003258.htm
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/327014
- https://www.webmd.com/schizophrenia/what-are-hallucinations
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น