Griseofulvin คืออะไร
Griseofulvin oral tablets คือยาเม็ดชนิดรับประทาน และบางครั้งอาจจะมาในรูปแบบของยาน้ำ ใช้รักษาอาการเชื้อราที่เส้นผม และหนังศีรษะ รวมไปถึงเล็บและผิวหนังคำเตือน
- ยานี้อาจมีปฏิกิริยาทางผิวหนังที่ร้ายแรง และเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยอาจทำให้เกิดลมพิษ มีไข้ เกิดอาการบวมที่ลิ้น ใบหน้า ผิวหนังลอกพอง หากผู้ป่วยเกิดปฎิกริยาทางผิวหนังให้หยุดใช้ยาและโทรเรียกรถพยาบาลทันที
- ยานี้อาจทำให้ตับเกิดความเสียหาย และตับถูกทำลายอย่างร้ายแรง โดยผู้ป่วยที่ใช้ยาในปริมาณมากหรือใช้ยาในระยะเวลานานจะก่อให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้แล้วยังอาจทำให้ผิวหนังเกิดรอยฟกช้ำขึ้นได้ง่าย มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดท้อง เบื่ออาหาร ผิวเหลืองตาเหลืองเป็นต้น
- ยานี้ไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์โดยเด็ดขาด และหากกำลังใช้ยานี้อยู่ควรมีการคุมกำเนิด
กลไกการทำงานของ Griseofulvin
Griseofulvin จัดอยู่ในกลุ่มยาต้านเชื้อรา ยากลุ่มหนึ่งคือโดยมีกลไกการทำงานคือ การยับยั้งการเกิดเชื้อราที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายและยุติการแพร่กระจายของเชื้อราไม่ให้เกิดไปยังเซลล์ใหม่ผลข้างเคียงของยา Griseofulvin
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของ griseofulvin คือ :- ผื่นคันตามผิวหนัง
- อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าในมือหรือเท้า
- เชื้อราในช่องปาก
- ปวดท้อง
- ท้องเสีย
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะ
ผลข้างเคียงที่รุนแรง
หากผู้ป่วยมีอาการแพ้ยาให้ไปพบแพทย์ทันที อาการแพ้ยา มีดังนี้- อาการทางตับ เช่น:
- ผิวเกิดการช้ำง่ายกว่าปกติ
- อ่อเพลีย
- อาการปวดท้อง
- เบื่ออาหาร
- ผิวเหลืองหรือตาขาว
ปฏิกิริต่อยาอื่น ๆ
เมื่อใช้ยาบางชนิดร่วมกับ Griseofulvin อาจจะทำให้ยาเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น:- วาร์ฟาริน : แพทย์อาจเพิ่มปริมาณยาวาร์ฟารินในขณะที่ผู้ป่วยกำลังทาน Griseofulvin
- ยาคุมกำเนิด :แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยมีการคุมกำเนิดอย่างรัดกุมโดยใช้ถุงยางอนามันร่วมได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยตั้งครรภ์
- Cyclosporine :แพทย์อาจเพิ่มปริมาณของ Cyclosporine ในขณะที่ผู้ป่วยกำลังรับประทาน Griseofulvin
- Barbiturates เช่น Phenobarbital และ Butabarbital : โดยแพทย์อาจเพิ่มปริมาณยา Griseofulvin
ผลข้างเคียงต่ออาการภูมิแพ้
Griseofulvin อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง อาการอาจรวมถึง:- หายใจลำบาก
- อาการบวมที่คอหรือลิ้น
คำเตือนสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรค Porphyria (โรคเลือดทางพันธุกรรม) : ไม่ควรรับประทานยานี้ เนื่องจากอาจทำให้อาการป่วยแย่ลงได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ:ผู้ป่วยที่มีอาการทางตับไม่ควรรับประทานยานี้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคลูปัส:ยานี้อาจทำให้อาการแย่ลงหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น