หนองในแท้คืออะไร
โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ซึ่งมักเกิดในบริเวณที่อบอุ่นและชื้นของร่างกาย รวมถึง:- ท่อปัสสาวะ
- ตา
- คอ
- ช่องคลอด
- ทวารหนัก
- ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง (ท่อนำไข่ ปากมดลูกและมดลูก)
อาการของโรคหนองในแท้
อาการของหนองในแท้มักเกิดขึ้นภายใน 2 ถึง 14 วันหลังจากจากผู้ป่วยได้รับเชื้อ แต่ในบางกรณีโรคหนองในอาจไม่แสดงอาการแต่อย่างใด ผู้ป่วยที่เป็นโรคหนองในที่แสดงอาการยังสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อาการหนองในแท้ในเพศชาย
โรคหนองในแท้บริเวณอวัยวะเพศชายนั้นอาจไม่แสดงอาการที่สังเกตเห็นได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือบางคนอาจจะไม่แสดงอาการแต่อย่างใด โดยปกติอาการจะเริ่มปรากฏขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากการแพร่เชื้อ อาการแรกที่เห็นได้ชัดเจนในผู้ชายมักจะเป็นความรู้สึกแสบร้อนหรือเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศชายขณะกำลังปัสสาวะ และอาการอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้:- ปวดปัสสาวะถี่
- มีหนองออกมาจากอวัยวะเพศ โดยหนองอาจเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว
- อวัยวะเพศบวมแดง
- อาการบวมหรือปวดในอัณฑะ
- เจ็บคอ
อาการโรคหนองในแท้ในเพศหญิง
อาการของโรคหนองแท้ เมื่อเริ่มมีอาการมักจะไม่รุนแรงและระบุโรคได้ยาก โดยอาการของโรคหนองในอาจคล้ายกับอาการติดเชื้อราในช่องคลอดหรือการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป และอาจแสดงอาการอื่น ๆ ดังนี้:- มีเยื่อเมือกสีขาวหรือสีเขียวไหลออกจากช่องคลอด
- ปวดแสบอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ
- ปวดปัสสาวะบ่อย
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติ
- เจ็บคอ
- มีอาการเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อย
- มีไข้
การรักษาโรคหนองในแท้
ยาปฏิชีวนะสมัยสามารถรักษาโรคหนองในแท้ได้ยาปฎิชีวนะ
โรคหนองในแท้สามารถรักษาด้วยการฉีดยา ceftriaxone หนึ่งครั้งที่ก้นและให้รับประทานยา azithromycin อาการจะหายไปภายในเวลาไม่กี่วัน นอกจากนี้แล้วผู้ป่วยยังควรให้คู่นอนไปรับการรักษาด้วยเช่นกัน ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคหนองใน ดังนั้นควรป้องกันทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์การป้องกันโรคหนองในแท้
การป้องกันโรคหนองในเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางเพศที่ปลอดภัยและรับการทดสอบเป็นประจำหากคุณมีเพศสัมพันธ์ โรคหนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ที่เกิดจากแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae นี่คือขั้นตอนบางอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันโรคหนองใน:- งดหรือจำกัดกิจกรรมทางเพศ : วิธีป้องกันโรคหนองในที่ดีที่สุดคืองดกิจกรรมทางเพศ หากคุณมีเพศสัมพันธ์ การมีความสัมพันธ์แบบผัวเดียวเมียเดียวกับคู่นอนที่ได้รับการทดสอบและปลอดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็สามารถลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
- ใช้วิธีป้องกัน : การใช้วิธีป้องกันอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ เช่น ถุงยางอนามัย ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก และทางปาก สามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อหนองในได้อย่างมาก ถุงยางอนามัยสร้างเกราะป้องกันที่ป้องกันการสัมผัสระหว่างผิวหนังโดยตรงและการแลกเปลี่ยนของเหลวในร่างกาย
- รับวัคซีน : ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับโรคหนองในโดยเฉพาะ แต่กำลังมีการวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีน ติดตามความคืบหน้าทางการแพทย์ในพื้นที่นี้
- การตรวจภายในเป็นประจำ : หากคุณมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคู่นอนหลายคน จำเป็นต้องได้รับการตรวจ STI เป็นประจำ รวมถึงหนองในและการติดเชื้ออื่นๆ การตรวจหาและรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนและการแพร่กระจายต่อไปได้
- การสื่อสาร : การสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมากับคู่นอนของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษาเรื่องสุขภาพทางเพศ การทดสอบ STI และวิธีการป้องกันกับพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณทั้งคู่มีความเห็นตรงกันในเรื่องความปลอดภัย
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนเยอะ : ยิ่งคุณมีคู่นอนมากเท่าใด ความเสี่ยงในการติดโรคหนองในและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น การจำกัดจำนวนคู่นอนสามารถลดความเสี่ยงของคุณได้
- ปฏิบัติสุขอนามัยที่ดี : แม้ว่าสุขอนามัยที่ดีจะไม่สามารถป้องกันโรคหนองในได้อย่างสมบูรณ์ แต่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้ การล้างบริเวณอวัยวะเพศก่อนและหลังกิจกรรมทางเพศสามารถช่วยลดโอกาสแพร่เชื้อแบคทีเรียได้
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด : การใช้สารเสพติด โดยเฉพาะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและการใช้สารเสพติด อาจทำให้วิจารณญาณและการตัดสินใจแย่ลง นำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเลือกได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/gonorrhea/symptoms-causes/syc-20351774
- std/gonorrhea/stdfact-gonorrhea.htm”>https://www.cdc.gov/std/gonorrhea/stdfact-gonorrhea.htm
- https://www.nhs.uk/conditions/gonorrhoea/
- https://www.webmd.com/sexual-conditions/gonorrhea
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น