อนุมูลอิสระ (Free radicals) เกิดจากอะตอมเกิดความไม่เสถียรจนทำให้เซลล์ถูกทำลาย ซึ่งสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยและอายุที่มากขึ้น อนุมูลอิสระมีความเชื่อมโยงกับอายุที่มากขึ้นและโรคที่เป็นอยู่ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับบทบาทที่มีต่อสุขภาพ หรือวิธีป้องกันอนุมูลอิสระไม่เกิดความเจ็บป่วย
อนุมูลอิสระคืออะไร
การที่เราจะมาทำความรู้จักกับอนุมูลอิสระ อาจต้องมีความรู้พื้นฐานทางเคมีนิดหน่อย อะตอมจะถูกรายล้อมด้วยอิเล็กตรอนคล้ายกับวงโคจรในชั้นที่เรียกว่า เชล ซึ่งแต่ละเชล จะต้องเติมอิเล็กตรอนตามจำนวนที่กำหนด เมื่อเชลไหนมีอิเล็กตรอนครบตามจำนวนแล้ว อิเล็กตรอนก็จะไปเติมในเชลต่อๆไป หากอะตอมไหนมีชั้นของเชล ที่มีอิเล็กตรอนไม่ครบจำนวน ก็จะก่อให้เกิดพันธะระหว่างอะตอมอื่น ซึ่งการใช้อิเล็กตรอนเพื่อมาเติมชั้นของเชล ให้เต็ม เราเรียกอะตอมชนิดนี้ว่าอนุมูลอิสระ อะตอมไหนที่มีชั้นของเชลครบจะมีความเสถียร แต่อนุมูลอิสระจะมีความไม่เสถียร ส่งผลให้จำนวนอิเล็กตรอนในชั้นนอกทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว เมื่อโมเลกุลของออกซิเจนแยกตัวเป็นอะตอมเดี่ยวที่มีอิเล็กตรอนไม่ครบคู่ มันจะกลายเป็นอนุมูลอิสระที่ไม่เสถียรทันที โดยจะไปเหนี่ยวนำอิเล็กตรอนจากอะตอมอื่นๆมาเพื่อให้ครบคู่ เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไป จนเกิดกระบวนการที่เรียกว่า ภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน (Oxidative stress) ภาวะเครียดจากออกซิเดชัน (Oxidative stress) สามารถทำลายเซลล์ของร่างกายได้ นำไปสู่การเกิดโรคและสาเหตุของความแก่ เช่น รอยตีนกา เป็นต้น อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ครีมลบเลือนริ้วรอยอนุมูลอิสระทำลายร่างกายอย่างไร
อายุของร่างกายที่มากขึ้นทำให้เราสูญเสียความสามารถในการจัดการกับอนุมูลอิสระ ผลที่ตามมาก็คืออนุมูลอิสระที่มากขึ้น, ความเครียดจากออกซิเดชันที่มากขึ้นและเซลล์ถูกทำลายมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่กระบวนการเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น มีการศึกษาและทฤษฎีอยู่หลายอย่างที่พบความเชื่อมโยงของความเครียดจากออกซิเดชันนั้นขึ้นอยู่กับอนุมูลอิสระ ความเสื่อมที่เกิดขึ้นได้แก่:- โรคทางระบบประสาทส่วนกลาง เช่น โรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ
- โรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดจากหลอดเลือดแดงอุดตัน
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และความผิดปกติของการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคมะเร็ง
- โรคต้อกระจก และสายตาเสื่อมจากอายุที่เปลี่ยนไป
- การแสดงออกที่สัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น เช่น ขาดความยืดหยุ่นของผิวหนัง รอยตืนกา ผมหงอก ผมร่วง และผิวสัมผัสของผมที่เปลี่ยนไป
- โรคเบาหวาน
- โรคความเสื่อมทางพันธุกรรม เช่น โรคฮันติงตัน หรือ โรคพาร์กินสัน
สาเหตุ
ทฤษฎีอนุมูลอิสระของความชรา และโรคเบาหวานอาจช่วยอธิบายได้ว่าอายุของบางคนอาจจะช้าเร็วไม่เท่ากัน อนุมูลอิสระอื่นๆอาจถูกสร้างจากภายในร่างกายโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ปัจจัยทางวิถีชีวิตที่มีส่วนในการผลิตอนุมูลอิสระ เช่น:- สัมผัสสารพิษเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง และมลภาวะทางอากาศ
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารทอด
สารต้านอนุมูลอิสระและอนุมูลอิสระ
มันยากที่จะดูทีวีแล้วไม่ดูโฆษณาอย่างน้อยหนึ่งรายการที่โฆษณาว่าสามารถต้านความชราได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) เป็นโมเลกุลที่ป้องกันการเกิดออกซิเดชันกับโมเลกุลอื่นๆ สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารเคมีที่ป้องกันหรือทำให้ประสิทธิภาพของอนุมูลอิสระลดลง เนื่องจากมันสามารถให้อิเล็กตรอนคู่โดดเดียวแก่อนุมูลอิสระได้ จึงช่วยลดการเกิดปฏิกิริยา เหล่านี้ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระมีลักษณะเฉพาะที่สามารถให้อิเล็กตรอนโดยที่ไม่กลายเป็นอนุมูลอิสระเสียเอง สารต้านอนุมูลอิสระเพียงตัวเดียวไม่สามารถต่อสู่กับผลกระทบของอนุมูลอิสระได้ แม้แต่อนุมูลอิสระยังมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไปตามแต่ละส่วนของร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระก็เช่นกัน มีการออกฤทธิ์ที่ต่างกันไปตามคุณสมบัติของสารเคมี อย่างไรก็ตามสารต้านอนุมูลอิสระบางตัวอาจกลายเป็นโปรออกซิเดชัน (Pro-oxidants) ซึ่งจะแยกอิเล็กตรอนออกจากโมเลกุลอื่น ทำให้เกิดความไม่เสถียรทางเคมี เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดจากออกซิเดชันอาหารต้านอนุมูลอิสระและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร : มันทำงานอย่างไร
สารเคมีกว่าพันตัวที่สามารถออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีและอี, กลูต้าไธโอน, เบต้าแโรทีนอยด์ และพืชเอสโตรเจนที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ล้วนแล้วแต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อาหารมากมายที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เบอร์รี่ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และผลไม้อื่นๆมากมายที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ขณะที่แครอทก็เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีแคโรทีนอยด์สูง ถั่วเหลืองและสารประกอบในเนื้อสัตว์ก็อุดมไปด้วยไฟโตเอสโตรเจน ความพร้อมของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางท่านได้แนะนำอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทฤษฎีการต้านอนุมูลอิสระของความชราทำให้หลายบริษัทผลักดันการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระออกมามากมาย มีงานวิจัยนำเอาสารต้านอนุมูลอิสระมาผสมกัน ผลที่ได้คืองานวิจัยส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าพบประโยชน์นิดหน่อยหรือไม่พบประโยชน์เลย มีการศึกษาในปีค.ศ.2010 มีการนำเอาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระสำหรับป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลการศึกษาไม่พบประโยชน์ตามที่อ้าง การศึกษาในปีค.ศ.2012 พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดลดลง ข้อเท็จจริงคือสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เช่น คนสูบบุหรี่ สารต้านอนุมูลอิสระอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งขึ้นเล็กน้อย บางงานวิจัยพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นอันตราย โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานในปริมาณที่มากกว่าที่องค์การอาหารและยาแนะนำต่อวัน มีการวิเคราะห์ในปีค.ศ.2013 พบว่าเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินอีในปริมาณสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอย่างมีนับสำคัญ บางการศึกษาพบประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารต้านอนุมูลอิสระ แต่ผลที่ได้ออกมาเพียงปานกลาง การศึกษาใรปีค.ศ.2007 พบว่าการใช้เบต้าแคโรทีนในระยะยาวสามารถลดความเสี่ยงของปัญหาเกี่ยวกับอายุที่มากขึ้นกับการคิดได้เพียงเล็กน้อยสิ่งที่ยังไม่ทราบ
การศึกษาแนะนำว่า สารต้านอนุมูลอิสระไม่สามารถรักษาผลกระทบจากอนุมูลอิสระ อย่างน้อยสารต้านอนุมูลอิสระที่มาจากการสังเคราะห์ก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้เกิดคำถามที่ว่าแล้วอนุมูลอิสระคืออะไรเหตุใดจึงเกิดขึ้น เป็นไปได้ว่าอนุมูลอิสระเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าสำหรับเซลล์ที่พร้อมจะสู้กับโรค หรือการก่อตัวของอนุมูลอิสระนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามอายุที่มากขึ้น โดยไม่มีข้อมูลใดๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจปัญหาของอนุมูลอิสระอย่างถ่องแท้ สำหรับผู้ที่สนใจที่จะต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เกี่ยวเนื่องกับอายุ ควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระทั่วไป เช่น มลภาวะ และอาหารทอด คุณควรรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีความสมดุลของอาหารโดยไม่ต้องกังวลกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม มลพิษทางอากาศกับสุขภาพอาหารที่มีอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่มีอิเล็กตรอนไม่เข้าคู่ และสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติในร่างกายในระหว่างกระบวนการเผาผลาญ หรือถูกนำมาจากแหล่งภายนอก เช่น มลภาวะ ควันบุหรี่ และการแผ่รังสี แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอนุมูลอิสระจะเกี่ยวข้องกับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นและความเสียหายของเซลล์ แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางชีววิทยาตามธรรมชาติเช่นกัน ต่อไปนี้คืออาหารบางชนิดที่มีอนุมูลอิสระหรือมีส่วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระ:- อาหารแปรรูปและอาหารทอด:
-
-
- อาหารที่ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น ทอด ย่าง หรือการทอดสามารถสร้างอนุมูลอิสระได้เนื่องจากอุณหภูมิสูงที่เกี่ยวข้อง
-
- เนื้อย่างหรือสุกเกินไป:
-
-
- การปรุงเนื้อสัตว์มากเกินไปที่อุณหภูมิสูงจนไหม้เกรียมหรือไหม้สามารถผลิตเฮเทอโรไซคลิกเอมีน (HCA) และโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAH) ซึ่งสัมพันธ์กับการก่อตัวของอนุมูลอิสระ
-
- แอลกอฮอล์:
-
-
- การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายได้
-
- น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และขนมหวาน:
-
-
- อาหารที่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และขนมหวานสูงสัมพันธ์กับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เพิ่มขึ้น
-
- น้ำมันพืชแปรรูป:
-
-
- น้ำมันพืชแปรรูปบางชนิด โดยเฉพาะที่ใช้ทอด สามารถสร้างอนุมูลอิสระได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนสูง
-
- อาหารรมควันและหมัก:
-
-
- กระบวนการสูบบุหรี่และการบ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้สารเคมีบางชนิด อาจมีส่วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระในอาหารได้
-
- เนื้อสัตว์ที่เก็บรักษาไว้และแปรรูป:
-
-
- เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน และฮอทดอกมีสารปรุงแต่งและผ่านกระบวนการที่อาจก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ
-
- สารเติมแต่งและสารกันบูดเทียม:
-
-
- สารเติมแต่งและสารกันบูดสังเคราะห์บางชนิดในอาหารแปรรูปอาจมีส่วนทำให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
-
- ไขมันทรานส์:
-
- ไขมันทรานส์ซึ่งมักพบในน้ำมันที่เติมไฮโดรเจนบางส่วนที่ใช้ในผลิตภัณฑ์แปรรูปและขนมอบบางชนิดอาจทำให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น