ปวดเท้า (Foot Pain) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ปวดเท้า

เท้ารองรับน้ำหนักตัวของคุณเมื่อยืน และพาคุณไปไหนต่อไหนที่คุณอยากไป ดังนั้นการปวดเท้าจึงเป็นเรื่องปกติ และรวมถึงส่วนย่อยของเท้าด้วย เช่น นิ้วหัวแม่เท้า ส้นเท้า ฝ่าเท้า หลังเท้า เป็นต้น ความเจ็บปวดอาจมีเพียงเล็กน้อยหรือมาก อาจปวดนานหรือปวดชั่วขณะ แต่มีวิธีหลายอย่างที่ลดความเจ็บปวด

สาเหตุอาการปวดเท้า

การปวดเท้าอาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นเหตุจากที่ใช้เท้าเดินหรือวิ่งหรือออกกำลังกาย หรืออาจจะเกิดจากโรคได้ เช่น

วิถีชีวิตประจำวัน

สาเหตุหนึ่งของการปวดเท้าคือรองเท้าที่ไม่พอดี รองเท้าส้นสูงทำให้เกิดความเจ็บปวดมากเพราะแรงกดที่นิ้วเท้า แต่ความเจ็บปวดอาจเกิดจากการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรือกิจกรรมกีฬาอื่นๆ เช่น วิ่ง หรือแอโรบิค

สาเหตุทั่วไปจากโรค

ข้ออักเสบ ที่เท้ามีข้อต่อ 33 ข้อ อาจเกิดการอักเสบได้ทุกข้อ  เบาหวาน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและความผิดปกติที่เท้า ผู้ที่เป็นเบาหวานเสี่ยงต่อการเกิด
  • เส้นประสาทที่เท้าเสียหาย
  • เส้นเลือดแดงแข็งหรืออุดตันที่ขาและเท้า
  • แผลที่เท้า
และคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดเท้า หากคุณ สาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดที่เท้า เช่น
  • ตาปลา
  • Bunion คือนิ้วหัวแม่เท้าเอียง ทำให้กระดูกปูดบริเวณข้อต่อโคนนิ้วหัวแม่เท้ากับฝ่าเท้า
  • หูด
  • เล็บขบ
  • ยาที่ทำให้เท้าบวม
  • Morton’s neuroma การหนาตัวของปมประสาทด้านหน้าเท้า
  • นิ้วเท้าหงิกงอผิดปกติ
  • โรคน้ำกัดเท้า
  • Haglund’s deformity  กระดูกนูนที่ส้นเท้า
  • เท้าแบน
  • โรคเกาต์ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า

วิธีแก้ปวดเท้า

เคล็ดลับเหล่านี้อาจข่วยลดความไม่สบายเท้าได้บ้าง
  • ประคบเย็นบริเวณที่ปวด
  • ใช้ยาแก้ปวด
  • ยกเท้าสูง
  • พักเท้าให้มาก

เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์

โดยทั่วไปคนมักจะรู้ว่าสาเหตุของการเจ็บเท้าคืออะไร และรู้วิธีจัดการ แต่ควรไปพบแพทย์หาก
  • ปวดกระทันหันและปวดมาก
  • เกิดจากการบาดเจ็บ
  • ลงน้ำหนักที่เท้าข้างนั้นไม่ได้
  • มีโรคที่เกี่ยวกับการไหลของเลือด และปวดเท้า
  • มีแผลเปิดและปวดเท้า
  • บริเวนที่ปวดนั้นแดงและมีอาการของการอักเสบ
  • มีไข้ด้วย 
แพทย์จะสังเกตท่าทางและดูการเดินของคุณ และจะตรวจหลัง ขาและเท้าของคุณ และถามรายละเอียดอาการปวด ปวดตอนไหน ปวดบริเวณไหนและปวดมากแค่ไหน ถ้าจำเป็น แพทย์อาจเอ็กซเรย์Foot Pain

การรักษา

ขึ้นกับสาเหตุ สำหรับบางคน เรื่องง่ายๆเช่นการใส่แผ่นรองเท้าที่พื้นรองเท้าก็ลดอาการปวดได้มากมาย หรือ
  • ใส่เฝือก
  • ตัดหูดออก
  • ผ่าตัด
  • กายภาพบำบัด

การป้องกันปวดเท้าเรื้อรัง

ใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อลดการปวด
  • เลือกรองเท้าที่ใส่สบาย ไม่คับและรองรับน้ำหนักได้ดี
  • เลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงที่หน้าแคบ
  • ควบคุมน้ำหนัก
  • ยืดก่อนออกกำลังกาย
  • รักษาสุขภาพเท้า
  • ใส่รองเท้าเสมอเมื่อออกไปนอกบ้าน
แม้ว่าการปวดเท้าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ใช่เรื่องปกติของชีวิต คุณควรหาความช่วยเหลือหากปวดเท้าและไม่หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์

อาหารที่อาจช่วยได้

อาการปวดเท้าอาจมีสาเหตุหลายประการ รวมถึงการบาดเจ็บ การอักเสบ หรือสภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคข้ออักเสบหรือพังผืดฝ่าเท้าอักเสบ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถรักษาได้ แต่การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถช่วยให้ความเป็นอยู่โดยรวมดีขึ้นและสนับสนุนกระบวนการบำบัดตามธรรมชาติของร่างกาย ต่อไปนี้เป็นอาหารบางชนิดที่อาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบหรือบรรเทาอาการปวดและอาจเป็นประโยชน์ต่ออาการปวดเท้า:
  • ปลาที่มีไขมัน:
      • ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ อาจช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับสภาวะบางอย่างได้
  • ขมิ้น:
      • ขมิ้นมีเคอร์คูมินซึ่งเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ การเพิ่มขมิ้นลงในอาหารของคุณไม่ว่าจะผ่านทางอาหารหรือเป็นอาหารเสริมอาจช่วยจัดการกับอาการอักเสบและความเจ็บปวดได้
  • ขิง:
      • ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยลดอาการปวดได้ คุณสามารถใส่ขิงสดในมื้ออาหาร ดื่มชาขิง หรือทานในรูปแบบอาหารเสริมก็ได้
  • ผลเบอร์รี่:
      • ผลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และเชอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบได้ อาจส่งผลต่อสุขภาพข้อต่อโดยรวม
  • สัปปะรด:
      • สับปะรดมีโบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ อาหารเสริมโบรมีเลนหรือสับปะรดสดอาจช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวดได้
  • ผักใบเขียว:
      • ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขมและคะน้า อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมและอาจมีผลต้านการอักเสบ
  • ถั่วและเมล็ด:
      • ถั่วและเมล็ดพืช เช่น วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเจีย เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี อาจช่วยลดการอักเสบได้
  • น้ำมันมะกอก:
      • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหารหลักหรือราดบนสลัด
  • ชาเขียว:
      • ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะคาเทชินซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ อาจส่งผลต่อสุขภาพข้อต่อโดยรวม
  • ธัญพืช:
    • ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ควินัว และข้าวโอ๊ตให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและไฟเบอร์ ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและอาจช่วยลดการอักเสบได้
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการตอบสนองของแต่ละคนต่อการเปลี่ยนแปลงอาหารอาจแตกต่างกันไป และการรับประทานอาหารที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพโดยรวม หากคุณมีอาการปวดเท้าอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงอาหารควรเสริม ไม่ใช่ทดแทนคำแนะนำและการรักษาทางการแพทย์

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/symptoms/foot-pain/basics/causes/sym-20050792
  • https://www.nhs.uk/conditions/foot-pain/
  • https://www.webmd.com/pain-management/guide/foot-pain-causes-and-treatments
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด