เนื้องอกไขมันคืออะไร
เนื้องอกไขมัน (Fatty Tumor) คือเนื้อเยื่อไขมันเจริญเติบโตขึ้นบริเวณใต้ผิวหนังอย่างช้าๆ สามารถพบเห็นในทุกเพศทุกวัย แต่พบได้น้อยในเด็ก เนื้องอกไขมันสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆส่วนของร่างกาย แต่โดยมากมักจะพบเห็นได้ที่บริเวณเช่น เป็นก้อนไขมัน โดยก้อนไขมันเหล่านี้จะปรากฏบริเวณที่พบได้มากคือ:
-
คอ
-
ปลายแขน
-
แขน
-
ต้นขา
เนื้องอกไขมันสามารถจำแนกแยกแยะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือเนื้องอก ตุ่มก้อนไขมัน นั่นหมายความว่าเนื้องอกไขมันจึงไม่ใช่เนื้อร้ายและไม่ค่อยเป็นอันตราย บางครั้งอาจจะเป็นก้อนเนื้อแข็งใต้ผิวหนังเท่านั้น
การดูแลรักษาเนื้องอกไขมันไม่มีความจำเป็นนอกเสียจากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะรบกวนผู้ป่วย
สาเหตุที่อาจทำให้เกิดเนื้องอกไขมัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกไขมันนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีแนวโน้มว่าอาจเกิดขึ้นจากทางพันธุกรรมที่เป็นสาเหตุของการเกิดเนื้องอกไขมันหลายแบบ ความเสี่ยงที่จะเกิดก้อนที่ผิวหนังจะมีเพิ่มมากขึ้นหากพบว่ามีคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นมาก่อน
ภาวะที่เกิดขึ้นมักปรากฎให้เห็นในผู้ใหญ่วัยระหว่าง 40 ถึง 60ปี
การเกิดเนื้องอกไขมันอาจจะมีความเสี่ยงมากขึ้นหากผู้ป่วยมีโรคดังต่อไปนี้:
-
โรคอะดิโปซิส โดโลโรซา เป็นความผิดปกติที่ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดเนื้องอกไขมันที่มีอาการเจ็บปวด
-
กลุ่มอาการคาวเดน
-
กลุ่มอาการการ์ดเนอร์
-
โรคมาเดอลัง
-
โรค Bannayan-Riley-Ruvalcaba syndrome
วินิจฉัยเนื้องอกไขมันอย่างไร
แพทย์จะทำการวินิจฉัยเนื้องอกไขมันโดยการตรวจร่างกายดูและคลำบริเวณที่เกิดตุ่มนูนว่ามีลักษณะนิ่มหยุ่นและไม่มีอาการเจ็บร่วมด้วย ดังนั้นหากพบว่าเป็นแค่ตุ่มไขมัน เนื้องอกไขมันจะเคลื่อนไหวง่ายเมื่อถูกสัมผัส
ในบางกรณีแพทย์อาจตัดชิ้นเนื้อตรวจโดยตัดเนื้อชิ้นเล็กๆและส่งไปตรวจ
การทดสอบดังกล่าวอาจทำหากสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็ง ถึงแม้ว่าเนื้องอกไขมันจะไม่ใช่เนื้องอกมะเร็งก็ตามแต่ก็อาจเกิดเป็นไลโปซาร์โคม่า(มะเร็งของเนื้อเยื่อไขมัน)ได้
หากพบว่าเนื้องอกไขมันมีการขยายใหญ่ขึ้นและเริ่มรู้สึกเจ็บ แพทย์อาจทำการชิ้นส่วนดังกล่าวออกไปเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นโดยรักษาเช่นเดียวกับการเป็นไลโปซาร์โคม่า
การตรวจโดยเครื่องสแกนMRIและ ซีทีสแกนอาจทำเพิ่มเติมในกรณีที่ผลจากการส่งตรวจชิ้นเนื้อเนื้องอกไขมันถูกสงสัยว่าอาจเป็นเป็นไลโปซาร์โคม่า
อาการของเนื้องอกไขมันคืออะไร
เนื้องอกผิวหนังมีมากมายหลายชนิด แต่เนื้องอกไขมันที่พบมักมีลักษณะเฉพาะที่ชัดเจน โดยสังเกตลักษณะของเนื้องอกไขมันได้จากสิ่งต่อไปนี้:
- เวลาสัมผัสจะนุ่มนิ่ม หยุ่น
- สามารถเคลื่อนไหวได้ตามแรงกด
- อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง
- ไม่มีสี
- เติบโตอย่างช้าๆ
เนื้องอกไขมันโดยมากมักพบเห็นได้บริเวณคอ ท่อนแขนส่วนบน ต้นขา ปลายแขนแต่ก็อาจเกิดขึ้นในส่วนอื่นได้บ้างเหมือนกันเช่นที่หน้าท้องและแผ่นหลัง
เนื้องอกไขมันอาจรู้สึกเจ็บได้ก็ต่อเมื่อมีการกดเจ็บที่เส้นประสาทใต้ผิวหนัง หรืออย่างที่รู้จักกันว่าเนื้องอกไขมันชนิดมีเส้นเลือด Angiolipoma ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดหรือกดเจ็บได้มากกว่าเนื้องอกไขมันทั่วไป
ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังของผู้ป่วยเอง เพราะเนื้องอกไขมันเองก็ทีส่วนคล้ายคลึงกับมะเร็งที่หาได้ยากชนิดหนึ่งที่เรียกว่าไลโปซาร์โคม่า(มะเร็งของเนื้อเยื่อไขมัน)
การรักษาเนื้องอกไขมัน
ตามปกติแล้วเนื้องอกไขมันสามารถทิ้งไว้ได้โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ แต่หากว่าเนื้องอกไขมันสร้างความรำคาญใจให้ผู้ป่วยแพทย์ก็จะทำการรักษา โดยดูจากปัจจัยที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้:
-
ขนาดของเนื้องอกไขมัน
-
จำนวนของเนื้องอกที่มี
-
ประวัติมะเร็งผิวหนังของผู้ป่วย
-
ประวัติคร่อบครัวว่าเคยเป็นมะเร็งผิวหนัง
-
อาการเจ็บปวดของเนื้องอกไขมัน
การผ่าตัด
การรักษาทั่วไปในการรักษาเนื้องอกไขมันคือการผ่าตัดก้อนไขมันออกไป จะช่วยได้ในกรณีที่พบว่าเนื้องอกมีขนาดใหญ่และมีท่าว่าจะโตขยายต่อไปอีก
เนื้องอกไขมันบางครั้งอาจกลับมาเป็นได้อีกครั้งแม้จะหลังจากผ่าตัดเอาออกไปแล้วก็ตาม การผ่าตัดโดยทั่วไปมักทำผ่านการดมยาสลบที่เรียกว่าการเลาะต่อม
การดูดไขมัน
การดูดไขมันเป็นทางเลือกในการรักษาอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเนื้องอกไขมันก็มีพื้นฐานมาจากไขมันมาก่อน การรักษาด้วยวิธีนี้ใช้ได้ผลดีในเรื่องของการลดขนาด การดูดไขมันนี้แพทย์จะใช้เข็มฉีดยาเจาะลงไปที่บริเวณตุ่มไขมันจากนั้นจึงค่อยๆดูดไขมันออกไป
การฉีดสารสเตียรอยด์
การฉีดสเตียรอยด์เป็นการรักษาที่ตรงจุดในบริเวณที่เป็น ช่วยทำให้เนื้องอกเล็กลงได้ดีแต่ยังไม่ใช้เป็นการนำส่วนที่เป็นออกทั้งหมด
การเฝ้าติดตามอาการเนื้องอกไขมัน
เนื้องอกไขมันเป็นเนื้องอกแบบธรรมดา ซึ่งนั้นหมายความว่าจะไม่มีโอกาสขยายตัวเองกระจายไปทั่วร่างกายได้ รวมถึงไม่กระจายไปยังกล้ามเนื้ออื่นๆหรือเนื้อเยื่อรอบๆ และไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
เนื้องอกไขมันไม่สามารถลดลงได้ด้วยการดูแลตนเอง การประคบร้อนอาจใช้ได้ผลดีในกรณีที่เป็นก้อนที่ผิวหนัง แต่ไม่สามารถใช้ได้ผลกับเนื้องอกไขมันเพราะเนื้องอกดังกล่าวเกิดจากการสะสมของเซลล์ไขมัน
ผู้ป่วยอาจพบแพทย์ในการรักษาในกรณีที่คุณเป็นกังวลเพื่อขจัดเนื้องอกไขมันออก
ภาวะแทรกซ้อนของเนื้องอกไขมัน
เนื้องอกไขมัน โดยทั่วไปเป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมันที่ไม่เป็นอันตราย (ไม่เป็นมะเร็ง) ที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง โดยทั่วไปแล้วจะสัมผัสได้นุ่มนวล เคลื่อนไหวได้ และไม่เจ็บปวด แม้ว่าเนื้องอกไขมันมักไม่เกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่ก็มีภาวะแทรกซ้อนและข้อควรพิจารณาบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ควรระวัง:- ความกังวลด้านความงาม : เนื้องอกไขมันอาจทำให้เกิดความกังวลด้านความงามสำหรับบางคน ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้หรือบอบบาง
- ความรู้สึกไม่สบาย : ในบางกรณี เนื้องอกไขมันขนาดใหญ่อาจกดทับเนื้อเยื่อ เส้นประสาท หรืออวัยวะโดยรอบ ทำให้เกิดอาการไม่สบายหรือเจ็บปวด
- การติดเชื้อ : แม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เนื้องอกไขมันอาจติดเชื้อได้หากอยู่ใกล้ผิวหนังและแตกออกเนื่องจากการบาดเจ็บหรือการระคายเคือง
- การวินิจฉัยผิดพลาด : แม้ว่าเนื้องอกไขมันส่วนใหญ่จะไม่ร้ายแรง แต่ก็มีโอกาสเล็กน้อยที่เนื้องอกอาจถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นเนื้องอกไขมัน ในเมื่อจริงๆ แล้วอาการนั้นร้ายแรงกว่า เช่น เนื้องอกเนื้อร้าย สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
- การเติบโตอย่างรวดเร็วของเนื้องอก : หากเนื้องอกไขมันเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างกะทันหันหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นสัญญาณของการเติบโตที่รุนแรงมากขึ้นหรือเกี่ยวข้อง และแนะนำให้ได้รับการประเมินทางการแพทย์
- ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด : หากเนื้องอกไขมันจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดออกเนื่องจากความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบาย หรือเหตุผลด้านความงาม อาจมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ เลือดออก แผลเป็น หรืออาการไม่พึงประสงค์จากการดมยาสลบ
- การกลับเป็นซ้ำ : แม้ว่าเนื้องอกไขมันจะถูกเอาออก แต่ก็มีโอกาสเล็กน้อยที่จะเกิดขึ้นซ้ำในบริเวณเดียวกันหรือมีการพัฒนาของเนื้องอกไขมันใหม่ที่อื่น
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
-
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/lipoma/symptoms-causes/syc-20374470
-
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/what-is-a-lipoma
-
https://www.medicalnewstoday.com/articles/322551