ตากระตุก (Eyelid twitches) : อาการ สาเหตุ ภาวะแทรกซ้อน การรักษา

ตากระตุก (Eyelid twitches) คือ อาการที่กล้ามเนื้อตากระตุกซ้ำ ๆ โดยปกติมักจะเกิดขึ้นกับเปลือกตาบน แต่ทั้งนี้อาการตากระตุกหรือเขม่นตานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง ผู้คนส่วนมากมักจะมีอาการที่ไม่รุนแรงนัก กล่าวคือ จะมีอาการกระตุกเบาๆ ที่เปลือกตาด้านบน ในผู้ที่เป็นตากระตุกบางราย การกระตุกของกล้ามเนื้ออาจจะรุนแรงมากพอที่จะทำให้เปลือกตาบนและล่างกระตุกจนปิดกันสนิท การกระตุกแบบนี้เราเรียกว่า กล้ามเนื้อรอบกระบอกตาเกร็งตัว(Blepharospasm) อาการตากระตุกมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเสี้ยววินาที หรือนาน 1-2 นาที การเกิดตากระตุกนั้นไม่สามารถคาดเดาได้ อาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลาติดต่อกันนานหลายวัน และหลังจากนั้นคุณอาจจะไม่มีอาการตากระตุกอีกเลยเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน  ตากระตุกนั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดและอันตรายให้กับร่างกาย เพียงแต่จะรบกวนชีวิตประจำวันของคุณ  อาการตากระตุกนั้นสามารถหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ในบางกรณีนั้นตากระตุกเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้ออื่นๆ บนใบหน้า หรือการไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งกรณีนี้พบได้น้อยมากๆ

อาการตากระตุกสาเหตุคืออะไร ?

อาการตากระตุกมักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากตากระตุกนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นสาเหตุของโรคร้าย และนี่คือสาเหตุของตากระตุกที่มักจะไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย  อย่างไรก็ตามอาการตากระตุกเกิดจากสิ่งเหล่านี้
  • การระคายเคืองตา
  • การตึงของตา
  • ความเมื่อยล้า
  • การอดหลับอดนอน
  • การออกแรงที่มาก
  • ผลข้างเคียงของยา
  • ความเครียด
  • การใช้แอลกอฮอล์ ยาสูบ หรือคาเฟอีน
ถ้าอาการตากระตุกเป็นอย่างเรื้อรัง เราจะรู้จักกันในชื่อของ “โรคหนังตากระตุก (Benign essential blepharospasm)” เราใช้เรียกอาการนี้ที่เป็นเรื้อรังโดยที่ไม่สามารถควบคุมการกระพริบของตาได้ สภาวะตากระตุกจะเกิดขึ้นกับตาทั้งสองข้าง โดยที่สาเหตุดังต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้อาการตากระตุกแย่ลง
  • การอักเสบของเปลือกตา
  • ตาแดง หรือ เยื่อบุตาอักเสบ
  • ตาแห้ง
  • สภาพแวดล้อมที่ทำให้ระคายเคือง เช่น แสงจ้า หรือ มลพิษทางอากาศ
  • ความเมื่อยล้า
  • ความไวแสง
  • ความตึงเครียด
  • การรับแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีกที่มากเกินไป
  • การสูบบุหรี่
อาการตากระตุกนั้นพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และหากเป็นอาการเรื้อรังสามารถส่งผลต่อ
  • การมองเห็นที่ไม่ชัดเจน
  • ไวต่อแสง
  • การกระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้า

ภาวะแทรกซ้อนของเปลือกตากระตุก Eyelid twitches

ตากระตุกนั้นส่วนใหญ่ไม่ส่งอันตรายต่อร่างกาย มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นสัญญาณบอกถึงความผิดปกติของระบบสมองหรือระบบประสาท เมื่อเปลือกตากระตุกนั่นเป็นผลของสภาวะที่ย่ำแย่ โดยอาการนี้มักจะเกิดร่วมกับลักษณะอาการอื่นๆ ความผิดปกติของสมองและระบบประสาทที่ส่งผลต่อตากระตุก ประกอบไปด้วย:
  • อัมพาตใบหน้า ซึ่งมีผลให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าด้านหนึ่งของคุณอ่อนแรงลง
  • โรคบิดเกร็ง (Dystonia) ที่ทำให้กล้ามเนื้อของคุณกระตุกโดยไม่คาดคิด
  • โรคคอบิดเกร็ง (cervical dystonia) ที่จะเกิดอาการคอกระตุกแบบสุ่ม และศีรษะบิดเกร็งไปสู่ตำแหน่งที่ไม่สบาย
  • โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (MS) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ที่ทำให้การรับรู้และการเคลื่อนไหวเป็นเช่นเดียวกับความเหนื่อยล้า
  • โรคพาร์กินสันที่ส่งผลให้แขนและขามีอาการสั่น ทำให้การพูดนั้นลำบากและส่งปัญหาต่อการควบคุมสมดุล
  • กลุ่มอาการทูเร็ตต์ ที่มักจะมีปัญหาการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยที่ไม่ตั้งใจและการพูดซ้ำๆ
การที่กระจกตามีรอยขีดข่วนนั้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตากระตุกได้ หากคุณพบว่าดวงตาของคุณได้รับบาดเจ็บหรือมีร่องรอย ควรพบจักษุแพทย์ทันที เพราะการมีรอยขีดข่วนที่กระจกตาอาจนำมาสู่การสูญเสียดวงตาอย่างถาวร

อาการตากระตุกสามารถรักษาได้อย่างไร ?

โดยปกติอาการตากระตุกสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรับการรักษา โดยจะหายเพียงในเวลาไม่กี่วันหรือสัปดาห์ หากอาการนี้ไม่หายไปคุณสามารถลองลดสิ่งที่เป็นสาเหตุตากระตุก สาเหตุหลักๆ ของตากระตุกมักจะมาจาก ความเครียด ความเหนื่อยล้า และคาเฟอีน เพื่อลดอาการตากระตุกคุณควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนี้

  • ดื่มคาเฟอีนให้น้อยลง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รักษาความชุ่มชื้นของดวงตาเสมอ อาจจะด้วยการหยอดน้ำตาเทียม หรือยาหยอดตา
  • เมื่อคุณเริ่มตากระตุก ให้ทำการประคบร้อนบริเวณดวงตา
การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ในบางครั้งใช้ในการรักษาอาการตากระตุกเรื้องรัง เนื่องจากโบท็อกซ์อาจจะสามารถบรรเทาอาการตากระตุกได้สองสามเดือนอย่างไรก็ตามเมื่อผลของการฉีดโบท็อกซ์หายไป คุณอาจจะมีความจำเป็นต้องฉีดซ้ำอีกครั้ง การผ่าตัดกล้ามเนื้อเปลือกตาหรือเส้นประสาทบางส่วนที่ส่งผลต่อการกระตุก เป็นวิธีการหนึ่งในการรักษาตากระตุกเรื้อรัง

ภาพรวมของอาการตากระตุก

อาการตากระตุกมีสาเหตุได้หลายประการ และการรักษาก็ต่างกันไปในแต่ละบุคคลและอาการ มีงานวิจัยหลายงานพยายามศึกษาว่าอาการตากระตุกมีความเชื่อมโยงกับพันธุกรรมหรือไม่ แต่ก็พบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพันธุกรรม อาการกระตุกมีความสัมพันธ์กับความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และปัจจัยการดำเนินชีวิตประจำวันอื่นๆ หากปัญหาด้านสุขภาพเป็นสาเหตุของอาการตากระตุกแล้ว ทางที่ดีที่สุดเราควรที่จะรักษาที่เหตุพื้นฐานของอาการนั้นๆ เพื่อบรรเทาอาการนี้

คำถามที่พบบ่อย 1. เปลือกตากระตุกเกิดจากอะไร

  • การกระตุกของเปลือกตาสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ :
    • ความเหนื่อยล้าและการอดนอน
    • ความเครียดและความวิตกกังวล
    • ปวดตาจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือหน้าจอมากเกินไป
    • การบริโภคคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์
    • ตาแห้ง
    • ความไม่สมดุลทางโภชนาการ
    • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
  • 2. อาการหนังตากระตุกรุนแรงไหม 
    • ในกรณีส่วนใหญ่ อาการหนังตากระตุกจะไม่ร้ายแรงและมักจะหายได้เอง อย่างไรก็ตาม หากอาการกระตุกยังคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ใบหน้ากระตุก เปลือกตาตก หรือมีรอยแดงและบวม แนะนำให้ไปพบแพทย์
  • 3. จะทำอย่างไรเพื่อหยุดหรือป้องกันการกระตุกของเปลือกตา
      • พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการกับความเครียด
      • จำกัด การบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
      • หยุดพักระหว่างการใช้หน้าจอเป็นเวลานานและให้แน่ใจว่าถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์
      • ใช้ยาหยอดตาหล่อลื่นหากคุณมีอาการตาแห้ง
      • ให้แน่ใจว่าได้รับประทานอาหารที่สมดุลและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
      • พิจารณาลดหรือเปลี่ยนยาหากอาจทำให้กระตุก
  • 4. ควรพบแพทย์เมื่อใด
    • คุณควรไปพบแพทย์หากการกระตุกของเปลือกตายังคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ มีอาการรุนแรง หรือมีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย นอกจากนี้ หากการกระตุกส่งผลกระทบต่อใบหน้าครึ่งหนึ่งของคุณ ทำให้เปลือกตาปิดสนิท หรือหากคุณมีอาการตาแดง บวม หรือมีน้ำมูกไหล ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • 5. ความเครียดทำให้เปลือกตากระตุกได้หรือไม่ 
    • ใช่ ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นให้เปลือกตากระตุก เมื่อคุณเครียดหรือวิตกกังวล ร่างกายของคุณอาจตอบสนองด้วยการหดตัวของกล้ามเนื้อ รวมทั้งกล้ามเนื้อในเปลือกตา
  • 6. โดยปกติแล้วการกระตุกของเปลือกตาจะอยู่ได้นานแค่ไหน
    •  ในกรณีส่วนใหญ่ การกระตุกของเปลือกตาจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและคงอยู่เป็นเวลาสองสามวันหรือหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การกระตุกบางอย่างอาจคงอยู่นานกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ได้ระบุสาเหตุที่แท้จริง
  • 7. มีวิธีการรักษาทางการแพทย์สำหรับการกระตุกของเปลือกตาหรือไม่
  • หากอาการกระตุกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างความรำคาญ แพทย์ของคุณอาจแนะนำการรักษา เช่น การฉีดโบท็อกซ์เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตชั่วคราว หรือการใช้ยาในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การรักษาทางการแพทย์มักจะพิจารณาก็ต่อเมื่อมาตรการอื่นๆ ล้มเหลว
โปรดจำไว้ว่าแม้ว่าการกระตุกของเปลือกตามักไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าคุณมีข้อกังวลใดๆ หรืออาการกระตุกยังคงอยู่ ทางที่ดีควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลดวงตาหรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อรับการประเมินและคำแนะนำที่เหมาะสม

ลิ้งค์ด้านล่างเป็นแหล่งที่มาข้อมูลของเรา

  • https://www.allaboutvision.com/conditions/eye-twitching.htm
  • https://www.mayoclinic.org/symptoms/eye-twitching/basics/causes/sym-20050838
  • https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/how-to-stop-eye-twitching
  • https://www.nhs.uk/conditions/twitching-eyes-and-muscles/
  • https://opto.ca/health-library/eyelid-twitches
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด