เครื่องดื่มชูกำลังถูกผลิตเพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย กระตุ้นความตื่นตัว และสมาธิได้
ผู้คนทุกเพศทุกวัยสามารถบริโภคได้ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เครื่องดื่มชูกำลังอาจมีผลเสีย และทำให้หลายคนเกิดความสงสัยถึงความปลอดภัย
เครื่องดื่มชูกำลังคืออะไร
เครื่องดื่มชูกำลังคือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเพื่อเพิ่มพลังงาน อารมณ์และจิตใจ มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป เครื่องดื่มชูกำลังเกือบทั้งหมดจะมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง กระตุ้นการตื่นตัว และช่วยสร้างสมาธิ อย่างไรก็ตามปริมาณคาเฟอีนจะแตกต่างกันไปตามแต่ละผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด เครื่องดื่มชูกำลังมักมีส่วนผสมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ส่วนผสมที่พบบ่อยที่สุด นอกจากคาเฟอีนมีดังต่อไปนี้: น้ำตาล: ถือเป็นแหล่งแคลอรี่หลักในเครื่องดื่มชูกำลัง แต่เครื่องดื่มชูกำลังบางชนิดอาจไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ วิตามินบี: มีหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนอาหารที่รับประทานให้กลายเป็นพลังงานที่ร่างกายสามารถใช้ได้ อนุพันธ์ของกรดอะมิโน: ตัวอย่างเช่นทอรีน และแอล-คาร์นิทีน ทั้งสองนี้เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายผลิตขึ้นได้ตามธรรมชาติ และมีบทบาทในกระบวนการการทำงานของร่างกายหลายอย่าง สารสกัดจากสมุนไพร: กัวราน่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มคาเฟอีนให้สูงขึ้น และเครื่องดื่มชูกำลังบางชนิดมีส่วนผสมของโสมที่ส่งผลดีต่อการทำงานของสมองเครื่องดื่มชูกำลังสามารถปรับปรุงการทำงานของสมอง
หลายคนบริโภคยาชูกำลังด้วยเหตุผลหลายประการ สาเหตุหนึ่งที่นิยมกันมากนั้นก็คือการกระตุ้นความตื่นตัว และปรับปรุงการทำงานของสมอง มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าเครื่องดื่มชูกำลังสามารถปรับปรุงการทำงานของสมองได้ ทั้งความจำ สมาธิ และระยะเวลาในการตอบสนองที่ดีขึ้น พร้อมลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ นักวิจัยหลายคนคาดว่าการทำงานของสมองที่เพิ่มขึ้นเกิดจากคาเฟอีนเท่านั้น แต่บางคนก็คาดว่าการกระตุ้นจะเกิดจากการผสมกันระหว่างคาเฟอีนและน้ำตาลในเครื่องดื่มชูกำลังจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดเครื่องดื่มชูกำลังจะช่วยให้หายเหนื่อยล้า
เหตุผลหนึ่งที่ผู้คนนิยมบริโภคยาชูกำลัง เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยในการทำงานเวลาที่ต้องอดนอน หรือเหนื่อยล้า ผู้ขับขี่ที่เดินทางไกล และเดินทางเวลากลางคืนมักซื้อเครื่องดื่มชูกำลังมาช่วยกระตุ้นให้พวกเขาตื่นตัว ขณะที่กำลังขับรถ การศึกษาหลายชิ้นพบว่าว่าเครื่องดื่มชูกำลังสามารถเพิ่มคุณภาพการขับขี่ และลดอาการง่วงนอนได้ แม้แต่ในผู้ขับขี่ที่ต้องอดหลับอดนอน พนักงานที่ทำงานกะกลางคืนส่วนมากจะใช้เครื่องดื่มชูกำลังเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานในช่วงเวลาที่ผู้คนส่วนมากกำลังหลับสนิท เครื่องดื่มชูกำลังอาจช่วยให้คนงานเหล่านี้ว่องไว และตื่นตัวได้ แต่มีข้อแนะนำว่าการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับได้เครื่องดื่มชูกำลังอาจส่งผลกระทบต่อหัวใจ
งานวิจัยบางชิ้นระบุว่าเครื่องดื่มชูกำลังจะ ให้พลังงาน ปรับปรุงการทำงานของสมอง และช่วยให้เกิดความตื่นตัวเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า แต่มีงานวิจัยที่ระบุว่าการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังอาจเพิ่มความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจได้ และลดความสามารถในการทำงานของหลอดเลือด ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของหัวใจได้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนมาก คาดว่าปัญหาของหัวใจมีความสัมพันธ์กับการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากการบริโภคคาเฟอีนที่มากเกินไป และพบว่าปัญหาของหัวใจจะร้ายแรงขึ้น เมื่อดื่มเครื่องดื่มชูกำลังผสมกับแอลกอฮอล์บ่อย ๆ อย่างไรก็ดีการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเป็นครั้งคราว ในปริมาณที่เหมาะสมจะไม่ทำให้เกิดปัญหาของหัวใจในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี และไม่มีประวัติโรคหัวใจมาก่อนเครื่องดื่มชูกำลังมีปริมาณน้ำตาลสูง
เครื่องดื่มชูกำลังส่วนใหญ่มีน้ำตาลในปริมาณมาก การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งในกรณีของผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือเป็นโรคเบาหวาน ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ระดับน้ำตาลในเลือดยังสัมพันธ์กับระดับความเครียด และการอักเสบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเรื้อรังเกือบทุกชนิด มีผลการศึกษาระบุว่าการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน 1 หรือ 2 แก้วทุกวัน จะเพิ่มความสัมพันธ์ของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ถึง 26% เครื่องดื่มชูบางชนิดจึงลดน้ำตาลลง หรือไม่เติมน้ำตาลเลย เพื่อให้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่พยายามรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำใครที่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
แม้ว่าเครื่องดื่มชูกำลังสามารถช่วยเพิ่มพลังงานได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีคาเฟอีนและน้ำตาล แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ประชากรบางกลุ่มควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลังโดยสิ้นเชิงเนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ต่อไปนี้คือกลุ่มคนบางกลุ่มที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง:- เด็กและวัยรุ่น:
-
-
- American Academy of Pediatrics ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคเครื่องดื่มให้พลังงานในเด็กและวัยรุ่น เครื่องดื่มเหล่านี้อาจมีคาเฟอีนและสารกระตุ้นอื่นๆ ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายที่กำลังพัฒนา และอาจส่งผลต่อการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น และความกังวลใจ
-
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร:
-
-
- สตรีมีครรภ์ควรจำกัดการบริโภคคาเฟอีน เนื่องจากการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแท้งบุตรและการคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ คาเฟอีนสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ ดังนั้นคุณแม่ที่ให้นมบุตรควรควบคุมปริมาณคาเฟอีนด้วย
-
- บุคคลที่มีภาวะหัวใจ:
-
-
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือปัญหาหัวใจและหลอดเลือดอยู่แล้วควรระมัดระวังในการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง ปริมาณคาเฟอีนที่สูงอาจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตรุนแรงขึ้น นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือด
-
- ผู้ที่มีความไวต่อคาเฟอีน:
-
-
- บุคคลที่มีความไวต่อคาเฟอีนหรือมีผลข้างเคียง เช่น อาการกระวนกระวายใจ วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลังหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณคาเฟอีนต่ำ
-
- ผู้ที่มีโรควิตกกังวล:
-
-
- ผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลอาจมีแนวโน้มที่จะประสบกับอาการวิตกกังวลหรืออาการตื่นตระหนกมากขึ้น เนื่องจากผลกระตุ้นของคาเฟอีนที่พบในเครื่องดื่มชูกำลัง
-
- บุคคลที่มีอาการนอนไม่หลับหรือความผิดปกติของการนอนหลับ:
-
-
- คาเฟอีนเป็นตัวกระตุ้นที่อาจรบกวนการนอนหลับ บุคคลที่นอนไม่หลับหรือมีปัญหาการนอนหลับอื่นๆ ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีน โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนเข้านอน
-
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน:
-
-
- เครื่องดื่มให้พลังงานบางชนิดมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรคำนึงถึงการบริโภคน้ำตาลและเลือกตัวเลือกที่ไม่มีน้ำตาลหรือน้ำตาลต่ำหากตัดสินใจดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
-
- ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด:
-
-
- ยาบางชนิด เช่น ยากระตุ้นหรือยาที่ส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด อาจมีปฏิกิริยากับสารกระตุ้นในเครื่องดื่มชูกำลัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อประเมินปฏิสัมพันธ์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
-
- บุคคลที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร:
-
- ความเป็นกรดและปริมาณน้ำตาลที่สูงในเครื่องดื่มให้พลังงานบางชนิดอาจทำให้ปัญหาระบบทางเดินอาหารรุนแรงขึ้น เช่น กรดไหลย้อนหรืออาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้ควรระมัดระวังในการบริโภคเครื่องดื่มดังกล่าว
สรุปภาพรวมของเครื่องดื่มชูกำลัง
เครื่องดื่มชูกำลังสามารถให้ประโยชน์ ในการเพิ่มความสามารถในการทำงานของสมอง และช่วยให้ทำงานได้ต่อ แม้จะรู้สึกเหนื่อย หรืออดนอน แต่เครื่องดื่มชูกำลังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องมาจากการบริโภคคาเฟอีนที่มากเกินไป ปริมาณน้ำตาล และการนำมาผสมกับแอลกอฮอล์ หากคุณเลือกที่จะดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ควรจำกัดการบริโภคไว้ที่ 16 ออนซ์ (473 มล.) ต่อวัน ควรพยายามลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชนิดอื่น ๆ ร่วม เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เป็นอันตรายของคาเฟอีนที่มากเกินไป สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร เด็ก และวัยรุ่น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น