ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใส (Dyshidrotic Eczema)

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใส

ภาพรวม 

ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำ คือภาวะที่ผิวมีตุ่มน้ำใสบนฝ่าเท้าและ/หรือฝ่ามือ ตุ่มน้ำใสมักทำให้คันและอาจมีของเหลว ผื่นคันตุ่มใสปกติมักจะปรากฏอาการราวสองถึงสี่สัปดาห์ และอาจเกิดขึ้นจากภูมิแพ้ตามฤดูกาลหรือความเครียด

สาเหตุของผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำคืออะไร?

สาเหตุที่แท้จริงของผื้นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำนั้นยังไม่รู้แน่ชัด ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นมีส่วนมาจากภูมิแพ้ฤดูกาลเช่นโรคไข้ละอองฟาง ตุ่มน้ำใสอาจกำเริบได้บ่อยกว่าในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ผลิ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผลพุพองได้ที่นี่

คนที่มีความเสี่ยงต่อภาวะโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใสคือใครบ้าง 

แพทย์เชื่อว่าคนที่มีโอกาสเกิดอาการภาวะนี้ได้สูงคือคนที่มีความเครียดสูง (ทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านอารมณ์) หรือคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพทย์บางท่านคิดว่าโณคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำอาจเป็นชนิดหนึ่งของการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ อาจเกิดผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำในคนที่มือหรือเท้าต้องเจอกับความชื้นหรืออยู่ในน้ำบ่อยๆ หรือต้องทำงานที่ต้องสัมผัสกับเกลือโลหะเช่น โคบอลท์ โครเมียมและนิกเกิล 

โรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดผื่นคันตุ่มน้ำในเด็ก

โรคผิวหนังอักเสบหรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังคือภาวะที่มักเกิดขึ้นบ่อยในเด็กหรือเด็กทารกมากกว่าเกิดในผู้ใหญ่ ราว 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ ครึ่งหนึ่งมักจะกลายเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือโรคผิวหนังอักเสบเมื่อเข้าวัยผู้ใหญ่ โรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำมักส่งผลต่อเด็ก แต่ก็สามารถพบเจอในผู้ใหญ่วัย 20-40 ปีได้เช่นกัน

อาการของผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใส

หารเป็นผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำ อาจสังเกตเห็นตุ่มใสๆขึ้นที่บริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า มือหรือเท้า ตุ่มที่เกิดขึ้นจะเป็นตุ่ทขอบเรียบและอาจมีของเหลวอยู่ในตุ่ม บางครั้งตุ่มน้ำอาจใหญ่ขึ้นซึ่งจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้ ตุ่มน้ำมักทำให้รู้สึกคันมากและอาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเป็นเกล็ด ส่งผลให้บริเวณรอบๆเริ่มมีรอยแตกระแหงหรือเจ็บเมื่อสัมผัสโดน ตุ่มน้ำจะปรากฏอาการอยู่นานราวสามสัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มแห้ง ในขณะที่ตุ่มน้ำแห้งตุ่ทดังกล่างจะกลายเป็นผิวหนังแตกที่สร้างความเจ็บปวดได้ หากไปเกาในบริเวณที่มีอาการตุณจะสังเกตเห็นว่าผิวบริเวณดังกล่าวจะหนาขึ้นหรือรู้สึกถึงผิวที่คล้ายฟองน้ำ

ผื่นผิวหนังอักเสบสามารถวินิจฉัยได้อย่างไร 

ในหลายๆรายแพทย์จะสามารถวินิจฉัยผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำได้โดยการตรวจผิวอย่างระมัดระวัง เพราะอาการของโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำจะมีความคล้ายคลึงกับโรคผิวหนังอื่นๆ แพทย์จึงต้องเลือกการตรวจบางชนิด การตรวจนี้รวมไปถึงการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ เป็นการนำส่วนของผิวหนังส่วนเล็กๆไปตรวจผ่านห้องปฏิบัติการณ์ การตรวจสามารถบอกสามารถการเกิดตุ่มน้ำใสได้เช่นเกิดจากการติดเชื้อรา หากแพทย์เชื่อว่าการเกิดอาการผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำเป็นผลโดยตรงมาจากภูมิแพ้ แพทย์อาจสั่งทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง

ผื่นตุ่มน้ำใสรักษาอย่างไร 

แพทย์ผิวหนังมีวิธีรักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำได้หลายวิธี ความรุนแรงของอาการและปัจจัยที่ทำให้เกิดอื่นๆสามารถรักษาได้ หากจำเป็นอาจต้องได้รับการรักษามากกว่าหนึ่งวิธี Dyshidrotic Eczema

การรักษาด้วยยา

สำหรับอาการเล็กน้อย ยาเช่นยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์หรือขี้ผึ้งสามารถถูกนำมาใช้ทาที่ผิวโดยตรง สำหรับในรายที่มีอาการรุนแรงแพทย์อาจสั่งจ่ายยายาทาสเตียรอยด์ ยาฉีดสเตียรอยด์หรือยาเม็ด ยารักษาที่สามารถนำมาใช้ได้ชนิดอื่นๆเช่น:
  • การรักษาด้วยแสงยูวี
  • การเจาะตุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่
  • ยาแก้แพ้
  • ยาทาแก้คัน
  • ยาทากดภูมิต้านทาน เช่น Protopic และ Elide   
หากผิวหนังเริ่มมีการติดเชื้อ อาจได้รับยาปฏิชีวนะหรือยาอื่นๆเพื่อรักษาการติดเชื้อ

ยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

หากมีอาการผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำเพียงเล็กน้อย แพทย์อาจสั่งยาแก้แพ้ให้เช่น คราลิทินหรือเบนาดริล เพื่อช่วยลดอาการแพ้

การรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน

การแช่มือหรือเท้าในน้ำเย็นหรือการประคบเย็นประมาณ 15 นาทีสันละสองครั้งก็จะสามารถช่วยลดความไม่สบายตัวจากอาการคันผิวลงได้ แพทย์จะแนะนำให้ทาขี้ผึ้งหรือมอยเจอร์ไรเซอร์หลังการประคบเย็น มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยเรื่องผิวแห้งได้ดี และยังช่วยลดอาการคันได้ดีอีกด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์เช่น:
  • เจลลี่ปิโตรเลียม เช่นวาสลีน
  • ครีมเนื้อเข้มข้นเช่น  Lubriderm หรือ Eucerin     
  • น้ำมันมเนรัลออยล์ 
  • การแช่ในวิชฮาเซล

โภชนาการ

การปรับเปลี่ยนโภชนาการอาจช่วยได้หากยาไม่สามารถทำให้อาการที่เกิดขึ้นดีขึ้นได้ มีความเชื่อว่านิคเกิลหรือโคบอลท์อาจเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบ การไม่รับประทานอาหารดังกล่าวอาจช่วยได้

การรักษาผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำที่เท้า

ผื้นผิวหนังมักเกิดขึ้นที่ฝ่าเท้า แต่ก็สามารถพบได้ที่นิ้วมือหรือฝ่ามือได้เช่นกัน การรักษาผื่นที่เท้าก็ไม่ได้แตกต่างจากการรักษาในบริเวณอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเจ็บปวดหรือคันที่แย่ลง ห้ามเกาหรือทำให้ตุ่มน้ำแตก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการล้างมือเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ  ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อการระคายเคืองผิว เช่นโลชั่นมี่ผสมน้ำหอมและสบู่ล้างจาน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคผิานผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำ

ภาวะแทรกซ้อนหลักๆจากผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำมักเป็นอาการคันและเจ็บจากตุ่มน้ำ บางครั้งผื่นอาจมีความรุนแรงในระหว่างอาการกำเริบซึ่งจำเป็นต้องจำกัดการใช้มือหรือแม้แต่การเดิน และอาจเกิดการติดเชื้อได้ อีกทั้งยังอาจทำให้ไปรบกวนการนอนหลับหากมีอาการคันหรือเจ็บปวดอย่างรุนแรง

การป้องกันและการควบคุมอาการกำเริบ

โชคไม่ดีที่ยังไม่มีการป้องกันหรือควบคุมการกำเริบของผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำได้ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้นด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเช่นสบู่ผสมน้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีความรุนแรงและรักษาความชุ่มชื้นไว้เสมอ

สิ่งที่ควรคาดหวังในระยะยาวคืออะไร 

ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำมักหายไปได้เองในสองสามสัปดาห์โดยไม่ปราศจากภาวะแทรกซ้อน หากไม่มีการเกาบริเวณที่ขึ้นผื่น ก็อาจไม่เกิดรอยแผลเป็นที่สังเกตเห็นทิ้งไว้ หากเกาบริเวณที่ขึ้นผิ่น อาจทำให้อาการแย่ลงและมีอาการยาวนานขึ้นกว่าผื่นจะหาย อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นผลมาจากการเกาและทำให้ตุ่มน้ำแตกได้ แต่กระนั้นอาการกำเริบของผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำสามารถรักษาหายขาด และสามารถกลับมาเป็นใหม่อีกครั้งได้เพราะสาเหตุของโรคยังไม่เป็นที่แน่นอน 
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด