ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
ไดโคลฟีแนค

Diclofenac คือยาอะไร

Diclofenac คือ ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ อยู่ในรูปแบบเจลทาเฉพาะที่ แคปซูล ยาเม็ด ยาหยอดตา แผ่นแปะบนผิวหนัง สารละลายที่ใช้เฉพาะที่ และยาผงสำหรับใช้ในช่องปาก ยาไดโคลฟีแนค ในรูปแบบเจลใช้ทาเฉพาะที่นั้น มีหลายยี่ห้อ ทั้ง ยาไดฟีลีน หรือ โวลทาเรน ที่ล้วนมีประสิทธิภาพในการรักษา

คุณสมบัติของ Diclofenac

ไดโคลฟีแนคเป็นเจลที่ใช้ทาเฉพาะที่ แต่ก็มีในรูปแบบอื่น ๆ อย่างยาเม็ด แคปซูล ยาหยอดตา ยาผงสำหรับใช้ในช่องปาก แผ่นแปะบริเวณผิวหนัง และสารละลายที่ใช้เฉพาะที่ มีจำหน่ายในหลากหลายยี่ห้ออย่างไดฟิลีน หรือ Voltaren เจลใช้รักษาอาการปวดตามข้อต่อต่าง ๆ จากโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษา ผื่นแอกทินิกเคอราโทซิส (AK) ได้

Diclofenac ใช้เมื่อไร 

ไดโคลฟีแนคในรูปแบบเจลใช้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม บริเวณข้อต่อต่าง ๆ โดยทาเพื่อการรักษาบริเวณผิวหนัง ซึ่งรวมถึงข้อต่อที่มือ และหัวเข่า Diclofenac ในรูปแบบเจลยังใช้ในการรักษาผื่นแอกทินิกเคอราโทซิส (AK) เป็นอาการที่ผิวหนังเกิดขุยหยาบ และเป็นสะเก็ดบนผิวหนัง พบบ่อยในผู้สูงอายุ

การทำงานของ Diclofenac 

ยา Diclofenac จัดเป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ยาทำงานโดยปิดกั้นเอนไซม์บางชนิดในร่างกาย เมื่อเอนไซม์ถูกปิดกั้น ร่างกายก็จะลดปริมาณสารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงสามารถลดอาการอักเสบ และเจ็บปวดได้ ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอน จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือใช้เครื่องจักรในขณะใช้ยา

ผลข้างเคียงของ Diclofenac

Diclofenac อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในระดับที่ไม่รุนแรง หรือร้ายแรงได้ แต่รายการที่ระบุนี้อาจไม่ใช่ผลข้างเคียงทั้งหมด และหากเกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ผลข้างเคียงทั่วไปของ ไดโคลฟีแนค เจล ได้แก่ 

Diclofenac

ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง 

ให้รีบพบแพทย์ทันที ที่ผู้ป่วยมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง มีดังต่อไปนี้:
  • อาการบวมน้ำ ดังนี้
    • อุจจาระสีเข้มมาก
    • เลือดในอุจจาระของคุณ
    • เกิดรอยช้ำได้ง่าย

วิธีใช้ Diclofenac 

ปริมาณ ยา Diclofenac ที่แพทย์กำหนดนั้นจะขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ :
  • ลักษณะและความรุนแรงของอาการของผู้ป่วยที่ใช้ Diclofenac ในการรักษา
  • อายุ
  • รูปแบบของยาไดโคลฟีแนค
  • เงื่อนไขทางสุขภาพของผู้ป่วย
ตามปกติแพทย์จะเริ่มการรักษาด้วย Diclofenac dosage ในปริมาณที่น้อย และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเมื่อติดตามอาการไปสักพัก เพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโดยจะกำหนดปริมาณที่น้อยที่สุดที่ให้ผลการรักษาตามต้องการ

ข้อแนะนำในการใช้ Diclofenac

Diclofenac ใช้รักษาอาการในระยะสั้น ควรใช้เวลาที่น้อยที่สุดในการรักษาอาการ หากจำเป็นต้องใช้เป็นเวลานาน ๆ แพทย์จะตรวจสอบผลกระทบที่มีต่อการทำงานของตับ ไต และความดันโลหิตเป็นระยะ ๆ

ยานี้มีความเสี่ยง หากผู้ป่วยไม่ใช้ยาตามที่กำหนด 

กรณีหยุดใช้ยา: หากผู้ป่วยหยุดใช้ Diclofenac โดยที่อาการบวม และปวดยังคง อาการเจ็บปวดที่ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อเหล่านั้นอาจลุกลามและเรื้อรังได้ กรณีไม่ได้รับประทานยาตามเวลาที่กำหนด อาจส่งผลให้ประสิทธภาพของยาลดลง เพราะยาชนิดนี้จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีปริมาณยาบางส่วนอยู่ในร่างกายตลอดเวลา กรณีใช้ยามากเกินไป: อาจเกิดอาการข้างเตียงจากการใช้ยาเกินขนาด ดังนี้:
  • แผลในกระเพาะอาหาร
  • เลือดออกในกระเพาะอาหาร
  • ปวดหัว
หากผู้ป่วยสงสัยว่าเกิดอาการจากการใช้ยามากเกินไป ให้รีบไปพบแพทย์ กรณีพลาดการรับประทานยา: ให้รีบทานยาทันทีที่รู้ตัว  แต่หากใกล้มื้อยาครั้งต่อไปไม่กี่ชั่วโมง ให้พิจารณาข้ามการรับประทานยาไปเลย เพราะการรับประทานยาที่มากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงที่เป็นอันตราย วิธีติดตามว่ายากำลังทำงานอยู่: อาการของผู้ป่วยต้องดีขึ้น

ใครที่ไม่ควรใช้ Diclofenac

Diclofenac เป็นยาต้านการอักเสบแบบ nonsteroidal (NSAID) ที่ใช้กันทั่วไปเพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ อย่างไรก็ตาม มีบุคคลบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือใช้ไดโคลฟีแนคด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงและข้อห้าม ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:
  • ปฏิกิริยาการแพ้:
      • บุคคลที่ทราบกันว่าแพ้ไดโคลฟีแนคหรือยากลุ่ม NSAID อื่นๆ (เช่น ไอบูโพรเฟนหรือนาโพรเซน) ไม่ควรใช้ไดโคลฟีแนค
  • โรคหอบหืด มีติ่งเนื้อในจมูก และภูมิแพ้แอสไพริน:
      • ผู้ที่มีประวัติโรคหอบหืด ติ่งเนื้อในจมูก หรือมีอาการแพ้แอสไพรินหรือยากลุ่ม NSAID อื่นๆ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะมีอาการหลอดลมหดเกร็งหรือเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงเมื่อใช้ไดโคลฟีแนค
  • แผลในกระเพาะอาหารหรือเลือดออกในกระเพาะอาหาร:
      • Diclofenac สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดในทางเดินอาหารและแผลในกระเพาะอาหาร บุคคลที่มีประวัติเป็นแผลในกระเพาะอาหาร มีเลือดออกผิดปกติ หรือมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ควรหลีกเลี่ยงยาไดโคลฟีแนค
  • หัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง:
      • ไม่แนะนำให้ใช้ Diclofenac กับบุคคลที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวและทำให้การทำงานของหัวใจแย่ลงได้
  • ปัญหาไต:
      • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตอย่างรุนแรง รวมถึงโรคไตเรื้อรัง ควรใช้ไดโคลฟีแนคด้วยความระมัดระวัง NSAIDs อาจส่งผลต่อการทำงานของไต และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบในกรณีเช่นนี้
  • โรคตับ:
      • บุคคลที่เป็นโรคตับหรือการทำงานของตับบกพร่องควรใช้ไดโคลฟีแนคด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจส่งผลต่อเอนไซม์ตับได้
  • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
      • โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ยา Diclofenac ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ไม่แนะนำในระหว่างการให้นมบุตร
  • ผู้สูงอายุ:
      • ผู้สูงอายุอาจไวต่อผลข้างเคียงของ diclofenac มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดออกในทางเดินอาหารและแผลในกระเพาะอาหาร แนะนำให้ติดตามอย่างระมัดระวัง
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด:
      • บุคคลที่มีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ควรใช้ไดโคลฟีแนคด้วยความระมัดระวัง เนื่องจาก NSAIDs อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ความดันโลหิตสูง:
    • Diclofenac อาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นได้ บุคคลที่มีความดันโลหิตสูงหรือควบคุมความดันโลหิตได้ไม่ดีควรใช้ไดโคลฟีแนคด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด
 ทั้งนี้ก่อนรับประทานยาใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานทุกครั้งและแจ้งให้แพทย์ทราบถึงอาการและยา รวมไปถึงอาหารเสริมใด ๆ ที่รับประทานอยู่

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/drugs/2/drug-4284-4049/diclofenac-oral/diclofenac-sodium-enteric-coated-tablet-oral/details
  • https://www.nhs.uk/medicines/diclofenac/
  • https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a689002.html
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด