Cyberbullying คืออะไร
ไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbullying) คือ การที่คนๆ หนึ่งทำอะไรที่น่ารังเกียจให้กัลอีกคนหนึ่ง หลายครั้ง โดยตั้งใจ เจตนาที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ โดยเป็นการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านโซเชียลมีเดีย (เช่น Facebook หรือ Instagram) หรืออาจจะผ่านแอพ (เช่น Snapchat) หรือแม้แต่ผ่านการส่งข้อความ หรืออีเมลก็ตาม การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตเป็นปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว พบว่า 1 ใน 4 คน มักจะเคยได้รับประสบการณ์ไซเบอร์บูลลี่ในช่วงชีวิตวัยรุ่น เนื่องจากการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ และแพลตฟอร์มการสื่อสารใหม่เข้ามาจำนวนมาก นักวิจัยที่ศึกษาวิธีการนี้จึงถกเถียงถึงวิธีการ และเรื่องของการกลั่นแกล้งในเรื่องความไม่สมดุลของอำนาจระหว่างเหยื่อ และผู้กลั่นแกล้ง โดยพบว่าคนพาลมักมีร่างกายแข็งแรงกว่าเหยื่อ ซึ่งไม่ใช่แค่กรณีของการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์เสมอไป และคนพาลมักจะมีความแข็งแกร่งขึ้น เรื่องไซเบอร์บูลลี่นั้นศึกษาได้อยากเนื่องจากเป็นการกลั่นแกล้งผ่านทางโลกอินเทอร์เน็ต การกลั่นแกล้งโดยทั่วไป เช่น การกลั่นแกล้งแบบตัวต่อตัวมักจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ที่โรงเรียน หรือนอกโรงเรียน ในทางกลับกัน การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตอาจจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จากนั้นจึงเกิดการแชร์หรือนำกลับมาแกล้งได้อีก เช่นโพสต์การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตเพียงโพสต์เดียวก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างเหตุการณ์การกลั่นแกล้งที่ตามต่อมาจำนวนมากได้ อีกแง่มุมที่ซับซ้อนของการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ คือเป็นการกลั่นแกล้งโดยเจตนา สำหรับการกลั่นแกล้งต่อหน้านั้นคนพาลตั้งใจพยายามทำร้ายเหยื่อ แต่การกลั่นแกล้งไซเบอร์บูลลี่นั้นอาจจะเป็นการสร้างความรำคาญใจอย่างมาก ในขณะที่คนกลั่นแกล้งอาจคิดว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องตลก ปัญหาคือแม้ว่าคนแกล้งจะล้อเล่น แต่การล้อเล่นนั้นทำให้เหยื่อไม่พอใจ และเกิดความหงุดหงิดได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การก้าวข้ามปัญหาครอบครัวทำไม Cyber Bulling จึงเป็นเรื่องที่ร้ายแรง
การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตให้ผลลัพธ์ที่เลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ถูกแกล้ง หรือผู้กลั่นแกล้งก็ตาม และนักวิจัยทั่วโลกกำลังพยายามค้นหาวิธีที่จะช่วยหลายๆ คนจัดการกับการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ เพราะหลายๆ คนมีสุขภาพจิตที่แย่ลงจากการไซเบอร์บูลลี่ และน่าเศร้าที่เหยื่อมักจะไม่ขอความช่วยเหลือเมื่อถูกกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ เพราะเขามักจะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญ หรือไม่สามารถแก้ไขการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ได้ เด็กวัยรุ่นอาจจะกลัวกับการที่พ่อแม่เข้ามาจัดการ และไปที่โรงเรียนจะทำให้เขายิ่งอับอาย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตอาจเริ่มแยกตัว และรู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้สุขภาพจิตของเขาแย่ลง และคุณภาพชีวิตโดยรวมก็แย่ลงเช่นกัน หากคุณไม่บอกใคร เป็นเรื่องยากมากที่คนอื่นจะทราบว่าคุณกำลังถูกกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แม้ว่าเราจะไม่ใช่เหยื่อ แต่ก็ต้องจับตาดูพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของเพื่อนๆ ที่อาจจะสื่อว่ากำลังถูกกลั่นแกล้ง เช่น เพื่อนเลิกสนใจในสิ่งที่พวกเขาเคยรัก หรือเขาใช้เวลาอยู่บ้านคนเดียวมากขึ้นเรื่อยๆ หากพวกเขาประสบปัญหาการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ ควรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในทันที“การเชื่อมต่อทางสังคม” หมายความว่าอย่างไร
ผู้คนจะรู้สึกเชื่อมโยงทางสังคม เมื่อพวกเขารู้สึกสบายใจ มั่นใจ และเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้อมีแค่ครอบครัว และเพื่อนฝูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสังคมรอบตัวด้วย หากผู้คนกำลังดิ้นรนที่จะรู้สึกผูกพันทางสังคม พวกเขาอาจรู้สึกว่าไม่สามารถเกี่ยวข้องกับคนรอบข้างได้ และพวกเขาอาจมีปัญหาในการหาเพื่อนหรือเข้าใจตนในโลกนี้ และรู้สึกโดดเดี่ยว การรู้สึกเดียวดายอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ มากมาย เช่น ความนับถือตนเองต่ำ การไม่ไว้ใจผู้อื่น และรู้สึกโดดเดี่ยว และราวกับว่าพวกเขาไม่มีใคร ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่รู้สึกว่า ถูกกลั่นแกล้ง และไม่มีใครสนใจ เนื่องจากทุกคนมีความแตกต่างกัน ผู้คนอาจรู้สึกถึงความเชื่อมโยง และเป็นส่วนหนึ่งด้วยวิธีที่ต่างกัน บางคนอาจรู้สึกเชื่อมโยงกับโรงเรียนของพวกเขาจริงๆ ไม่ว่าจะผ่านกลุ่มเพื่อน หรือเพราะครูคนใดคนหนึ่ง ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกผูกพันกับพ่อแม่จริงๆ และอาจไว้ใจพวกเขาได้ง่าย จะดีที่สุดเมื่อรู้สึกว่าเชื่อมโยงกับสังคมในทุกๆด้าน นอกเหนือไปจากเพื่อน ครอบครัว และโรงเรียน หรือกล่าวได้ว่าควรที่จะรู้สึกเชื่อมโยงกับชุมชนของตน และกับโลกรอบตัว อาจเป็นกลุ่มกีฬา กิจกรรมในชุมชน หรือกิจกรรมออนไลน์ โดยความรู้สึกเชื่อมโยงทางสังคมไม่ได้เกิดขึ้นจากการเห็นหน้าผู้อื่นแบบเห็นหน้ากันเสมอไป เมื่อพิจารณาถึงความนิยมในโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน มีหลายร้อยวิธีที่เราสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้โดยไม่ต้องเห็นพวกเขา เราสามารถพูดคุยกันผ่านโซเชียลมีเดีย แอพบนโทรศัพท์ ข้อความ โทรศัพท์ แฮงเอาท์วิดีโอ และเกมออนไลน์ มีหลายวิธีที่สามารถพูดคุยกัน และรู้สึกเชื่อมโยงกันเมื่ออาจไม่รู้สึกเหมือนเห็นหน้ากัน นักวิจัยกล่าวว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์อาจเปิดโอกาสให้คนวัยหนุ่มสาวสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงทางออนไลน์ และอาจช่วยให้พวกเขามีความสุข และมีสุขภาพดีขึ้น และเชื่อมโยงกับผู้อื่นมากกว่าการที่จะต้องเผชิญหน้ากันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าบางคนชอบที่จะติดต่อกับคนอื่นแบบเห็นหน้ากัน และไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกเชื่อมต่อกับผู้อื่นเมื่อออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเน้นว่าความรู้สึกเชื่อมโยงทางสังคมและรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านวิธีการออนไลน์ และออฟไลน์ แต่ในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันออกไป อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ติดยาเสพติดควรทำอย่างไรการเชื่อมโยงทางสังคมกับสุขภาพจิต
ช่วงชีวิตวัยรุ่นอาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลง ดังนั้นนี่คือ ช่วงเวลาที่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตมากที่สุด เป็นช่วงเวลาที่ควรจะติดต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัวเพื่อไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว การวิจัยพบว่า คนที่มีความสัมพันธ์ทางสังคมมากกว่ามีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่วัยรุ่นจะต้องตระหนักถึงความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ ออฟไลน์ หรือทั้ง 2 อย่าง การมีคนพูดคุยด้วยเมื่อคุณรู้สึกไม่สบาย หรืออยู่คนเดียวนั้นสำคัญมากสำหรับสุขภาพจิตที่ดี และความเป็นอยู่ที่ดี และการขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่จะทำให้รู้สึกดีขึ้นด่าประจานคนอื่น มีโทษทางกฏหมาย
การแสดงความคิดเห็น โพสต์หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ สามารถทำได้ แต่ควรระวังและทำตามกติกา เนื่องจากคนบนโลกออนไลน์นั้นมีตัวตนอยู่จริง และการแสดงความคิดเห็นที่ให้ร้าย เสียหาย อาจจะก่อปัญหาให้กับตัวคุณได้ การโพสต์ข้อความใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือถูกดูหมิ่น ทำให้เกิดความอับอาย โดยไม่คิดไตร่ตรอง ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของผู้โพสต์ ผู้แชร์ หรือผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือคอมเมนต์ก็ตาม จะต้องรับโทษหากผู้เสียหายต้องการเอาความ การนินทาคนอื่นลงในไลน์กลุ่ม อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท เพราะเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง- ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
- ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
บทสรุปเกี่ยวกับไซเบอร์บูลลี่ และการเชื่อมโยงทางสังคม
จากบทความนี้สามารถสรุปได้ว่า มีการวิจัยแสดงให้เห็นว่า เหยื่อที่ถูกรังแกไม่ว่าจะแบบออนไลน์หรือแบบออฟไลน์ มักจะมีสุขภาพจิตไม่ดี เหงา และขาดการติดต่อกับสังคม และอาจไม่ได้ขอความช่วยเหลือหรือการสนับสนุน ทำให้การเชื่อมต่อกับคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี และโปรดจำไว้ว่าการขอความช่วยเหลือไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ การคงไว้ซึ่งความเชื่อมโยงกับครอบครัว เพื่อนฝูง และชุมชน จะทำให้มีโอกาสคิดบวกได้มากขึ้น และลดโอกาสที่จะประสบปัญหาสุขภาพจิตไม่ดี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆ คน ที่จะเข้าใจว่าการยังคงเชื่อมต่อกับผู้อื่นมีความสำคัญเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากถูกกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ ผู้ปกครอง ครู และโรงเรียนต้องเข้าใจว่าคนเด็กวัยรุ่นอาจรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกรอบตัวอย่างมาก เมื่อพวกเขาออนไลน์ ดังนั้นการจำกัดการใช้เทคโนโลยี หรือโลกออนไลน์อาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตเสมอไป เป็นไปได้ว่าการเชื่อมต่อออนไลน์ของคนเด็กวัยรุ่นอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการรับมือกับการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต โปรดจำไว้ว่าการเชื่อมต่อทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญมากในการคงไว้ซึ่งความสุข และสุขภาพที่ดี และสามารถเป็นกลไกป้องกันสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (Cyberbullying)หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น