แตงกวาเป็นผักหรือผลไม้
แตงกวามักจะถูกคิดว่าเป็นผัก แต่ที่จริงแล้วแตงกวาคือผลไม้ แตงกวาอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงสารประกอบพืช และสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยรักษาและป้องกันโรคบางโรคได้ นอกจากนี้ แตงกวายังมีพลังงานต่ำ มีน้ำมาก และมีไฟเบอร์ละลายน้ำ ทำให้พวกมันมีคุณสมบัติช่วยเติมน้ำและช่วยลดน้ำหนักประโยชน์ของแตงกวามีอะไรบ้าง
1. มีคุณค่าทางอาหารสูง
แตงกวามีพลังงานต่ำแต่มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย แตงกวาที่ยังไม่ปลอกเปลือก 300 กรัม มีสารอาหารดังนี้:- พลังงาน: 45
- ไขมันทั้งหมด: 0 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต: 11 กรัม
- โปรตีน: 2 กรัม
- ใยอาหาร: 2 กรัม
- วิตามิน C: 14% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- วิตามิน K: 62% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- แม็กนีเซียม: 10% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- โพแทสเซียม: 13% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- แมงกานีส: 12% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
2. สรรพคุณของแตงกวาช่วยต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระไปช่วยหยุดการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่น หรือกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระ การสะสมของสารอนุมูลอิสระที่อันตรายเหล่านี้สามารถนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ มากมายได้ ภาวะเครียดออกซิเดชั่นที่เกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง หัวใจ ปอด และระบบภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ ผักและผลไม้ รวมไปถึงแตงกวา เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเหล่านี้ การศึกษาหนึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระของแตงกวาในผู้สูงอายุ 30 คน ด้วยผงแตงกวา เมื่อสิ้นสุดการทดลอง 30 วัน ผงแตงกวาเพิ่มกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระอย่างมีนัยสำคัญและทำให้สถานะของสารต้านอนุมูลอิสระดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การบริโภคผงแตงกวานั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าการบริโภคแตงกวาสด ๆ การศึกษาในหลอดทดลองอีกชิ้นหนึ่งทดลองเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของแตงกวาและพบว่าพวกมันมีส่วนประกอบของฟาโวนอยส์และแททนิน ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยหยุดสารอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย3. ช่วยทำให้อิ่มน้ำ
น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย และมีหน้าที่สำคัญมากมาย เช่น การควบคุมอุณหภูมิและการลำเลียงของเสียและสารอาหาร การที่ร่างกายได้รับน้ำอย่างพอเหมาะจะส่งผลต่อทุกสิ่งในร่างกายตั้งแต่ประสิทธิภาพของร่างกายไปจนถึงการเผาผลาญ ในขณะที่คุณได้รับน้ำที่ร่างกายต้องการจากการดื่มน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ บางคนอาจได้รับน้ำ 40% จากการบริโภคอาหาร ผลไม้และผัก เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยน้ำ ในการศึกษาหนึ่ง ระดับน้ำในร่างกายและสารอาหารถูกประเมินและบันทึกในเด็ก 442 คน พวกเขาพบว่า การรับประทานผลไม้และผักมากขึ้นช่วยทำให้ระดับน้ำในร่างกายดีขึ้น เนื่องจากแตงกวาประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 96% พวกมันจึงช่วยทำให้น้ำในร่างกายมากขึ้นซึ่งช่วยให้เพียงพอต่อความต้องการ4. กินแตงกวาทุกวันช่วยลดน้ำหนัก
แตงกวาสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ในหลายทาง อันดับแรก พวกมันมีพลังงานต่ำ แตงกวา 104 ให้พลังงาน 16 แคลลอรี่ ในขณะที่แตงกวา 300 กรัมมีพลังงานเพียงแค่ 45 แคลลอรี่เท่านั้น ซึ่งนี่หมายความว่าคุณสามารถรับประทานแตงกวาได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับพลังงานมากเกินไปและทำให้น้ำหนักขึ้น แตงกวาสามารถเพิ่มรสชาติให้สลัด แซนวิช และเครื่องเคียงอื่น ๆ ได้อย่างลงตัวนอกจากนี้ น้ำที่มีปริมาณสูงในแตงกวายังช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย5. มันอาจช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
การศึกษาในสัตว์และในหลอดทดลองพบว่าแตงกวาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้และป้องกันอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้ การศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นถึงประโยชน์หลายอย่างของพืชต่อน้ำตาลในเลือด แตงกวาสามารถช่วยลดและควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดี การศึกษาในสัตว์ชิ้นหนึ่งได้ทำให้หนูเป็นโรคเบาหวานและให้สารสกัดจากเปลือกแตงกวาแก่หนู เปลือกแตงกวาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง นอกจากนี้ การศึกษาในหลอดทดลองพบว่าแตงกวาอาจช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นและป้องกันอาการแทรกซ้อนที่เชื่อมโยงกับเบาหวาน6. ช่วยทำให้ถ่ายอย่างสม่ำเสมอ
การรับประทานแตงกวาอาจช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวอย่างเป็นปกติ การขาดน้ำเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก เพราะมันไปเปลี่ยนความสมดุลของน้ำในร่างกายและทำให้การถ่ายลำบากขึ้น แตงกวามีน้ำมากและทำให้เกิดภาวะอิ่มน้ำ การที่ร่างกายอิ่มน้ำอยู่เสมอทำให้ขับถ่ายได้อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ลำไส้เป็นปกติ นอกจากนี้แตงกวายังมีใยอาหาร ซึ่งช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้ ปกติแล้วเพ็กตินเป็นใยอาหารละลายน้ำที่พบในแตงกวาสามารถช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวเป็นปกติได้ การศึกษาหนึ่งในคน 80 คนรับประทานอาหารเสริมเพ็กติน พบว่าเพ็กตินช่วยให้กล้ามเนื้อลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และเป็นสารอาหารให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบขับถ่าย7. ง่ายต่อการเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหาร
แตงกวามีความกรอบปานกลางและให้รสชติที่สดชื่น แตงกวามักจะถูกรับประทานสด ๆ หรือถูกหั่นใส่ในอาหารต่าง ๆ ตั้งแต่สลัดจนถึงแซนวิช แตงกวามักจะถูกรับประทานดิบ ๆ เป็นของว่างพลังงานต่ำหรือรับรับประทานคู่กับฮัมมัส น้ำมันมะกอก เกลือ หรือน้ำสลัดเพื่อให้ได้รสชาติเพิ่มขึ้น แตงกวาสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เหล่านี้คือสูตรอาหารต่าง ๆ ที่สามารถเพิ่มแตงกวาใส่เข้าไปได้:- แตงกวาแผ่นอบ
- แตงกวาดอง
- สลัดแตงกวา
- น้ำดื่มผสม สตรอวเบอร์รี่ มะนาว แตงกวา และใบสาระแหน่
- ไอศกรีมแตงกวาและใบสาระแหน่
โทษของแตงกวามีอะไรบ้าง
แตงกวามีกรดยูริคสูงไม่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคเกาต์วิธีการล้างแตงกวาให้สะอาด
การล้างแตงกวาก่อนรับประทานเป็นเรื่องที่สำคัญมากเนื่องจากอาจมีสารตกค้าง- ล้างด้วยน้ำเย็น:ถือแตงกวาไว้ใต้น้ำเย็นที่ไหล ถูผิวเบา ๆ ด้วยมือของคุณหรือใช้แปรงผักเพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือเศษที่มองเห็นได้ ขั้นตอนนี้จะช่วยขจัดสิ่งปนเปื้อนบนพื้นผิว
- หรือใช้น้ำส้มสายชู :คุณสามารถผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำ 3 ส่วนในชามหรือกะละมัง ปล่อยให้แตงกวาแช่ในสารละลายนี้สักครู่
- เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษชำระ:ซับแตงกวาให้แห้งโดยใช้ผ้าเช็ดครัวหรือกระดาษชำระที่สะอาด การอบแห้งแตงกวาจะช่วยขจัดความชื้นส่วนเกินและสิ่งปนเปื้อนที่หลงเหลืออยู่
- ใช้หรือจัดเก็บ:เมื่อล้างและทำให้แห้งแล้ว แตงกวาก็พร้อมนำไปใช้ในสูตรอาหารที่คุณต้องการ หากคุณไม่ได้ใช้ทันที ให้เก็บไว้ในตู้เย็นในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและแห้ง
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/283006
- https://www.webmd.com/food-recipes/cucumber-health-benefits
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น