ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้เราใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน การเรียนออนไลน์ หรือการดูหนังฟังเพลงต่าง ๆ
แสงสว่างที่พอดีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการดูแลสุขภาพตาของเราแล้ว ยังเป็นการดูแลคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่ด้วย โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้คอมนาน ๆ
เมื่อเราต้องมองจอคอมในที่ที่มีแสงน้อย เราควรจะปรับความสว่างของหน้าจอให้ลดลง เมื่อเราอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก เราควรจะปรับแสงของหน้าจอให้สว่างขึ้นตาม
วิธีลดแสงหน้าจอคอม
การปรับแสงหน้าจอคอมนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการตั้งค่าในคอมพิวเตอร์ ฟังก์ชันบนแป้นพิมพ์ และการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันปรับแสงอัตโนมัติการปรับแสงสำหรับ Windows 10
การปรับแสงบนวินโดวส์ 10 นั้นสามารถทำได้โดยการกดกล่องบริเวณด้านขวาล่างของจอ โดยกล่องนั้นจะมีลักษณะคล้ายกล่องข้อความ เมื่อเปิดขึ้นมาแล้ว เราจะเห็นสัญญลักษณ์เป็นพระอาทิตย์เล็ก ๆ บนเส้น ในเราเลื่อนปรับซ้ายขวาตามความสว่างที่ต้องการได้การปรับแสงสำหรับ Windows 7 และ 8
สำหรับการปรับแสงของวินโดวส์ 7 หรือ 8 ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ Control Panel คลิก Pardware แล้วเลือก Power Options จากนั้นให้หาคำว่า Screen Brightness แล้วปรับความสว่างตามที่เหมาะสม
การปรับแสงสำหรับโน๊ตบุ้ค
โน๊ตบุ้คที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดมักจะมีปุ่มปรับแสงอยู่บนคีย์บอร์ด โดยสามารถสังเกตได้ที่แถวบนสุดของคีย์บอร์ด ที่เป็น F1 ถึง F12 ผู้ใช้จะเห็นรูปพระอาทิตย์เล็ก ๆ อยู่ที่ปุ่มใดปุ่มหนึ่ง รูปพระอาทิตย์ที่ใหญ่กว่าสำหรับปรับแสงให้สว่างขึ้น ส่วนรูปพระอาทิตย์ที่เล็กกว่าสำหรับปรับแสงลง ทั้งนี้ ปุ่มปรับแสงจะอยู่ที่ใดก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นของโน๊ตบุ้คที่คุณใช้งานอยู่การปรับแสงอัตโนมัติ
ปัจจุบันนั้น คอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ้ครุ่นใหม่ ๆ สามารถปรับแสงหน้าจออัตโนมัติได้ โดยสามารถปรับได้จากทั้งปริมาณของแบตเตอร์รี่ที่เหลือ และความสว่างของแสงภายนอก ตัวอย่าง เช่น ในวินโดวส์ 10 เราจะสามารถตั้งค่าได้ว่าเราต้องการให้หน้าจอเราสว่างน้อยลงเพื่อประหยัดพลังงานเมื่อแบตของเราเหลือกี่เปอร์เซนต์ โดยให้เลือกที่ Setting > System > Battery นอกจากนี้ เรายังสามารถตั้งค่าให้หน้าจอคอมของเราปรับแสงอัตโนมัติได้ตามความสว่างภายนอกอีกด้วย เช่น ในวินโดวส์ 10 สามารถเลือก Setting > System > Display แล้วกดเลือก เปลี่ยนความสว่างอัตโนมัติเมื่อแสงเปลี่ยน เท่านี้เราก็จะได้ความสว่างหน้าจอที่ดีต่อสุขภาพสายตาแล้วอันตรายจากแสงสีฟ้า
เราคงเคยได้ยินกันมามากเกี่ยวกับอันตรายของแสงสีฟ้าต่อดวงตาของเรา มีงานวิจัยหนึ่งจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า แสงสีฟ้านั้นไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อดวงตา หรือเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดจอประสาทตาเสื่อม แต่อย่างไรก็ตาม แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะไปรบกวนการนอนหลับ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหากับนาฬิกาชีวิตอีกด้วยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรรู้
การปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญในการลดอาการปวดตาและสร้างสภาพแวดล้อมในการรับชมที่สะดวกสบาย เคล็ดลับในการปรับแสงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์มีดังนี้
1. การปรับความสว่าง:
- เพิ่มหรือลดความสว่าง:ปรับความสว่างของจอภาพให้อยู่ในระดับที่สบายตา หน้าจอไม่ควรสว่างหรือสลัวเกินไป แนวทางที่ดีคือจับคู่ความสว่างของหน้าจอกับแสงโดยรอบในห้อง
2. อุณหภูมิสี:
- โทนสีอุ่นและโทนเย็น:จอภาพส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณปรับอุณหภูมิสีได้ ลองใช้โทนสีโทนอุ่นในตอนเย็นเพื่อลดแสงสีฟ้าซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับได้
3. ฟิลเตอร์แสงสีฟ้า:
- ใช้ตัวกรองแสงสีฟ้า:หน้าจอจำนวนมากปล่อยแสงสีฟ้า ซึ่งอาจทำให้ปวดตาและรบกวนรูปแบบการนอนหลับได้ พิจารณาใช้ตัวกรองแสงสีฟ้าหรือเปิดใช้งานโหมด “Night Shift” บนคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยแสงสีฟ้าในตอนเย็น
4. แสงสว่างโดยรอบ:
- ปรับแสงสว่างในห้อง:ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแสงสว่างในห้องสม่ำเสมอและไม่สร้างแสงสะท้อนหรือแสงสะท้อนบนหน้าจอ วางตำแหน่งจอภาพของคุณเพื่อไม่ให้หันไปทางหน้าต่างหรือแหล่งแสงสว่างโดยตรง
5. คอนทราสต์ของหน้าจอ:
- ปรับการตั้งค่าคอนทราสต์:ค้นหาสมดุลระหว่างการตั้งค่าความสว่างและคอนทราสต์บนจอภาพของคุณ ควรตั้งค่าคอนทราสต์ให้อยู่ในระดับที่ช่วยให้ข้อความและรูปภาพชัดเจนและอ่านง่าย
6. ขนาดตัวอักษรและสไตล์:
- ขนาดแบบอักษรที่เหมาะสมที่สุด:ปรับขนาดและสไตล์แบบอักษรเพื่อให้ข้อความอ่านได้ง่ายขึ้น ข้อความขนาดเล็กและอ่านยากอาจทำให้ปวดตาได้
7. ตำแหน่งหน้าจอ:
- การจัดวางระดับสายตา:วางจอภาพของคุณไว้ที่ระดับสายตา ด้านบนของหน้าจอควรอยู่ที่หรือต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย และหน้าจอควรอยู่ในระยะการรับชมที่สะดวกสบายเพื่อลดอาการปวดคอ
8. การหยุดพักเป็นประจำ:
- ปฏิบัติตามกฎ 20-20-20:หยุดพักทุกๆ 20 นาที มองบางสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุตเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดตาและความเหนื่อยล้า
9. ปรับความละเอียดการแสดงผล:
- ความละเอียดที่เหมาะสมที่สุด:ใช้ความละเอียดการแสดงผลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับจอภาพของคุณ ความละเอียดที่ต่ำหรือสูงเกินไปอาจทำให้ปวดตาได
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น