คลินดามัยซิน (Clindamycin) คืออะไร
คลินดามัยซิน (Clindamycin) คือ ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย และหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย นิยมใช้เพื่อรักษาสิวอักเสบ ผิวหนังอักเสบ ภาวะติดเชื้อในข้อต่อกระดูก ภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในช่องปาก ช่องท้อง หรือรักษาแบคทีเรียบริเวณช่องคลอด นอกจากใช้เป็นยารักษาโดยตรงแล้ว ยังสามารถใช้ควบคู่กับยาปฏิชีวนะตัวอื่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสรรพคุณของยาคลินดามัยซิน (Clindamycin)
ยาคลินดามัยซินมีสรรพคุณรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ) ชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Clindamycin ยาสำหรับรักษาภาวะติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น แต่ไม่ออกฤทธิ์ต่อการติดเชื้อไวรัส หากไม่ควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะให้ดี อาจเป็นสาเหตุของอาการดื้อยาในอนาคตได้วิธีการใช้ยา Clindamycin
- การรับประทาน ยาคลินดามัยซินต้องใช้ตามที่แพทย์กำหนดเท่านั้น และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด ห้ามปรับปริมาณยาเอง เมื่อรับประทานยาแล้ว ให้ดื่มน้ำตามประมาณ 1 แก้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองคอ การตวงปริมาณยาที่อยู่ในรูปแบบน้ำให้ใช้ไซริงค์ ช้อนตวงยา หรือถ้วยตวงยาสำหรับยาน้ำโดยเฉพาะ
- การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยาคลินดามัยซินบางครั้งสามารถใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือหลอดเลือดดำได้ ซึ่งผู้ฉีดต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง เข็มฉีดยา หลอดฉีด หรืออุปกรณ์อื่นสำหรับฉีดยาที่ผ่านการใช้งานแล้ว ต้องถูกกำจัดอย่างเหมาะสม
- การใช้ในรูปแบบเจลและโฟม (มีคลินดามัยซินเป็นส่วนผสม 1%) หรือที่เรียกว่า Clinda m ด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดี จึงเหมาะกับการรักษาสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดใหญ่ บริเวณหัวสิวจะมีจุดสีขาวเล็ก ๆ หรือที่เรียกกันว่า สิวหัวช้าง ซึ่งเชื้อแบคทีเรีย P.Acne คือตัวการที่เปลี่ยนชั้นไขมันใต้ผิวหนังให้อักเสบ บวม เมื่อเม็ดเลือดขาวเข้ามาจัดการกับเชื้อแบคทีเรีย ก็จะเกิดเป็นหนอง และก้อนปูดขึ้นมากลายเป็นเนินน้อย ๆ บนผิว ซึ่งหากอักเสบไม่มาก ก็สามารถยุบหายได้เอง แต่หากอาการรุนแรง บวมมากก็ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อคลินด้าเอ็มมาช่วยรักษา
ข้อควรระวังในการใช้ยา Clindamycin
กรณีผู้ใช้เคยมีอาการแพ้ยา Clindamycin ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนรับยานี้ ตัวยาอาจไม่ใข่สาเหตุของการแพ้โดยตรง แต่เป็นส่วนประกอบอื่น ๆ ได้ จึงควรปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลแนะนำการใช้งาน กรณีมีอาการของโรคตับ โรคไต โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร/ลำไส้ (อาทิ ลำไส้อักเสบ ท้องเสียจากเชื้อแบคทีเรีย) มีอาการภูมิแพ้ (เช่น หอบหืด ผื่นที่ผิวหนัง) ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา Clindamycin ผลกระทบของยา Clindamycin กับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ทำจากแบคทีเรียเชื้อเป็นบางชนิด (เช่น ไทฟอยด์วัคซีน) ดังนั้นไม่ควรฉีดวัคซีนในระหว่างที่มีการใช้ยานี้ ยกเว้นกรณีที่แพทย์สั่ง ผลกระทบต่อการผ่าตัด จึงควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าผู้ป่วยกำลังใช้ยานี้อยู่ กรณีของผู้สูงอายุมักมีผลข้างเคียง โดยทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังได้ ในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงให้นมบุตรตัวยาอาจผ่านไปยังทารกได้ จึงต้องแจ้งแพทย์ทราบก่อนรับยา กรณีใช้เพื่อการรักษาสิว ไม่ควรใช้คลินดาเอ็มกับสิวแบบ สิวผด สิวเสี้ยน สิวหิน เพราะจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว และยังส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ๆ เกิดอาการดื้อยาได้ และทำให้การรักษาสิวยากขึ้นได้ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Clindamycin
เมื่อใช้ยาคลินดามัยซิน แล้วเกิดอาการแพ้ยา เช่น ผื่นขึ้น หายใจติดขัด หน้าบวม หรืออาการอื่น ๆ ตามที่จะระบุต่อไปนี้ ให้ใช้ยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที- ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ ท้องร่วง ถ่ายเหลว หรืออุจจาระมีเลือดปะปน
- รู้สึกขมปาก
- วิงเวียนศรีษะ มึนงง กล้ามเนื้อไม่มีแรง
- เป็นดีซ่าน
- ปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน
- มีไข้ เจ็บคอ แสบตา
ใครที่ไม่ควรใช้ Clindamycin
คลินดามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ แม้ว่าโดยทั่วไปจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับบุคคลจำนวนมาก แต่ก็มีสถานการณ์และเงื่อนไขบางประการที่การใช้ยาคลินดามัยซินอาจมีข้อห้ามหรือต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บุคคลที่จัดอยู่ในประเภทต่อไปนี้ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการใช้คลินดามัยซิน:- ปฏิกิริยาการแพ้:
-
-
- บุคคลที่ทราบว่าแพ้คลินดามัยซินหรือลินโคมัยซิน ไม่ควรใช้คลินดามัยซิน ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
-
- ประวัติความเป็นมาของภาวะระบบทางเดินอาหาร:
-
-
- การใช้คลินดามัยซินมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดอาการลำไส้ใหญ่บวมชนิดรุนแรงที่เรียกว่า Clostridium difficile-associated อาการท้องร่วง (CDAD) บุคคลที่มีประวัติเกี่ยวกับภาวะระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอาการลำไส้ใหญ่บวมอักเสบ ควรใช้คลินดามัยซินด้วยความระมัดระวัง และควรตัดสินใจโดยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
-
- ความผิดปกติของตับ:
-
-
- บุคคลที่เป็นโรคตับอย่างรุนแรงหรือทำงานผิดปกติอาจจำเป็นต้องใช้คลินดามัยซินด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากยาจะถูกเผาผลาญในตับ อาจจำเป็นต้องมีการติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด
-
- ความผิดปกติของไต:
-
-
- คลินดามัยซินถูกขับออกทางไต บุคคลที่มีความผิดปกติของไตอย่างรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรือการรักษาทางเลือกอื่น การติดตามการทำงานของไตเป็นสิ่งสำคัญในกรณีเช่นนี้
-
- โรคหอบหืดหรือภูมิแพ้รุนแรง:
-
-
- บุคคลที่มีประวัติโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้รุนแรงอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อคลินดามัยซิน แนะนำให้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและการดูแลทางการแพทย์
-
- การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
-
-
- ความปลอดภัยของคลินดามัยซินในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรยังไม่เป็นที่แน่ชัด ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ยาคลินดามัยซิน และควรพิจารณาความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
-
- เด็ก:
-
-
- อาจใช้คลินดามัยซินในเด็กได้ แต่ควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาและการติดตามอย่างระมัดระวัง
-
- ผู้สูงอายุ:
-
-
- ผู้สูงอายุอาจมีความไวต่อผลข้างเคียงบางอย่างของคลินดามัยซินมากกว่า และอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาตามปัจจัยต่างๆ เช่น การทำงานของไตและตับ
-
- ใช้ร่วมกับตัวแทนการปิดกั้นประสาทและกล้ามเนื้อ:
-
- คลินดามัยซินอาจเพิ่มผลของสารปิดกั้นประสาทและกล้ามเนื้อซึ่งนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าทางเดินหายใจ ข้อควรระวังเมื่อใช้ clindamycin ร่วมกับสารดังกล่าว
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a603021.html
- https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/Clindamycin-topical-route/proper-use/drg-20063064
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น