อาการโดยภาพรวม
อาการไอเรื้อรัง (Chronic Cough) คือ อาการไอที่ติดต่อกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ขึ้นไป อาการไอเรื้อรังก็อาจมีสาเหตุมาจากน้ำมูกไหลลงคอ หรืออาการภูมิแพ้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอาการไอเรื้อรังจากโรคมะเร็งหรือโรคปอดที่อันตรายถึงชีวิตได้ อาการไอเรื้อรังจะส่งผลกระทบชีวิตคุณมากมาย แม้เวลาในกลางคืน อาการไอเรื้อรังนั้นก็ทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึก และทำให้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันตามมา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องพบแพทย์ เมื่อคุณไอเรื้อรังมากกว่า 3 สัปดาห์ บางครั้งอาการไอก็อาจจะก่อเกิดความรำคาญ แต่อาการไอก็มีประโยชน์อยู่ เมื่อคุณไอ คุณก็จะมีน้ำมูกและสิ่งแปลกปลอมออกมาจากระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้อาการไอนั้นยังตอบสนองต่อการอักเสบหรืออาการป่วยต่างๆได้ อาการไอนั้นมักจะมีช่วงเวลาสั้น ซึ่งอาจเกิดมาจากอาการหวัดหรือไข้ ซึ่งอาจจะไอเป็นเวลา 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ และอาการก็จะดีขึ้น เราอาจจะไม่พบอาการไอที่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือนหรือแม้กระทั่งเป็นปีเท่าใดนัก เมื่อคุณมีอาการไอเรื้อรังโดยที่ไม่มีสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่างได้สาเหตุอาการไอเรื้อรัง
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง มีดังนี้:- น้ำมูกไหลลงคอ
- โรคหอบหืด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการไอที่มาจากโรคหอบหืด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของไอเรื้อรัง
- ภาวะกรดย้อนหลัง หรือ โรคกรดไหลย้อน (GERD)
- โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่น โรคปอดบวม หรือ โรคหลอดลมอักเสบฉับพลัน ซึ่งมีอาการไอแห้งเรื้อรัง
- ยาลดความดันโลหิต ที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- การสูบบุหรี่
- โรคหลอดลมโป่งพองที่เกิดจากทางเดินหายใจเกิดความเสียหาย ทำให้ผนังหลอดลมในปอดหนาและอักเสบ
- โรคหลอดลมฝอยอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อและอักเสบของหลอดลมฝอย เส้นเล็กๆที่อยู่ในปอด
- โรคหลอดลมพอง เป็นอาการที่ปอดและอวัยวะภายในอื่นๆเสียหาย เนื่องจากการที่สารคัดหลั่งในร่างกายมีความเข้มข้นและหนา
- โรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากการที่เยื่อหุ้มปอดนั้นเกิดมีบาดแผลขึ้นมา
- โรคหัวใจล้มเหลว
- โรคมะเร็งปอด
- โรคไอกรน
- โรคซาร์คอยโดซิส ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มของเซลล์อักเสบเรียกว่า granulomas ที่เกิดขึ้นในปอดและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
อาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับไอเรื้อรัง
นอกจากอาการไอแล้ว คุณอาจจะมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละคน อาการที่เห็นได้ร่วมกับการไอเรื้อรังดังนี้:- รู้สึกถึงการที่มีของเหลวไหลเข้าไปหลังคอ
- โรคกรดไหลย้อน
- เสียงแหบ
- น้ำมูกไหล
- อาการเจ็บคอ
- อาการคัดจมูก
- หายใจถี่
- อาการวิงเวียนศีรษะ หรือ เป็นลม
- เจ็บหน้าอกและรู้สึกไม่สบาย
- อาการปวดหัว
- อาการนอนไม่หลับ
- ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้
- อาการไอเป็นเลือด
- มีเหงื่ออกตอนกลางคืน
- มีไข้สูง
- หายใจไม่ออก
- น้ำหนักลดลงโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
- มีอาการเจ็บหน้าอกเป็นเวลานาน
การรักษาอาการไอเรื้อรัง
การรักษาอาการไอเรื้อรัง ก็ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุอาการไอของคุณ:การติดเชื้อ
วิธีแก้ไอเรื้อรังโดยการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคปอด หรือ การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น.โรคหอบหืด
ยาที่ใช้รักษาโรคหอบหืดอาจรวมถึงสเตียรอยด์และยาขยายหลอดลม ซึ่งต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ยาเหล่านี้ช่วยลดอาการบวมในทางเดินหายใจโรคกรดไหลย้อน
คุณจะรับประทานยาเพื่อต่อต้าน ลด หรือหยุดการผลิตกรดขึ้นมา นอกจากยาแก้กรดไหลย้อน ยังมียาตัวอื่นดังนี้:- ยาลดกรด
- ยาต้านตัวรัยH2
- ยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
น้ำมูกไหลลงคอ
ยาหดหลอดเลือด สามารถทำให้สารคัดหลั่งที่อยู่ในร่างกายนั้นแห้งได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอเรื้องรังมีเสมหะและอาการแพ้นั้นหายไปด้วย และลดอาการบวมในทางเดินหายใจของคุณอีกด้วยโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
วิธีแก้ไอเรื้อรังโดยการใช้ยาขยายหลอดลม ใช้ในการรักษาโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและปอดอุดกั้นเรื้อรังและยาในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายอาหารที่ควรรับประทานเมื่อกำลังไอ
น้ำผึ้งหนึ่งช้อนเต็ม
น้ำผึ้งซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่บ้านที่ดีมากที่สุด (และราคาไม่แพง) สำหรับอาการไอแห้งในเวลากลางคืน น้ำผึ้งจัดอยู่ในประเภทดีมัลเซนท์หรือของเหลวข้นที่เคลือบคอ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง มีสองสิ่งที่ควรทราบ ข้อแรก: ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี กินน้ำผึ้ง เนื่องจากน้ำผึ้งมีสปอร์ของโรคโบทูลิซึมซึ่งสามารถปล่อยสารพิษเข้าสู่ร่างกายหลังจากกลืนเข้าไป เนื่องจากทารก ยัง ไม่มีระบบภูมิคุ้มกันที่พัฒนาเต็มที่พวกเขาจึงไม่สามารถต่อสู้กับสารพิษนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงได้ซุปไก่
ซุปไก่ คุณอาจคิดว่าซุปไก่เป็นอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย แต่จริงๆ แล้วมีประโยชน์จริงๆ ที่จะจิบเมื่อคุณมีอาการไอ น้ำซุปให้ของเหลว อิเล็กโทรไลต์ และกรดอะมิโนที่ช่วยให้คุณไม่ขาดน้ำ แต่ไม่ใช่แค่นั้น ซุปที่มีน้ำซุปเป็นส่วนประกอบหลักช่วยให้เสมหะในทรวงอกและปอดของคุณบางลง คลายความแออัด และต่อสู้กับ การอักเสบในลำคอ สองสิ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้ ไก่ก็มีประโยชน์ในตัวเองเช่นกัน ไก่มีกรดอะมิโนที่เรียกว่าซิสเทอีน ซึ่งช่วยให้เสมหะในปอดบางลงทำให้ขับออกได้ง่ายขึ้น น้ำมูกน้อยลงอาจหมายถึงการไอน้อยลง เนื่องจากการไอมักถูกกระตุ้นเพื่อกำจัดเสมหะที่ติดอยู่ในอกหรือปอด ไก่ยังมีโปรตีนไร้มันสูง ซึ่งสามารถช่วยให้คุณมีพลังงานเพิ่มเติมที่คุณต้องการเมื่อคุณป่วยสถิติผู้ป่วยอาการไอเรื้อรังในประเทศไทย
สถิตินี้มาจาก เว็บไซต์voiceออนไลน์ จากการสำรวจว่าหากมีอาการไอเรื้อรังและน้ำหนักลด อาจเป็นวัณโรคได้ จากการสำรวจพบว่าปัญหาวัณโรคของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560-2561 ต้องคัดกรองค้นหาในกลุ่มเสี่ยง ประมาณ 5 ล้านคนอาทิ ผู้ต้องขัง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สัมผัสร่วมบ้าน ผู้สูงอายุที่มีโรค ผู้ป่วยเบาหวาน แรงงานข้ามชาติ บุคลากรสาธารณสุข พบผู้ป่วยวัณโรค 22,784 ราย และส่งต่อป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา สำหรับในปี 2562 ตั้งเป้าหมายลดผู้ป่วยรายใหม่ให้เหลือ 88 คนต่อแสนประชากรในปี 2564 จากที่พบ 156 คนต่อแสนประชากรในปี 2560นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-cough/diagnosis-treatment/drc-20351580
- https://www.webmd.com/cold-and-flu/features/stubborn-cough#1
- https://www.lung.org/lung-health-diseases/lung-disease-lookup/chronic-cough/symptoms-diagnosis
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น