กระดูกคอเสื่อม หรือ (Cervical spondylosis) คือ การเสื่อมของกระดูกต้นคอที่เกิดขึ้นได้กับทุกวัย ซึ่งมีผลกับข้อต่อ และ แผ่นกระดูกที่ติดกับกระดูกสันหลังส่วนคอ ซึ่งโดยปกติแล้วสามารถหายไปได้เอง แต่ก็ไม่สามารถหายขาดได้ เนื่องจากเป็นภาวะเสื่อมที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา
กระดูกคอเสื่อม เกิดจากการสึกหรอของกระดูกสันหลังบริเวณคอ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่มักจะพบในผู้สูงอายุก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม กระดูกคอเสื่อมก็สามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยอื่นได้อีกด้วย
ซึ่งบางคนที่ไม่เคยมีอาการของกระดูกคอเสื่อม แต่ในบางคนนั้นอาจมีสาเหตุมาจากอาการปวดเรื้อรัง อาการปวดที่รุนแรง และอาการตึงที่คอ แต่อย่างไรก็ตาม มีคนมากมายที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากที่อาการกระดูกคอเสื่อมได้หายไปแล้ว
Spondylosis)” width=”500″ height=”372″ />
อาการของกระดูกคอเสื่อม
ผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมนั้น ไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจนเท่าไหร่นัก หากแต่อาการที่เกิดขึ้นนั้นอาจเริ่มจากอาการที่ไม่รุนแรงแล้วนำไปสู่อาการที่รุนแรงได้ในภายหลังและอาการอาจจะค่อยเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันก็ได้ หนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นนั้นก็คืออาการปวดบริเวณไหล่ ซึ่งบางคนมักจะบ่นว่าอาการปวดแขนและอาการปวดตามนิ้ว ซึ่งอาการอาจจะปวดเพิ่มมากขึ้นได้ หากคุณนั้น: อีกอาการที่พบได้บ่อยก็คืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้ยกแขนหรือจับวัตถุได้ยากมากขึ้น อาการอื่นๆที่เป็นสัญญาณเตือนของกระดูกคอเสื่อม มีดังนี้:- อาการคอเคล็ดที่แย่ลง
- อาการปวดหัวที่มักจะเกิดขึ้นที่ด้านหลังของศีรษะของคุณ
- มีอาการรู้สึกเสียว หรือ มีอาการชาที่ส่วนใหญ่มีผลกระทบต่อไหล่และและแขน ซึ่งมันอาจจะลงมาที่ขาด้วย
ลองดู Movinix capsules และ Flexadel gel ช่วยบรรเทาอาการกระดูกคอเสื่อม
สาเหตุของกระดูกคอเสื่อม
กระดูกสันหลังบริเวณคอช่วยป้องกันกระดูกคอซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการสึกหรอไปตามวัย จนนำไปสู่อาการกระดูกคอเสื่อมได้ อาการที่นำมาสู่กระดูกคอเสื่อมได้ มีดังนี้ :ภาวะกระดูกงอกผิดปกติ
ภาวะกระดูกงอกผิดปกติเป็นการที่กระดูกมีการเจริญเติบโตที่มากเกินไป ซึ่งมีผลมาจากการที่กระดูกนั้นเจริญเติบโตอย่างพิเศษ เพื่อให้กระดูกสันหลังมีความแข็งแรงมากขึ้น แต่ก็ทำให้กลายเป็นกระดูกส่วนเกินออกมารบกวนกับระบบประสาทที่คอได้ อย่างไรก็ตาม กระดูกที่เกินออกมานั้น จะไปกดส่วนที่มีบอบบางในบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอ เช่น ไขสันหลังและเส้นประสาท ซึ่งทำให้เกิดอาการโรคกระดูกคอทับเส้นประสาทได้แผ่นกระดูกสันหลังขาดน้ำหล่อเลี้ยง
กระดูกสันหลังส่วนคอนั้นมีแผ่นกระดูกอยู่ ซึ่งมีความหนาเหมือนหมอนอิงที่ช่วยป้องกันการกระแทก การยกของหนักและบิดไปมา และกิจกรรมอื่นๆที่ใช้แรงมาก และมีน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อต่อที่มีลักษณะคล้ายเจลที่อยู่ข้างในแผ่นกระดูกคอที่สามารถแห้งได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น และสาเหตุนี้เองที่ทำให้กระดูกของคุณ(กระดูกสันหลังส่วนคอ)ถูกันไปมา ซึ่งเกิดอาการเจ็บปวดได้ ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณมีอายุ 30 ปีขึ้นไปโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
แผ่นกระดูกสันหลังส่วนคอสามารถเกิดอาการแตกร้าว ซึ่งช่วยให้การรั่วไหลของน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อต่อที่ทำหน้าที่กันชน กันกระแทก ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทของไขสันหลังและเส้นประสาทที่คอ ซึ่งทำให้เกิดอาการชาที่แขน ซึ่งรู้กันดีว่ามีอาการปวดตั้งแต่แขนลงมา ซึ่งทำให้เกิดโรคกระดูกคอทับเส้นประสาทได้อาการบาดเจ็บที่คอ
หากคุณมีอาการบาดเจ็บที่คอ(ไม่ว่าจะเป็นการตกจากที่สูงหรือการเกิดอุบัติเหตุ) ซึ่งกระตุ้นให้กระดูกคอมีปัญหาการเคลื่อนไหวที่คอได้ เมื่อมีคุณอายุมากขึ้นอาการเอ็นตึงที่คอ
เส้นเอ็นคอที่แข็งแรงนั้นจะเชื่อมโยงไปยังกระดูกสันหลังส่วนคอเข้าด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไป เส้นเอ็นนี้เกิดการแข็งและตึงที่คอ ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของคอและทำให้คอเกิดอาการตึงที่คอการใช้งานกระดูกคอมากเกินไป
บางอาชีพหรืองานอดิเรกที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนักโดยที่มีส่งผลกระทบต่อกระดูกต้นคอ ทำให้กระดูกต้นคอเสื่อม (เช่นงานก่อสร้าง) ซึ่งการทำงานเหล่านี้ทำให้เกิดการสึกหรอจนเป็นกระดูกคอเสื่อมได้เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์
หากคุณมีอาการชาหรือมีอาการเสียวร้าวที่หัวไหล่ แขนหรือขา หรือหากคุณสูญเสียการควบคุมของลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ ควรพบแพทย์โดยด่วน เพื่อขอคำปรึกษาในการรักษาอาการเหล่านี้ ซึ่งเป็นการรักษาทางการแพทย์ฉุกเฉินที่คุณควรจะรีบรักษาโดยด่วน หากคุณมีอาการปวดและรู้สึกไม่สบายตัว ที่จะเริ่มมีการรบกวนกิจวัตรประจำวันของคุณ คุณควรจะพบแพทย์เพื่อทำการนัดหมายและตรวจหาสาเหตุของอาการกระดูกคอเสื่อม ถึงแม้ว่าอาการกระดูกคอเสื่อม จะเกิดจากการที่มีอายุที่มากขึ้น แต่ก็ยังมีการรักษาที่สามารถลดความเจ็บปวดและความเจ็บฝืดที่คอที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการกระดูกคอเสื่อมได้การรักษากระดูกคอเสื่อม
การรักษากระดูกคอเสื่อมมักจะมุ่งไปที่การรักษาและบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นกระดูกคอเสื่อม และสามารถทำให้คุณได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ วิธีการผ่าตัดกระดูกคอเสื่อมมักจะให้ผลประสิทธิภาพมากขึ้นการทำกายภาพบำบัด
แพทย์จะส่งให้คุณไปพบนักกายภาพบำบัดเพื่อทำการรักษาโดยทางกายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดจะช่วยคุณรักษาอาการที่เรียกว่ากระดูกคอเสื่อมกายภาพบำบัด โดยทำการยืดเส้นที่กล้ามเนื้อคอและหัวไหล่ การรักษาด้วยวิธีนี้ทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกิดจากอาการกระดูกคอเสื่อมได้ คุณอาจจะมีการใช้เครื่องมื่อที่ช่วยพยุงคอ ซึ่งเครื่องมือนี้ต้องใช้น้ำหนักที่คอเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างข้อต่อต้นคอและบรรเทาความดันในแผ่นกระดูกคอและรากของเส้นประสาทได้การใช้ยา
แพทย์อาจจะแนะนำยาที่รักษาอาการกระดูกคอเสื่อมที่ไม่ใช่ยาที่มีสารสเตียรอยด์ หากยาที่คุณซื้อตามร้านขายยานั้นไม่ได้ผล ซึ่งมีดังนี้ :- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเช่น Movinix
- เจลชนิดพิเศษเช่น Flexadel
- ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่นยาไซโคลเบนซาพรีน(Fexmid) ซึ่งช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อ
- ยาที่ทำให้ง่วงซึม เช่น ยาไฮโดรโคโดน (Norco) เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
- ยาต้านโรคลมชัก เช่น ยากาบาเพนติน(Neurontin) ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดที่มาจากการที่เส้นประสาทถูกทำลาย
- การฉีดยาสเตียรอยด์ เช่น ยาเพรดนิโซน ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อและลดความเจ็บปวดในภายหลัง
- ยาต้านการอักอักเสบ(NSAIDs)ที่แพทย์ไม่ได้สั่ง เช่น ยาดิโคลฟีแน็ก (Voltaren-XR) ซึ่งลดอาการอักเสบของกระดูกคอเสื่อม
การผ่าตัด
หากคุณมีอาการกระดูกคอเสื่อมที่มีความรุนแรงและได้รับการรักษาโดยวิธีอื่นมาแล้วไม่ได้ผล คุณก็อาจต้องได้รับการผ่าตัด ซึ่งแก้ปัญหาภาวะกระดูกงอกผิดปกติ เพื่อนำกระดูกส่วนเกินที่เจริญเติบโตแบบผิดปกติออก กระดูกที่ร้าวบริเวณคอ หรือโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ทำให้มีพื้นที่กระดูกสันหลังส่วนคอและเส้นประสาทที่คอเพิ่มมากขึ้น การผ่าตัดแทบจะไม่มีความจำเป็นกับกระดูกคอเสื่อมเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการกระดูกคอเสื่อมที่มีความรุนแรงและมีผลต่อการเคลื่อนไหวของแขนของคุณ ควรจะพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วนอาหารที่ควรกินและหลีกเลี่ยงในโรคกระดูกคอเสื่อม!
ในอินเดีย 80% ของผู้ที่ มีอายุมากกว่า 60 ปีกำลังประสบปัญหากระดูกคอ หากคุณต้องการเข้าใจคำว่ากระดูกคอในคำง่ายๆ ว่าไม่ใช่โรค แต่เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ มันเป็นการสึกหรอตามธรรมชาติของเนื้อเยื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือเมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมและขาดน้ำ และปัญหานี้ยังรวมถึงการสร้างกระดูกเพิ่มเติมซึ่งนำไปสู่การตีบตันของทางเดินจากจุดที่เส้นประสาทเล็กๆ มาจาก ดังนั้น เมื่อเส้นประสาทเล็กๆ เหล่านี้ถูกยืดหรือกดทับในกระดูกสันหลังส่วนคอ จะทำให้เกิดอาการปวดคอ แขน ขา และสิ่งนี้เรียกว่าโรคคอเรคูโลพาทีหรือปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก Radiculopathy ของปากมดลูกหมายถึงเมื่อหมอนรองกระดูกถูกกดทับจะโป่งออกและกดทับเส้นประสาท สิ่งนี้นำไปสู่อาการปวดคอและมือ นี่คือปัญหาที่เราพูดถึงกัน และตอนนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของอาหารที่คุณควรรับประทานในโรคกระดูกคอเสื่อมเพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอาหารที่ควรรับประทาน:
อาหารที่มีปริมาณแคลเซียม:
- แคลเซียม:อาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูก แคลเซียมช่วยในการสร้างโครงสร้างรองรับที่สำคัญสำหรับกระดูกของเรา
- ผักสีเขียวเข้ม
- น้ำนม
- ชีส
- แซลมอน
- ถั่วและถั่ว
- ผักโขม
- ถั่วเหลือง
อาหารที่มีปริมาณวิตามินดีสูง:
- ไข่แดง
- แซลมอน
- ปลาซาร์ดีน
- เห็ด
- น้ำนม
- แสงแดด
อาหารที่มีปริมาณวิตามินซีสูง:
- วิตามินซี:เป็นวิตามินที่จำเป็นในการช่วยให้กระดูกและเหงือกแข็งแรง วิตามินซียังมีประโยชน์ในการสร้างคอลลาเจน องค์ประกอบคอลลาเจนนี้เป็นรากฐานที่สำคัญ ช่วยในการสร้างแร่ธาตุของกระดูก
- ส้ม
- ฝรั่ง
- ผัก
- เลมอน
- แครอท
- เกรปฟรุ้ต
- ผลไม้สีแดง
- ฟักทอง
- มะละกอ
อาหารที่มีปริมาณวิตามินอีสูง:
- วิตามินอี วิตามินอีเป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนของกระดูกอ่อนในร่างกาย เป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยลดอาการตึง อักเสบ และปวด การบริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอีในรูปแบบดิบเป็นสิ่งสำคัญ และพยายามอย่าปรุงอาหารที่มีวิตามินอีมากเกินไป เพราะออกซิเจนและความร้อนสามารถทำลายวิตามินอีได้
- น้ำมันดอกทานตะวันหรือน้ำมันจากพืช
- ผักใบเขียว
- เมล็ดพันธุ์
- อัลมอนด์
- ธัญพืช
- ถั่ว
- มะเขือเทศ
- มะม่วง
- มะละกอ
- กีวี่
- แอปริคอตแห้ง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในโรคกระดูกคอ:
- ขิงและกระเทียม : ส่วนผสมทั้งสองนี้หาได้ง่ายในครัวของเรา สามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบและความเจ็บปวดได้ ขิงและกระเทียมต่างก็มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการกับการอักเสบและความเจ็บปวด
- อย่าบริโภคอาหารกระป๋องและอาหารแปรรูปซึ่งไม่ดีต่อคุณในทุกสภาวะ
- อาหารที่เติมสารกันบูดและสีสังเคราะห์ไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ
- หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูงหรือกรดยูริกในเลือดสูง คุณต้องหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง ทูออร์ดาล ดอกกะหล่ำ อูราดดาล ขนมหวาน ผลไม้รสเปรี้ยว และองุ่น
- พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและโปรตีนสูง
ลองดู Movinix และ Flexadel ช่วยบรรเทาอาการกระดูกคอเสื่อม
สถิติผู้ป่วยกระดูกคอเสื่อมในประเทศไทย
สถิตินี้มาจากโรงพยาบาลเลิดสิน เรื่องผู้ป่วยกระดูกคอเสื่อม มักจะพบในผู้สูงอายุที่มี 50 ขึ้นไป และมีกลุ่มอาการอยู่ 3 ประเภท ซึ่งมีดังนี้- กลุ่มอาการที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกและภาวะกระดูกคอโดยตรง
- กลุ่มอาการที่เส้นประสาทถูกกดทับ
- กลุ่มอาการของไขสันหลังถูกกดทับ
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cervical-spondylosis/diagnosis-treatment/drc-20370792
- https://www.nhs.uk/conditions/cervical-spondylosis/
- https://www.webmd.com/osteoarthritis/cervical-osteoarthritis-cervical-spondylosis
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น