ยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ยาเซฟไตรอะโซน

ยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) คือ

Ceftriaxone คือ ยาปฏิชีวนะในกลุ่มยาเซฟาโลสปอริน Ceftriaxone กลไกการออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยการทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียตาย ใช้กับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียในระดับลุกลามไปทั่ว เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน โรคหนองในแท้ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่หู ปอด ช่องท้อง ทางเดินปัสสาวะ ข้อต่อ กระดูก กระแสเลือด เป็นต้น บางครั้งแพทย์อาจพิจารณาฉีด Ceftriaxone เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนผ่าตัดรักษาผู้ป่วยด้วย

Ceftriaxone กลไกการออกฤทธิ์ คือ

ยา Ceftriaxone คือยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด อาการ เซฟไตรอะโซน Ceftriaxone ยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะที่เรียกว่า เซฟฟาโลสปอริน ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามยาชนิดนี้ไม่สามารถรักษาอาการติดเชื้อไวรัสได้ เช่น ไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น จะเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการดื้อยาได้  ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ยา Ceftriazone อาจใช้รักษาผู้ป่วยทำทันตกรรม ที่มีปัญหาของโรคหัวใจ (เช่น ผู้ป่วยที่ใช้ลิ้นหัวใจเทียม) เพื่อป้องกันการติดเชื้อรุนแรงที่หัวใจ เช่น อาการเยื่อบุหัวใจอักเสบ

ข้อควรระวังการใช้ยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone)

ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา โดยเฉพาะอาการแพ้ยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะ เช่น เซฟาเลกซิน เซฟโพรซิล อะม็อกซี่ซิลิน และไอมิเพเนม รวมถึงอาการแพ้อาหาร และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากข้าวโพด ห้ามใช้ยากับทารกแรกเกิดที่อายุน้อยกว่า 29 วัน เพราะจะทำให้เกิดภาวะดีซ่าน หรือภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิดได้ ห้ามใช้ยากับเด็กแรกเกิดที่กำลังได้รับการรักษาด้วยยาหรืออาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของแคลเซียมอยู่ในตัวยาหรืออาหารเสริม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากผู้ป่วยกำลังวางแผนมีบุตร กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมลูก เพราะยาอาจส่งผลกระทบต่อทารกได้Ceftriaxoneควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา หากผู้ป่วยเคยมีประวัติป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับตับหรือไต หรือมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ลำไส้อักเสบ ลำไส้ติดเชื้อ เคยท้องร่วงรุนแรง ลิ่มเลือดอุดตัน โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี หรือโรคเบาหวาน เป็นต้น การใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาได้ การใช้ยานี้อาจส่งผลต่อผลการทดสอบทางร่างกายต่าง ๆ จึงควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการตรวจร่างกาย Ceftriaxone มีฤทธิ์กำจัดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่มีผลต่อการรักษาอาการติดเชื้อจากไวรัส

วิธีการใช้ยา Ceftriaxone

ปกติยา Ceftriaxone จะมีสีเหลือง หรือเหลืองอำพัน ห้ามใช้เมื่อเปลี่ยนเป็นสีขุ่น หรือไม่มีสี ไม่ใช้ยาหากภาชนะที่บรรจุยาแตก หรือมีรอยบุบ ควรเก็บรักษายาไว้ที่อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส และไม่โดนแสงแดด การฉีด ยา Ceftriaxone เพื่อรักษาอาการป่วยโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แพทย์พิจารณาการรักษาด้วยยาชนิดนี้จากอาการ หรือชนิดของโรค รวมถึงพิจารณาอายุของผู้ป่วย ประวัติการแพ้ยา และการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย ผู้ป่วยจึงต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา หากใช้ Ceftriazone รักษาภาวะติดเชื้อเรื้อรังและใช้เวลานาน แพทย์อาจพิจารณาตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ เพื่อติดตามผลการรักษา และระดับสารต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ รวมทั้งเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากอาการป่วย  หรือผลข้างเคียงต่าง ๆ ของยา อย่างไรก็ตามผู้ป่วยต้องใช้ยารักษาตามอาการจนครบตามปริมาณที่แพทย์กำหนด ห้ามหยุดใช้ยาเอง เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาได้

ผลข้างเคียง

หากผลข้างเคียงไม่หายไปเอง หรือแย่ลง ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการแพ้รุนแรง ได้แก่
  • ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยาเจ็บปวดมาก กดแล้วเจ็บ เป็นก้อนแข็ง หรือรู้สึกร้อน
  • ผิวซีด อ่อนเพลีย หายใจถี่ หายใจไม่เต็มปอด
  • มีไข้ เจ็บคอ หนาวสั่น หรือมีอาการที่บ่งชี้ว่าเกิดการติดเชื้อ
  • มีอาการแพ้ เช่น ผดผื่นตามผิวหนัง หายใจลำบาก หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม กลืนอาหารได้ลำบาก
  • ผิวลอก เป็นตุ่มพอง
  • รู้สึกแสบร้อนกลางอก เจ็บหน้าอก
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดท้อง รู้สึกชาบริเวณท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะน้อย หรือปัสสาวะถี่
  • ปัสสาวะมีเลือดปน มีสีเข้มเป็นสีน้ำตาล แดง ขุ่น หรือมีกลิ่นเหม็น
  • ท้องร่วงมาก ถ่ายเหลวมาก หรือถ่ายเป็นเลือด
  • เจ็บปวดรุนแรงบริเวณด้านข้าง หรือหลังบั้นเอว
  • มีภาวะดีซ่าน (ตัวเหลืองตาเหลือง)
  • มีอาการชักเกร็ง

ใครที่ไม่ควรใช้ยา Ceftriaxone

Ceftriaxone เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่ม cephalosporin ในวงกว้างที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ แม้ว่าโดยทั่วไปจะยอมรับยาได้ดี แต่ก็มีบางคนที่ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการใช้ ceftriaxone เนื่องจากสภาวะสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงหรือการโต้ตอบที่อาจเกิดขึ้น และเช่นเคย การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้เป็นกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหรือใช้ ceftriaxone ด้วยความระมัดระวัง: การแพ้ยาเซฟาโลสปอริน: 
  • บุคคลที่ทราบว่าแพ้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มเซฟาโลสปอริน รวมถึงเซฟไตรอะโซน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ อาการแพ้ข้ามอาจเกิดขึ้นได้ระหว่างยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทราบถึงอาการแพ้ยาที่ทราบ
ปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรง: 
  • บุคคลที่เคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรง (ภูมิแพ้) ต่อยาปฏิชีวนะ beta-lactam เช่น cephalosporins หรือ penicillins ควรหลีกเลี่ยง ceftriaxone Anaphylaxis เป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่ร้ายแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โรคดีซ่านหรือความผิดปกติของทางเดินน้ำดี: 
  • Ceftriaxone อาจรบกวนการเผาผลาญบิลิรูบิน และควรใช้ด้วยความระมัดระวังในบุคคลที่มีภาวะเดิมที่ส่งผลต่อตับ เช่น โรคดีซ่านหรือความผิดปกติของทางเดินน้ำดี จำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดในกรณีเช่นนี้
ทารกแรกเกิดที่มีภาวะบิลิรูบินในเลือดสูง: 
  • ควรใช้ Ceftriaxone ด้วยความระมัดระวังในทารกแรกเกิด (ทารกแรกเกิด) ที่มีภาวะบิลิรูบินในเลือดสูง (ระดับบิลิรูบินในเลือดสูง) เนื่องจากมีความเสี่ยงที่บิลิรูบินจะเคลื่อนออกจากอัลบูมิน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเคอร์นิเทอรัส
ความผิดปกติของไต: 
  • บุคคลที่มีความบกพร่องในการทำงานของไตควรใช้ ceftriaxone ด้วยความระมัดระวัง อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาในกรณีเช่นนี้ และจำเป็นต้องมีการติดตามการทำงานของไตอย่างใกล้ชิด
สารละลายทางหลอดเลือดดำที่มีแคลเซียม 
  • ไม่ควรผสมหรือฉีด Ceftriaxone ร่วมกับสารละลายทางหลอดเลือดดำที่มีแคลเซียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารกแรกเกิด เนื่องจากอาจทำให้เกิดตะกอนที่ไม่ละลายน้ำได้ ปฏิกิริยานี้อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรง รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับปอดและไต
การตั้งครรภ์และให้นมบุตร: 
  • โดยทั่วไปถือว่า Ceftriaxone ปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร แต่ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์เพื่อประเมินสถานการณ์เฉพาะ และพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงสำหรับมารดาและทารกในครรภ์หรือทารกที่ได้รับนมบุตร
การติดเชื้อ Clostridioides difficile: 
  • Ceftriaxone เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะหลายชนิดอาจนำไปสู่การพัฒนาของการติดเชื้อ Clostridioides difficile (C. difficile) หากเกิดอาการท้องร่วงระหว่างหรือหลังการรักษาด้วย ceftriaxone ควรประเมินความเป็นไปได้ของการติดเชื้อ C. difficile
สื่อสารอย่างเปิดเผยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเสมอเกี่ยวกับประวัติการรักษาของคุณ ยาปัจจุบัน และสภาวะสุขภาพที่มีอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้เซฟไตรอะโซนหรือยาอื่น ๆ อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/drugs/2/drug-7013/ceftriaxone-injection/details
  • https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a685032.html
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด