Сarbamazepine คืออะไร
Сarbamazepine คือยากันชัก ซึ่งมีกลไกการทำงานโดยการลดแรงกระตุ้นของเส้นประสาทที่ทำให้เกิดอาการชักและปวดเส้นประสาท เช่น โรคประสาท และโรคเส้นประสาทจากเบาหวาน Сarbamazepine ยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้วอีกด้วย นอกจากนี้อาจใช้ Сarbamazepine เพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ ที่แพทย์เห็นสมควรที่ไม่ได้ระบุไว้ในบทความนี้คำเตือนในการใช้ยา Carbamazepine
ผู้ป่วยที่ไม่ควรรับประทานยาคาร์บามาเซพีนคือผู้ป่วยที่มีประวัติกดไขกระดูก หากผู้ป่วยมีอาการแพ้ หรือทานยากล่อมประสาท เช่น อะมิทริปไทลีน เดซิปรามีน ด็อกเซพิน อิมิพรามีน หรือนอร์ทริปไทลีน แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาอื่นๆ ทั้งหมดที่ผู้ป่วยกำลังใช้ เนื่องจากยาบางชนิดสามารถเพิ่มหรือลดระดับ Сarbamazepine ในเลือดได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือส่งผลให้ยานี้มีประสิทธิภาพน้อยลง ยาคาร์บามาเซพีนอาจทำให้เกิดปัญหาเลือดร้ายแรง หรือมีผื่นที่ผิวหนัง หรือเกิดอาการแพ้ พบแพทย์ทันทีหากผู้ป่วยมีไข้ อ่อนเพลียผิดปกติ มีเลือดออก ช้ำ หรือมีผื่นที่ผิวหนังที่ทำให้เกิดแผลพุพองและผิวลอก หากมีอาการซึมเศร้าจนมีความคิดที่จะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายควรปรึกษาแพทย์ในการใช้ยานี้อย่างละเอียด อย่าหยุดรับประทานยานี้โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน แม้ว่าผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม หากผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์ อย่าเริ่มหรือหยุดทานคาร์บามาเซพีนโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
ข้อควรรู้ก่อนก่อนรับประทานยานี้
คุณไม่ควรใช้ Сarbamazepine หากผู้ป่วยมีประวัติของการกดไขกระดูก หรือยากล่อมประสาทเช่น Amitriptyline Desipramine Doxepin Imipramine หรือ Nortriptyline อย่าใช้ Сarbamazepine หากผู้ป่วยกำลังใช้ สารยับยั้ง MAOในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ปฏิกิริยาระหว่างยาที่เป็นอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ สารยับยั้ง MAO ได้แก่ furazolidone , Isocarboxazid Linezolid Phenelzine Rasagiline Selegiline และ Tranylcypromine ยาคาร์บามาเซพีนอาจทำให้เกิดผื่นที่ผิวหนังอย่างรุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนเชื้อสายเอเชีย แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือดก่อนที่จะเริ่มใช้ยาเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงของผู้ป่วย บอกแพทย์หากคุณเคยมี:- ปัญหาหัวใจ
- โรคตับหรือไต
- ต้อหิน
- พอร์ฟีเรีย
- ระดับโซเดียมต่ำ
- ภาวะซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน หรือ
- ความคิดหรือการพยายามฆ่าตัวตาย
วิธีการรับประทานยา
รับประทานยา Сarbamazepine ตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรรับประทานพร้อมอาหาร โดยยานี้อาจใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์ก่อนที่อาการของผู้ป่วยจะทุเลาลง แจ้งแพทย์ทันทีหากยานี้ไม่สามารถป้องกันอาการชักของคุณได้ เก็บที่อุณหภูมิห้องห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงกรณีที่ลืมทานยา
ทานยาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป หากใกล้ถึงเวลาที่ต้องให้ยาครั้งต่อไป อย่าเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่าในมื้อถัดไปกรณีที่ได้รับยาเกินขนาด
โทรเรียกรถพยาบาลหรือหน่วยฉุกเฉิน 1669 ทันที อาการใช้ยาเกินขนาดอาจรวมถึงอาการง่วงนอนอย่างรุนแรง หายใจอ่อน หายใจสั้น และหมดสติข้อห้ามในการใช้ยา
การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง และยังเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการชักได้อีกด้วย หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากเกรปฟรุตเนื่องจากเกรปฟรุ้ตอาจมีปฏิกิริยากับคาร์บามาเซพีน และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เมื่อรับประทาน Сarbamazepine อาจทำให้เกิดอาการผิวไหม้ได้ง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดที่มีSPF 30 ขึ้นไป เมื่ออยู่กลางแจ้งCarbamazepine Side Effect
Сarbamazepine อาจก่อให้เกิดการแพ้ เช่น ลมพิษ หายใจยาก ใบหน้าหรือลำคอบวม ไข้ เจ็บคอ แสบผิว แสบตา ตาสีแดง หรือผิวกลายเป็นสีม่วง ผื่นและแผลพุพองตามตัว หากเกิดอาการเช่นนี้ควรไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้หากผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือรู้สึกไม่สบายใจเป็นมิตรกระสับกระส่ายหงุดหงิด หรือมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง ควรไปพบแพทย์ทันที โทรเรียกรถพยาบาลหากมีอาการดังนี้:- เกิดผื่นที่ผิวหนัง หรือลมพิษ
- เบื่ออาหาร ปวดท้องตอนบนด้านขวา ปัสสาวะมีสีเข้ม
- หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นแรง
- โรคโลหิตจางหรือปัญหาเลือดอื่น ๆ – ไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ แผลในปาก เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล ผิวซีด ช้ำง่าย อ่อนเพลียผิดปกติ วิงเวียนศีรษะหายใจไม่ออก
- ระดับโซเดียมในร่างกายต่ำ – ปวดศีรษะ สับสน อ่อนเพลียอย่างรุนแรง อาการชักเพิ่มขึ้น