ภาพรวม
การหายใจไม่ออก (Breathing Difficulty) คือความรู้สึกไม่สบายเมื่อหายใจและรู้สึกราวกับว่าคุณไม่สามารถหายใจได้อย่างเต็มที่ อาการนี้สามารถค่อยๆพัฒนาหรือเกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็ได้ อาการหายใจลำบากอาจเกิดจากหลายสภาวะ นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนามาจากความเครียดและความวิตกกังวลได้ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าการหายใจถี่บ่อยๆหรือหายใจลำบากอย่างกะทันหันอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ ดังนั้นคุณควรรีบปรึกษาแพทย์ภาวะปอดที่อาจทำให้หายใจลำบาก
มีภาวะปอดหลายประการที่อาจทำให้คุณหายใจลำบาก ซึ่งหลายๆกรณีสมควรได้รับการดูแลจากแพทย์โดยทันทีโรคหอบหืด
โรคหอบหืดคือ การอักเสบและการตีบของทางเดินหายใจที่อาจทำให้เกิด:- การหายใจถี่
- หายใจไม่ออก
- อาการแน่นหน้าอก
- ไอ
โรคปอดอักเสบ
โรคปอดบวมคือ การติดเชื้อในปอดที่อาจทำให้เกิดการอักเสบและการสะสมของของเหลวและหนองในปอด ส่วนใหญ่เป็นโรคติดต่อ โรคปอดบวมอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ดังนั้นการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาการอาจรวมถึง:- หายใจถี่
- ไอ
- เจ็บหน้าอก
- หนาวสั่น
- เหงื่อออก
- มีไข้
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
ปอดอุดกั้นเรื้อรัง COPD หมายถึง กลุ่มของโรคที่ทำให้ปอดทำงานได้ไม่ดี อาการได้แก่ :- หายใจไม่ออก
- ไออย่างต่อเนื่อง
- มีเสมหะ
- ระดับออกซิเจนต่ำ
- มีอาการแน่นหน้าอก
เส้นเลือดในปอดอุดตัน
หลอดเลือดแดงในปอดอุดตันหนึ่งเส้นหรือมากกว่า มักเป็นผลมาจากก้อนเลือดจากที่อื่นในร่างกายเช่น ขาหรือกระดูกเชิงกรานเดินทางมาที่ปอด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที อาการอื่น ๆ ได้แก่ :- อาการบวมที่ขา
- เจ็บหน้าอก
- ไอ
- หายใจไม่ออก
- เหงื่อออกมาก
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- วิงเวียนศีรษะ
- การสูญเสียสติ
- ตัวซีด
ความดันโลหิตในปอดสูง
ความดันโลหิตในปอดสูง คือ อาการความดันโลหิตสูงที่มีผลต่อหลอดเลือดแดงในปอด มักจะเกิดจากการตีบหรือแข็งของหลอดเลือดแดง นำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว อาการของภาวะนี้มักเริ่มจาก:- เจ็บหน้าอก
- หายใจถี่
- ปัญหาในการออกกำลังกาย
- เหนื่อยมาก
โรคซาง
โรคซางเป็นภาวะทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฉียบพลัน ที่ทำให้เกิดอาการไอ หากคุณหรือบุตรหลานของคุณมีอาการของโรคซางควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที เด็กอายุระหว่าง6 เดือนถึง 3 ปีมีความเสี่ยงต่อภาวะนี้มากที่สุดฝากล่องเสียงอักเสบ
ฝากล่องเสียงอักเสบ คือ การบวมของเนื้อเยื่อที่ปิดหลอดลมเนื่องจากการติดเชื้อ นี่เป็นโรคที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ควรต้องไปพบแพทย์ทันที อาการอื่น ๆ ได้แก่ : สาเหตุทั่วไปของอาการฝากล่องเสียงอักเสบ อาจป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน haemophilus influenzae type b (Hib) โดยทั่วไปวัคซีนนี้ให้เฉพาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เนื่องจากการติดเชื้อในผู้ใหญ่มีโอกาสเกิดได้น้อยภาวะหัวใจที่อาจทำให้หายใจลำบาก
คุณอาจสังเกตว่าตัวเองรู้สึกหายใจไม่ออกบ่อยขึ้นหากคุณมีอาการเกี่ยวกับหัวใจ เพราะหัวใจของคุณกำลังดิ้นรนเพื่อสูบฉีดเลือดที่มีออกซิเจนไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย สาเหตุของการเกิดปัญหานี้ได้แก่ :โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary artery disease – CAD) เป็นโรคที่ทำให้หลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบและแข็งตัว ภาวะนี้ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลง ซึ่งอาจทำลายกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างถาวร อาการได้แก่ :- เจ็บหน้าอก ( แน่นหน้าอก )
- หัวใจวาย
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด บางครั้งเรียกว่าหัวใจพิการบกพร่อง แต่กำเนิดหมายถึงปัญหาที่ได้รับจากโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ ปัญหาเหล่านี้อาจนำไปสู่:- หายใจลำบาก
- หายใจไม่ออก
- จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นประเภทของการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจหรืออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป ผู้ที่เป็นโรคหัวใจมาก่อนมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะภาวะหัวใจล้มเหลว
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive heart failure หรือ CHF) เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอและไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักนำไปสู่การสะสมของของเหลวในและรอบๆปอด ภาวะหัวใจอื่นๆที่อาจทำให้หายใจลำบาก ได้แก่ :- หัวใจวาย
- ปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ
อาการที่ต้องระวัง
อาการหลักของปัญหาการหายใจคือ รู้สึกเหมือนว่าได้รับออกซิเจนที่ไม่เพียงพอเมื่อมีการหายใจ สัญญาณเฉพาะบางอย่าง ได้แก่ :- อัตราการหายใจเร็วขึ้น
- หายใจไม่ออก
- เล็บหรือริมฝีปากซีด
- ผิวซีดหรือเทา
- เหงื่อออกมากเกินไป
- รูจมูกบาน
- มีไข้
- ปวดหรือรู้สึกกดทับที่หน้าอก
- หายใจไม่ออก
- อาการแน่นในลำคอ
- ไอ
- หายใจถี่ซึ่งทำให้คุณต้องลุกขึ้นนั่งตลอดเวลา
- หายใจถี่ที่ทำให้คุณตื่นในตอนกลางคืน
วิธีการรักษา
การรักษาอาการหายใจลำบากจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการการเปลี่ยนแปลงของชีวิตประจำวัน
หากมีอาการคัดจมูก การออกกำลังกายที่หนักเกินไปหรือการเดินป่าในที่สูง ทำให้เกิดอาการหายใจไม่สะดวก คุณมีแนวโน้มที่จะกลับสู่ภาวะปกติหากคุณมีสุขภาพที่ดี อาการชั่วคราวจะหายไปเมื่อร่างกายของคุณอุ่นขึ้น หรือคุณกลับสู่บริเวณที่ต่ำลดความเครียด
หากความเครียดทำให้เกิดปัญหาในการหายใจ คุณสามารถลดความเครียดได้โดยใช้วิธีเหล่านี้ :- การทำสมาธิ
- การเข้ารับคำปรึกษา
- ออกกำลังกาย
ยา
อาการหายใจลำบากบางครั้งเป็นอาการของโรคหัวใจและปอดที่ร้ายแรง ในกรณีเหล่านี้แพทย์ของคุณจะสั่งจ่ายยาและวิธีการรักษาอื่นๆ เช่น หากคุณเป็นโรคหอบหืด คุณอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจทันทีหลังจากประสบปัญหาการหายใจ หากคุณมีอาการแพ้แพทย์ของคุณอาจสั่งยาต้านฮีสตามีนเพื่อลดอาการแพ้ของร่างกาย แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละอองหรือละอองเกสรดอกไม้ ในกรณีที่รุนแรงคุณอาจต้องได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจหรือการรักษาอื่นๆ หากบุตรหลานของคุณมีอาการหายใจลำบากเล็กน้อย คุณอาจต้องลองวิธีการรักษาแบบแผนโบราณ ควบคู่ไปกับการรักษาจากแพทย์ อากาศเย็นหรือชื้นสามารถช่วยได้ ดังนั้นควรพาลูกออกไปข้างนอกในตอนกลางคืนหรือในห้องน้ำที่มีอากาศร้อน คุณยังสามารถลองใช้เครื่องทำความชื้นแบบหมอกเย็นในขณะที่ลูกของคุณนอนหลับเพื่อลดอาการหายใจไม่สะดวกตอนกลางคืนวิธีการบำบัดภาวะหายใจไม่ออกด้วยธรรมชาติ
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าหากคุณหรือคนอื่นมีอาการหายใจลำบากอย่างรุนแรง คุณควรไปพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่ไม่รุนแรงหรือเป็นการสนับสนุนเสริมควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์ มีวิธีธรรมชาติบางอย่างที่อาจช่วยให้อาการหายใจลำบากดีขึ้น โปรดทราบว่าคำแนะนำเหล่านี้ใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ไม่ได้- ดื่มน้ำให้เพียงพอ:การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
- การสูดดมไอน้ำ:การสูดดมไอน้ำจากชามน้ำร้อนโดยใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะสามารถช่วยเปิดทางเดินหายใจและบรรเทาอาการคัดจมูกได้
- น้ำมันหอมระเหย:น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ และลาเวนเดอร์ เมื่อใช้ในเครื่องกระจายกลิ่นหรือเพิ่มในการสูดดมไอน้ำ สามารถช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและช่วยเปิดทางเดินหายใจ
- แบบฝึกหัดการหายใจ:เทคนิคต่างๆ เช่น การหายใจโดยใช้ริมฝีปากและการหายใจด้วยกระบังลมสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดและเพิ่มปริมาณออกซิเจน
- ชาสมุนไพร:ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น ดอกคาโมมายล์ ขิง และเปปเปอร์มินต์ อาจมีผลช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินหายใจ
- ขิง:ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและสามารถช่วยลดความแออัดได้ คุณสามารถดื่มเป็นชาหรือใส่ในมื้ออาหารของคุณก็ได้
- ขมิ้น:ขมิ้นมีเคอร์คูมินซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ สามารถใส่ในอาหารหรือใช้เป็นอาหารเสริมได้
- น้ำผึ้ง:น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบตามธรรมชาติ และสามารถช่วยบรรเทาอาการไอและระคายคอได้ ผสมกับน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพร
- กระเทียม:กระเทียมเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติต้านจุลชีพและอาจช่วยบรรเทาอาการทางเดินหายใจ รวมเข้ากับการทำอาหารของคุณ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ:การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถปรับปรุงความจุของปอดและสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยรวม ซึ่งจะช่วยในการหายใจ
- รักษาสุขภาพอาหาร:อาหารที่อุดมด้วยผลไม้ ผัก และเมล็ดธัญพืชให้สารอาหารที่จำเป็นและสารต้านอนุมูลอิสระที่สนับสนุนสุขภาพทางเดินหายใจ
- ลดสารก่อภูมิแพ้:หากการแพ้มีส่วนทำให้หายใจลำบาก ให้ลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ และสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง
- ทำให้อากาศชื้น:การใช้เครื่องทำความชื้นสามารถเพิ่มความชื้นในอากาศ ป้องกันความแห้งและระคายเคืองในทางเดินหายใจ
- อยู่ห่างจากสารระคายเคือง:หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการสัมผัสกับควันบุหรี่มือสอง นอกจากนี้ ลดการสัมผัสกับมลพิษและสารเคมีในสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
- เทคนิคการผ่อนคลาย:ความเครียดและความวิตกกังวลอาจทำให้หายใจลำบากมากขึ้น การฝึกทำสมาธิ โยคะ และการผ่อนคลายอย่างลึกซึ้งสามารถช่วยลดความเครียดได้
- อาหารรสเผ็ด:อาหารที่มีแคปไซซิน เช่น พริก สามารถช่วยให้เสมหะบางลงและทำให้ทางเดินหายใจโล่ง
- https://medlineplus.gov/breathingproblems.html
- https://www.webmd.com/lung/breathing-problems-causes-tests-treatments
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/324429
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น