สครับผิวคืออะไร

การขัดผิว คือ วิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรักษาผิวพรรณของคุณให้ดูใสกระจ่างและมีสุขภาพดี สครับขัดผิวกาย คือ วิธีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในการขัดผิวของเรา และสามารหาซื้อได้ง่ายและมีความหลากหลาย หรือคุณอาจลงมือทำสครับขัดผิวได้ด้วยตนเองที่บ้าน ด้วยสูตรสครับหน้าที่คุณทำจากของที่คุณมีติดในห้องครัวอยู่แล้ว

ประโยชน์ของการสครับผิวคืออะไร

การสครับผิวด้วยอุปกรณ์อื่นๆเช่น แปรงขัดตัวหรือใยบวบ ก็สามารถช่วยทำให้ผิวดูมีสุขภาพที่ดีและสดใสได้หลากหลายวิธี การขัดผิวสามารถทำให้ผิวของเราดูสดใสขึ้นเพราะเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายชั้นบนสุดออก ผิวจะถูกกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรงและใสกระจ่าง ประโยชน์อื่นๆของการขัดผิวคือช่วยทำให้การรักษาเฉพาะที่ดีขึ้น หากคุณขัดผิวของคุณก่อนการทาครีม ครีมก็จะสามารถแทรกซึมลงได้ลึกกว่า แทนที่จะอยู่เพียงแค่บนผิวด้านบน เพิ่มเติมคือ การนวดผิวด้วยการขัดตัวนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือตึงเครียด

ควรสครับผิวบ่อยแค่ไหน 

ทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรสครับตัวทุกวัน การขัดผิวทุกวันนั้นมากเกินไปจะทำให้ผิวแห้ง ไวต่อสิ่งกระตุ้นและเกิดการระคายเคือง การขัดตัวที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผิวคือสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ หากคุณมีผิวแห้งและไวต่อการกระตุ้น คุณอาจต้องการการขัดตัวเพียงสัปดาห์ละครั้ง หากผิวของคุณมีโรคทางผิวหนังหรือหากไม่แน่ใจว่าควนขัดผิวบ่อยแค่ไหน ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง วิธีสครับผิวที่ง่ายที่สุดที่มักทำในการขัดตัวคือทำตอนอาบน้ำ ให้นวดสครับเบาที่ผิว วนเป็นวงกลมและล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น

สิ่งที่ต้องมีในการทำสครับขัดผิวด้วยตนเองที่บ้าน 

เพื่อทำสครับผิวเองที่บ้าน เตรียมอุปกรณ์ดังต่อไปนี้:
  • ช้อนสำหรับผสม
  • โถผสม
  • ช้อนตวงหรือถ้วยตวง
  • น้ำมันพื้นฐาน เช่นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันโจโจ้บาร์ น้ำมันเกรปซีด น้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันมะกอก
  • ภาชนะมีฝาปิดเพื่อจัดเก็บsealed container to store the scrub in
  • กลิ่นน้ำมันหอมสองสามหยด หากต้องการ
เมื่อคุณมีอุปกรณ์พร้อมแล้ว คุณสามารถผสมน้ำมันเข้ากับเม็ดผงที่เราเลือก เช่นเกลือหรือน้ำตาล คุณอาจเพิ่มเติมส่วนผสมอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อผิวของคุณ เช่นน้ำผึ้ง หรือชาเขียว การทำสครับผิวด้วยตนเอง สิ่งที่สำคัญคือทำให้ออกมาพอดี คุณคงไม่ต้องการให้มันเหลวเกินไปซึ่งจะยากที่จะนำไปใช้ และคุณเองก็คงไม่ต้องการให้มันเป็นก้อนเกินไปด้วย ต่อไปนี้สครับผิวกายที่เป็นที่นิยม ที่ทั้งมีประโยชน์ต่อผิวและง่ายต่อการทำBody Scrub

สครับผิวกายด้วยกาแฟขัดผิว

มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าคาเฟอีนสามารถช่วยทำให้เซลล์ลูไลด์ลดน้อยลงได้ จากการศึกษาปี 2011 ได้ลองทดสอบครีมที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบและส่วนผสมอื่นๆจำนวน 78 ตัวอย่าง พบว่าหลังจากใช้ไป 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมทดลองที่ใช้ครีมสามารถลดเซลล์ลูไลต์ได้อย่างเห็นได้ชัด และกาแฟขัดผิวขาวใสเนียนนุ่มได้เป็นอย่างดี กาแฟจึงยังเป็นหนึ่งที่นิยมนำมาทำสครับผิวกาย ผงกาแฟเล็กๆเหล่านั้นอ่อนโยนต่อผิว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพในการขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกจากผิวของเราได้ 

ส่วนผสม

  • กาแฟบด 1/2 ถ้วย
  • น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะพร้าว อุ่นๆ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เติมกาแฟบดและน้ำร้อนลงใส่ถ้วยผสม คนให้เข้ากันด้วยช้อน
  2. เติมน้ำมันมะพร้าว หากจำเป็นสามารถเพิ่มกาแฟบดหรือน้ำมันได้เพิ่มให้ได้เนื้อสัมผัสที่ถูกต้อง
  3. เมื่อได้เนื้อสัมผัสที่พอใจแล้ว ใช้ข้อนตักส่วนผสมเก็บลงภาชนะ

สครับหน้าด้วยน้ำตาลทรายแดง

น้ำตาลทรายแดงคือส่วนผสมที่ราคาไม่แพง และหาง่าย ซึ่งช่วยในการขัดผิวของเราได้อย่างดีเยี่ยม น้ำตาลทรายแดงมีความอ่อนโยนต่อผิวกว่าเกลือทะเล หรือดีเกลือฝรั่ง จึงเป็นความคิดที่ดีที่เหมาะนำมาเป็นส่วนผสมสำหรับผิวที่ไวต่อการกระตุ้น เม็ดน้ำตาลทรายอาจทำให้ผิวคุณรู้สึกเหนียวเหนอะ แต่เราสามารถล้างออกได้หมดหลังการขัดผิวแล้ว

ส่วนผสม

  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันที่เราเลือก เช่น น้ำมันมะพร้าว โจโจ้บา มะกอก อัลมอนด์หรือเกรปซีด 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันหอมระเหย (ทางเลือก)

วิธีทำ

  1. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำมันในถ้วยผสม
  2. ผสมจนเข้ากันดี หากจำเป็นสามารถเติมน้ำตาลหรือน้ำมันเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ถูกต้องได้
  3. หากชอบ สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยลงไปหยดหรือสองหยดในส่วนผสม
  4. เมื่อได้เนื้อสัมผัสที่พอใจแล้วใช้ช้อนตักเก็บลงภาชนะมีฝาปิด

ขัดตัวด้วยสครับเกลือทะเล

เกลือมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย สามารถช่วยแก้โรคผิวหนังบางอย่างได้ เกลือคือสารกันเสียชนิดหนึ่ง ดังนั้นสครับเกลือทะเลจึงสามารถเก็บรักษาไว้ได้ด้วยตัวของมันเองตามธรรมชาติ ใช้เกลือทะเลบด เพราะเม็ดเกลือทะเลหยาบอาจสากเกินไปสำหรับผิว ดอกเกลือขัดผิวขาวอาจรุนแรงต่อผิวที่ไวต่อการกระตุ้น ดังนั้นควรระมัดระวังหากคุณมีแผลบนผิวหนังเพราะเกลืออาจทำให้เกิดเจ็บแสบได้ เพราะเกลือไม่มีกลิ่น คุณอาจต้องเพิ่มน้ำมันหอมกลิ่นโปรดของคุณลงไปในสครับผิวกายที่คุณทำเองก็ย่อมได้

ส่วนผสม

  • เกลือทะเล 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันที่คุณเลือก 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันหอมระเหย (ทางเลือก)

วิธีทำ

  1. ผสมเกลือทะเลและน้ำมันลงถ้วยผสม
  2. ผสมเข้ากัน หากจำเป็นสามารถเติมเกลือหรือน้ำมันจนได้เนื้อสัมผัสที่ถูกต้อง
  3. หากต้องการ สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยหนึ่งหรือสองหยดลงผสม คนให้เข้ากัน
  4. เมื่อได้เนื้อสัมผัสที่พอใจแล้วตักเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด

สครับน้ำตาลชาเขียว

ชาเขียวมคุณสมบัติต้านอาการอักเสบและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อผิวได้หลายอย่าง ตามที่ศึกษาในปี 2013 พบว่าชาเขียวสามารถลดความเสียหายของผิวที่เกิดจากการทำลายของแสงแดดได้ ชาเขียวนั้นหาง่ายที่จะนำมาผสมร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ

ส่วนผสม

  • ชาเขียวซอง 2 ซอง
  • น้ำร้อน1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
  • น้ำมันมะพร้าว ละลาย 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

  1. แช่ถุชาลงในน้ำร้อน แช่ชาทิ้งไว้จนเย็น
  2. เมื่อชาเย็นลง
  3. เติมน้ำมันมะพร้าวและผสมเข้ากัน
  4. เมื่อชาเย็นสนิทและเติมน้ำตาลผสมเข้ากัน สิ่งที่สำคัญคือ ชาต้องไม่มีความร้อนเพื่อน้ำตาลจะได้ไม่ละลาย
  5. หากส่วนผสมข้นไป ให้เติมน้ำมันมะพร้าว หากเหลวไปให้เติมน้ำตาลทรายแดง
  6. เมื่อคุณได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ ใช้ช้อนตักเก็บลงภาชนะ

สครับผิวขาวด้วยน้ำตาลน้ำผึ้ง

จากการวิจัยพบว่าน้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย น้ำผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้นจุลินทรีย์ที่อาจช่วยโรคผิวหนังได้หลายอย่าง น้ำผึ้งไม่ได้แค่ช่วยเรื่องซ่อมแซมปัญหาผิวได้เท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องอันตรายจากแสงยูวี และอาจช่วยฆ่าเชื้อโรคบนผิวได้ น้ำผึ้งนั้นผสมได้ง่ายร่วมกับเม็ดน้ำตาลและน้ำมัน ทำให้เป็นสครับที่เต็มไปด้วยสารอาหาร หลังการนวดด้วยสครับนี้ ให้ล้างออกให้สะอาดเพื่อไม่ให้ผิวเหนียวเหนอะ

ส่วนผสม

  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันมะพร้าว ละลาย 1/4 ถ้วย
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เติมน้ำตาลทรายแดง น้ำมันมะพร้าวและน้ำผึ้งลงถ้วยผสม
  2. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน สามารถเติมน้ำมันมะพร้าวได้หากข้นเกินไป
  3. เมื่อได้เนื้อสัมผัสที่พอใจแล้ว ใช้ช้อนตักเก็บลงภาชนะ

เคล็ดลับเพื่อความปลอดภัย

การทำสครับผิวกายที่บ้านนี้ทำมาเพื่อใช้กับตัว ไม่ใช่ใบหน้า ผิวหน้าของเรามีความไวต่อการกระตุ้นมากกว่าผิวในส่วนอื่นๆของร่างกาย หลีกเลี่ยงการขัดผิวดังต่อไปนี้:
  • ผิวไหม้แดด
  • ผิวที่แตก แห้ง
  • แดงหรือบวม
  • ผิวที่กำลังฟื้นฟูจากการลอกผิวด้วยสารเคมี
หากคุณต้องการเพิ่มเติมน้ำมันหอมระเหยลงในสครับขัดผิว ให้ทดลองทาเพื่อเทศการแพ้ที่ผิวของคุณเล็กน้อยก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้แพ้น้ำมันนั้นๆ หากคุณเป็นคนที่มีผิวไวต่อการกระตุ้นหรือผิวแห้งมาก ปรึกษาแพทย์หรือแพทย์ผิวหนัง

ข้อควรคิด

การทำสครับขัดผิวเองที่บ้านนั้นสามารถทำได้รวดเร็วและง่ายมาก และยังมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสครับที่วางขายตามท้องตลาด สครับขัดผิวที่ทำเองจะเป็นธรรมชาติมากกว่า สะอาด อ่อนโยนและมีสารอาหารต่อผิว ขัดที่ผิวอย่างนุ่มนวล และใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษหากคุณมีผิวที่ไวต่อการกระตุ้นหรือมีผิวที่แห้งมากๆ

ข้อควรระวังเมื่อต้องสครับผิว

การใช้สครับขัดผิวอาจเป็นประโยชน์ในการดูแลผิวเป็นประจำ โดยช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและส่งเสริมให้ผิวเรียบเนียนและมีสุขภาพดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้สครับขัดผิวด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้สครับขัดผิว:
  • ความถี่:
      • การขัดผิวบ่อยเกินไปอาจทำให้น้ำมันตามธรรมชาติของผิวหนังหลุดออกไปและทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ขัดผิวกายไม่เกิน 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทผิวและประเภทของสครับที่ใช้
  • ส่วนผสมที่มีฤทธิ์กัดกร่อน:
      • สครับขัดผิวบางชนิดมีอนุภาคหยาบหรือมีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น ผลึกเกลือขนาดใหญ่หรือเปลือกถั่วบด สิ่งเหล่านี้อาจรุนแรงเกินไปโดยเฉพาะกับผิวที่บอบบางหรือบอบบาง เลือกสครับที่มีอนุภาคละเอียดเพื่อการขัดผิวที่อ่อนโยนยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย:
      • หากคุณมีผิวแพ้ง่าย สภาพเช่นกลากหรือผิวที่มีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแดงหรือระคายเคือง ให้เลือกสครับที่ออกแบบมาสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะหรือพิจารณาการทดสอบแพทช์ในพื้นที่เล็กๆ ก่อนใช้อย่างแพร่หลาย
  • หลีกเลี่ยงบาดแผลเปิดหรือผิวหนังระคายเคือง:
      • อย่าใช้สครับขัดผิวกับบาดแผลเปิด บาดแผล หรือผิวหนังที่ระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ขัดผิวอาจทำให้แสบและอาจทำให้ปัญหาผิวที่มีอยู่แย่ลงได้
  • การขัดผิวมากเกินไป:
      • การขัดผิวมากเกินไปอาจทำให้ผิวแห้ง แดง และเพิ่มความไวต่อผิวได้ หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณของการขัดผิวมากเกินไป เช่น ความแห้งหรือการระคายเคืองมากเกินไป ให้ลดความถี่ในการใช้หรือเลือกใช้สครับที่อ่อนโยนกว่า
  • สารเคมีขัดผิว:
      • สครับขัดผิวบางชนิดมีส่วนผสมของสารเคมีขัดผิว เช่น กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) หรือกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมคล้ายคลึงกัน (เช่น เซรั่มหรือโลชั่น) ให้ระมัดระวังการใช้มากเกินไปและการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น
  • ให้ความชุ่มชื้นหลังการขัดผิว:
      • หลังจากใช้สครับขัดผิวแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นเพื่อบรรเทาและบำรุงผิว
  • หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงเกินไป:
      • ใช้แรงกดเบาๆ ก็เพียงพอแล้วเมื่อใช้สครับขัดผิว การขัดถูแรงเกินไปอาจทำให้เกิดรอยน้ำตาเล็กๆ ในผิวหนังและก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดี
  • ตรวจสอบสารก่อภูมิแพ้:
    • ตรวจสอบรายการส่วนผสมของสครับขัดผิวเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่แพ้ส่วนประกอบใดๆ หากคุณมีอาการแพ้หรือแพ้ง่าย ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
โปรดจำไว้ว่าประเภทผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ดังนั้นสิ่งที่ใช้ได้ผลดีกับคนหนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่ง หากคุณมีข้อกังวลเฉพาะเกี่ยวกับผิวของคุณหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง ขอแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด