มะเร็งกระเพาะปัสสาวะคืออะไร
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer) เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กักเก็บน้ำปัสสาวะของร่างกาย ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพระบุว่ามีผู้ชาย 45,000 คนและผู้หญิง 17,000 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ต่อปีประเภทของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมี 3 ชนิดได้แก่มะเร็งที่เกิดขึ้นในเซลล์เยื่อบุผนังภายในกระเพาะปัสสาวะ (Transitional cell carcinoma)
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดนี้เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยเป็นมะเร็งที่เริ่มเกิดขึ้นในเซลล์เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะชั้นใน ซึ่งเป็นเซลล์เยื่อบุที่มีรูปร่างไม่แน่นอนและไม่เกิดความเสียหายเมื่อเนื้อเยื่อถูกยืดมะเร็งที่การติดเชื้อหรืออักเสบเรื้อรังภายในกระเพาะปัสสาวะ (Squamous cell carcinoma)
มะเร็งที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อชนิดนี้เป็นมะเร็งชนิดที่พบได้ยาก โดยมะเร็งชนิดนี้เริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อมีเซลล์มะเร็งความัสเกิดขึ้นภายในกระเพาะปัสสาวะหลังจากเกิดการอักเสบเป็นเวลานานหรือเกิดอาการระคายเคืองภายในกระเพาะปัสสาวะมะเร็งชนิดต่อม (Adenocarcinoma)
มะเร็งชนิดต่อมเป็นมะเร็งที่พบได้ยากเช่นกัน ซึ่งเป็นมะเร็งที่เริ่มเกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อต่อมภายในกระเพาะปัสสาวะหลังจากมีการอักเสบติดเชื้อหรือการระคายเคืองภายในกระเพาะปัสสาวะ โดยเซลล์ต่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากของเสียเยื่อเมือกของต่อมภายในร่างกายอาการของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีอะไรบ้าง
ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหลายคนปัสสาวะเป็นเลือดแต่ไม่มีอาการเจ็บปวดในขณะปัสสาวะ มีอาการหลายอย่างที่สามารถบ่งบอกถึงโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้อย่างเช่น อาการอ่อนล้า น้ำหนักลดลงและเกิดอาการกดเจ็บที่กระดูก และอาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงอื่นได้ คุณควรให้ความสำคัญกับอาการดังต่อไปนี้เป็นพิเศษ- ปัสสาวะเป็นเลือด
- เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะเฉียบพลัน
- ปัสสาวะขัด
- เจ็บปวดบริเวณท้อง
- เจ็บปวดที่หลังด้านล่าง
สาเหตุของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะคืออะไร
ปัจจุบันยังไม่สามารถทราบสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่แท้จริง มะเร็งชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อเซลล์เจริญเติบโตผิดปกติและเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเซลล์เหล่านี้ได้เข้าไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีวิธีการรักษาอย่างไร
แพทย์จะทำงานร่วมกับคุณเพื่อระบุวิธีการรักษาซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทและระยะของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการและสุขภาพโดยรวมทั้งหมดของคุณการรักษาสำหรับมะเร็งระยะ 0 และ ระยะที่ 1
การรักษาสำหรับมะเร็งระยะ 0 และระยะที่ 1 ได้แก่การผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อมะเร็งออกกระเพาะปัสสาวะ การทำเคมีบำบัดหรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ซึงเป็นวิธีการรักษาที่ใช้ยาที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณเข้าไปโจมตีเซลล์มะเร็งการรักษาสำหรับระยะที่ 2 และ 3
การรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะระยะที่ 2 และ 3 ได้แก่- การตัดกระเพาะปัสสาวะบางส่วนออกเพื่อทำเคมีบำบัด
- การตัดกระเพาะปัสสาวะออกทั้งหมดโดยเป็นการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะแบบถอนรากถอนโคน หลังจากนั้นจึงทำการผ่าตัดเพื่อหาทางขับปัสสาวะออกจากร่างกายเส้นทางใหม่
- การทำเคมีบำบัด การฉายเเสงหรือการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ก้อนเนื้องอกมะเร็งมีขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นวิธีการรักษามะเร็งเมื่อไม่ได้เลือกการผ่าตัดเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่หลังจากการผ่าตัด หรือเพื่อป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งขึ้นใหม่อีกครั้ง
การรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะระยะที่ 4
การรักษาโรคมะเร็งระยะที่ 4 ได้แก่- การทำเคมีบำบัด โดยปราศจากการผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการของโรคและยืดอายุ
- การผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะออกทั้งหมดและการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองรอบๆออก หลังจากนั้นจึงผ่าตัดเพื่อสร้างทางขับปัสสาวะใหม่ออกร่างกาย
- การทำเคมีบำบัด การฉายเเสงและการบำบัดภูมิคุ้มกันหลังจากผ่าตัดเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งหรือบรรเทาอาการของโรคเพื่อยืดอายุ
- การใช้ยาที่ผ่านการทดลอง
โภชนาการกับโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
โภชนาการมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สามารถช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง รักษาความแข็งแรงระหว่างการรักษา และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน แนวทางทั่วไปบางประการสำหรับโภชนาการมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีดังนี้- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การให้น้ำที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของกระเพาะปัสสาวะ ให้แน่ใจว่าคุณดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดทั้งวันเพื่อช่วยล้างสารพิษและทำให้กระเพาะปัสสาวะทำงานได้ดี
- รับประทานอาหารที่สมดุล : เน้นการรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งประกอบด้วยผลไม้ ผัก เมล็ดธัญพืช โปรตีนไม่ติดมัน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ อาหารที่สมดุลให้สารอาหารที่จำเป็นและสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถสนับสนุนการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายต่อมะเร็ง
- เพิ่มผักและผลไม้ : มุ่งบริโภคผักและผลไม้ที่มีสีสันหลากหลายชนิด เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและอาจลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
- เลือกธัญพืชเต็มเมล็ด : เลือกรับประทานธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ควินัว ข้าวโอ๊ต และโฮลวีตแทนธัญพืชขัดสี ธัญพืชไม่ขัดสีให้ไฟเบอร์และสารอาหารมากกว่า ซึ่งสามารถส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
- จำกัดการแปรรูปและเนื้อแดง : การบริโภคเนื้อแดงและแปรรูปในปริมาณมากเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งบางชนิด ขอแนะนำให้ลดการบริโภคอาหารเหล่านี้และเลือกแหล่งโปรตีนไร้มัน เช่น ปลา สัตว์ปีก พืชตระกูลถั่ว และเต้าหู้
- ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี : น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสีมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับมะเร็ง ลดอาหารหวาน ของหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลให้น้อยที่สุด
- เลือกไขมันที่ดีต่อสุขภาพ : รวมไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันที่พบในอะโวคาโด ถั่ว เมล็ดพืช และน้ำมันมะกอก ไขมันเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจและสามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้
- การบริโภคแอลกอฮอล์ในระดับปานกลาง : หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ ให้ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- จัดการน้ำหนัก : การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพด้วยโภชนาการที่เหมาะสมและการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำของมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม
- พิจารณาการทำงานร่วมกับนักกำหนดอาหาร : ความต้องการทางโภชนาการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง หากเป็นไปได้ ลองปรึกษากับนักโภชนาการที่ขึ้นทะเบียนแล้วซึ่งเชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยาเพื่อสร้างแผนโภชนาการเฉพาะบุคคลที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณ
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bladder-cancer/symptoms-causes/syc-20356104
- https://www.nhs.uk/conditions/bladder-cancer
- https://www.cancervic.org.au/cancer-information/types-of-cancer/bladder_cancer/bladder-cancer-overview.html
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น