เรอ (Burping) : อาการ สาเหตุ การรักษา

เรอ (Belching) เกิดจากการขับอากาศออกจากกระเพาะอาหารผ่านออกมาทางปาก มักเกิดขึ้นเมื่อกระเพาะอาหารมีการขยายตัวใหญ่ขึ้นจากการกลืนอากาศเข้าไป

เรอ ( Belching ) อาจเรียกอีกอย่างว่า burping หรือ eructation คือการปล่อยอากาศออกเพื่อลดการขยายตัว

สาเหตุที่ทำให้เรอ

การเรอเกิดขึ้นเมื่อกระเพาะอาหารเต็มไปด้วยอากาศที่ถูกกลืนลงไป มีหลายสาเหตุที่อากาศถูกกลืนลงไปได้มากกว่าปกติ สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่

  • การกินหรือการดื่มที่เร็วเกินไป

  • การดื่มน้ำอัดลม

  • ภาวะวิตกกังวล

ทารกและเด็กอาจกลืนอากาศลงไปในกระเพาะอาหารโดยไม่รู้ตัว ทารกมักจะเรอหลังจากที่ดื่มนมเสร็จ เพื่อขับอากาศที่กลืนลงไประหว่างดูดนมให้ออกจากกระเพาะ

มีความเป็นไปได้ที่จะเรอโดยที่กระเพาะอาหารไม่ได้มีอากาศอยู่  เพราะว่าการเรอ กลายเป็นนิสัยหรือเครื่องมือที่ช่วยให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น

การเรอไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกดี ด้วยการระบายอากาศออกจากกระเพาะเท่านั้น ยังพบว่าการเรอทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้นได้ด้วย

การกลืนอากาศ

การกลืนอากาศ (Aerophagia) คือการกลืนอากาศทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ การกลืนอากาศเข้าไปเป็นจำนวนมาก สามารถเกิดขึ้นได้จากการกินที่เร็วหรือการดื่มที่เร็ว และยังสามารถพบได้จาก

อาหารทำให้เรอ

การรับประทานอาหารบางชนิดสามารถทำให้เรอบ่อยได้เช่น กรดคาร์บอเนต แอลกอฮอล์ อาหารที่มีแป้งและน้ำตาล หรืออาหารที่มีใยสังเคราะห์

อาหารที่มักทำให้เรอบ่อย ยกตัวอย่างเช่น

  • ถั่วลิสง

  • ถั่วฝักยาว

  • บล็อคโคลี่

  • ถั่ว

  • หัวหอม

  • กระหล่ำปลี กระหล่ำดอก

  • กล้วย

  • ลูกเกด

  • ขนมปังโฮลวีต

ยารักษาโรค

ยาหลายชนิดสามารถทำให้เกิดการเรอบ่อยได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • ยารักษาเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีชื่อว่า อคาโบส (Acabose)

  • ยาระบายจำพวกแลคตูโลส (Lactulose) และซอบิทอล (Sorbital)

  • ยาบรรเทาอาการปวดเช่น นาโพเซน (Naproxen) ไอบลูโปรเฟน (Ibruprofen) และแอสไพริน (Aspirin)

การใช้ยาบรรเทาอาการปวด เป็นจำนวนมากทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งนำไปสู่อาการเรอบ่อยได้

การเจ็บป่วย

การเจ็บป่วยบางอย่างอาจจะมีการเรอบ่อยเป็นหนึ่งในอาการ เนื่องจากการเรอเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติต่อความรู้สึกไม่สบายในช่องท้อง  จึงต้องมีอาการอื่นๆด้วยเพื่อช่วยในการวินิจฉัย

การเจ็บป่วยที่อาจทำให้เกิดการเรอ ได้แก่ :

  • โรคกรดไหลย้อน คือความผิดปกติที่ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลขึ้นสู่หลอดอาหารจะทำให้เรอบ่อย
  • การทำงานของกระเพราะอาหารลดลง (Gastroparesis) คือความผิดปกติที่กล้ามเนื้อในผนังกระเพาะอาหารที่อ่อนแอลง
  • โรคกระเพาะ (Gastritis) คือโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ปวดท้อง เรอบ่อย
  • แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer) คือแผลที่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และส่วนบนของลำไส้เล็ก
  • การแพ้แลคโตส (Lactose intolerance) คือการที่ลำใส้ไม่สามารถย่อยแลคโตสได้ ซึ่งแลคโตสเป็นส่วนผสมที่พบในผลิตภัณฑ์นม
  • การดูดกลับฟรุกโตสหรือซอร์บิทอลผิดปกติ (Fructose or Sorbitol malabsorption) คือการที่ไม่สามารถย่อยและดูดกลับคาร์โบไฮเดรต ฟรุกโตส และซอร์บิทอลได้
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย (Helicobacter pylori ,H.pylori) คือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะอาหารซึ่งสามารถทำให้เกิดการเรอบ่อยได้

สาเหตุของการเรอที่พบได้น้อย ได้แก่ :

  • โรคซิลิแอค (Celiac) คือการแพ้กลูเตน (Gluten intolerance) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่พบได้ในอาหารที่อุดมด้วยแป้งเช่นขนมปังและแครกเกอร์
  • ดัมปิ่ง ซินโดรม (Dumping syndrome)  คือ​​ความผิดปกติที่ทำให้ท้องว่าง ก่อนที่อาหารจะถูกย่อยอย่างเหมาะสม
  • ภาวะตับอ่อนทำงานไม่เพียงพอ (Pancreatic insufficiency) คือภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อตับอ่อน ไม่สามารถปล่อยเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับการย่อยอาหารออกมาอย่างเพียงพอได้

ภาวะฉุกเฉิน

การเรอเป็นอาการเดี่ยวๆ(ไม่มีอาการอื่นร่วม) มักไม่ก่อให้เกิดความกังวล เว้นแต่จะเกิดขึ้นบ่อยหรือมากเกินไป

หากท้องของคุณมีการขยายตัวเป็นเวลานานและอาการเรอไม่บรรเทาลง หรือหากเกิดอาการปวดท้องรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์ทันที

รักษาอาการเรอบ่อยได้อย่างไร

การเรอตามปกติไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตามหากการเรอมากเกินไปควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อค้นหาสาเหตุที่เป็นไปได้ที่อาจก่อให้เกิดอาการ

การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ

การรักษาด้วยตนเอง

หากคุณเรอมากเกินไปหรือท้องขยาย และไม่สามารถขับอากาศออกจากในกระเพาะได้ การนอนตะแคงจะช่วยได้ การใช้ท่านั่งกอดหัวเข่าชิดหน้าอกจะช่วยได้เช่นกัน ทำค้างไว้จนกว่าอากาศจะออกไปหมด

หากคุณมีอาการเรอบ่อยๆ คุณควรหลีกเลี่ยง:

  • กินและดื่มอย่างรวดเร็ว

  • การดื่มน้ำอัดลม

  • การเคี้ยวหมากฝรั่ง

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ปัญหาแย่ลง

การรักษาทางการแพทย์

หากคุณมีอาการเรอมากเกินไปควรปรึกษาแพทย์ แพทย์จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการของคุณ โดยถามคำถามเกี่ยวกับช่วงเวลาที่มีการเรอและอาการเรอเคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่

นอกจากนี้ยังจะถามเกี่ยวกับลักษณะหรือรูปแบบของการเรอ เช่นการเรอเกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลใจ หรือหลังจากบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มชนิดใดชนิดหนึ่งหรือไม่ แพทย์อาจขอให้คุณเก็บรายการอาหารที่คุณเข้าไปในช่วง 2-3 วัน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้กล่าวถึงอาการอื่นๆ แม้ว่าคุณจะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องก็ตาม วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์มองภาพรวมของปัญหาได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้แพทย์รักษาได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น

Belching

แพทย์อาจตรวจร่างกายและสั่งการทดสอบเพิ่มเติม เช่นการเอกซเรย์ช่องท้อง (Abdominal X-rays) หรือการศึกษาการล้างกระเพาะอาหาร (Gastric emptying studies) การทดสอบอื่นๆ ได้แก่ :

  • เอกเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
  • เอกเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
  • การสแกนอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound scans)
  • การทดสอบการย่อยอาหาร (Maldigestion)
  • การทดสอบไฮโดรเจนและมีเทน (Hydrogen and methane tests)
สิ่งเหล่านี้จะทำให้แพทย์ทราบถึงปัญหาที่ชัดเจนเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารของคุณ ซึ่งจะช่วยในการวินิจฉัย

จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา

การเรอแบบธรรมดาไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาใดๆและไม่มีภาวะแทรกซ้อน

อย่างไรก็ตามหากมีอาการเรอบ่อยขึ้นเนื่องจากโรคในระบบย่อยอาหาร เป็นไปได้ว่าอาการจะแย่ลงหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา คุณอาจเริ่มมีอาการอื่นๆเพิ่มขึ้นมาจนกว่าโรคจะได้รับการวินิจฉัยและรักษา

สามารถป้องกันการเรอได้อย่างไร

การเรอเป็นเรื่องธรรมชาติ คุณสามารถควบคุมได้โดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้คุณเรอ สิ่งที่ควรปฏิบัติหากต้องการหลีกเลี่ยงการเรอ

  • นั่งทานอาหารแต่ละมื้อช้าๆ

  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งหรือดูดลูกอมที่แข็ง

  • หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์

  • หยุดบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เรอบ่อยขึ้น

  • ทานอาหารเสริมโปรไบโอติก (Probiotic supplements) เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร

  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ที่กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวล ซึ่งอาจทำให้เกิดการหายใจเร็วเกินไป

การเรอแบบไหนที่ควรเป็นกังวล

การเรอหรือที่เรียกว่าการเรอเป็นกระบวนการทางสรีรวิทยาปกติที่ช่วยปล่อยก๊าซส่วนเกินออกจากกระเพาะอาหารผ่านทางปาก ในกรณีส่วนใหญ่ การเรอไม่เป็นอันตรายและไม่ใช่สัญญาณของอันตราย เป็นวิธีธรรมชาติที่ร่างกายจะขับอากาศที่ถูกกลืนเข้าไประหว่างรับประทานอาหาร ดื่ม หรือพูดคุย อย่างไรก็ตาม มีบางสถานการณ์ที่การเรออาจเป็นสัญญาณของปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแล:
  • การเรอมากเกินไป:การเรอบ่อยครั้งและมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการอื่นๆ เช่น แสบร้อนกลางอก ท้องอืด หรือปวดท้อง อาจบ่งบอกถึงโรคกรดไหลย้อน  หรือความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารอื่นๆ การเรอเรื้อรังอาจรับประกันการประเมินโดยผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
  • อาการเจ็บหน้าอก:โดยทั่วไปการเรอเพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นสาเหตุที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม หากการเรอเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการปวดลามไปที่กราม แขน หรือหลัง อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจวายหรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ ไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการเจ็บหน้าอก
  • เรอมีกลิ่นเหม็น:หากเรอมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับการเลือกรับประทานอาหารหรือปัญหาทางเดินอาหาร การเรอที่มีกลิ่นเหม็นอย่างต่อเนื่องอาจต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้ให้บริการด้านการแพทย์เพื่อแยกแยะปัญหาทางเดินอาหารที่ซ่อนอยู่
  • อาการเรื้อรัง:หากการเรอเกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ กลืนลำบาก พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป หรือการอาเจียนหรืออุจจาระเป็นเลือด จำเป็นต้องปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อรับการประเมินอย่างละเอียด
  • เรอในเด็กเล็ก:ในเด็กเล็ก การเรอมากเกินไปหรือออกแรง โดยเฉพาะหลังการให้นมทุกครั้ง อาจเป็นสัญญาณของโรคกรดไหลย้อน  ปรึกษากุมารแพทย์หากคุณกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรอของทารก
ในกรณีส่วนใหญ่ การเรอเป็นครั้งคราวเป็นการทำงานของร่างกายตามปกติและไม่มีอะไรต้องกังวล มักจัดการได้โดยการปรับเปลี่ยนอาหารและวิถีชีวิต เช่น รับประทานอาหารให้ช้าลง หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอัดลม และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมากเกินไป อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการเรอหรือมีอาการผิดปกติหรือต่อเนื่องมาด้วย ขอแนะนำให้ไปขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อขจัดอาการป่วยที่ซ่อนอยู่

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/digestive-disorders/burping-reasons

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/gas-and-gas-pains/in-depth/gas-and-gas-pains/art-20044739

  • https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/7314-gas

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/325121


เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด