ยาอะทอร์วาสแตติน (Atorvastatin) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

ยา

21.11.2567

Atorvastatin คืออะไร

ยาอะทอร์วาสแตติน (Atorvastatin) คือ ยาในกลุ่มสแตติน (Statins หรือ HMG CoA Reductase Inhibitors) คุณสมบัติคือลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี หรือ LDL และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด พร้อมเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ให้ร่างกายได้ด้วย ทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อหัวใจในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ ยาลดไขมัน Atorvastatin คือยาลดไขมันในเลือดกลุ่มสแตติน (Statins) ที่มีจำหน่ายอยู่ได้แก่ Simvastatin, Pravastatin, Fluvastatin, Atorvastatin, Rosuvastatin, Pitavastatin ยาเหล่านี้ใช้ในการลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจ และสมองขาดเลือดในผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือดในสมองมาก่อน หรือผู้ที่ปัญหาระดับแอลดีแอล – คอเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) ในเลือดสูงผิดปกติ แต่ยานี้มีอาจมีผลกระทบต่อกล้ามเนื้อจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสำคัญ

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาอะทอร์วาสแตตินลดไขมัน

ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด

ผู้ที่ยังไม่มีอาการของโรคหัวใจแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เช่นอายุมาก มีปัญหาความดันโลหิต เบาหวาน ระดับ HDL Cholesterol ในเลือดต่า ควรใช้ยา Atorvastatin เพื่อ

ลดความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ที่มีอาการแทรกซ้อนทางตา หรือตรวจพบโปรตีนตกค้างในปัสสาวะ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจ และโรคทางหลอดเลือด ควรใช้ยา Atorvastatin 20 mg เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
ลดความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และมีภาวะหัวใจขาดเลือด ควรใช้ยานี้เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคซ้ำ

Atorvastatin

วิธีการใช้ยาอะทอร์วาสแตติน

ยาอะทอร์วาสแตติน Atorvastatin คือ ยาที่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น และใช้เพื่อรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง หรือมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเท่านั้น ควรรับประทานก่อน หรือหลังอาหาร แต่ไม่ควรรับประทานพร้อม ๆ กับน้ำผลไม้จากผลเกรฟฟรุตในปริมาณมาก ๆ เพราะจะส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงที่อันตรายได้ ควรรับประทานยาให้เป็นเวลาทุกวัน ควรเก็บยาให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และไม่ถูกแสงแดด หากเกิดผลกระทบจากการใช้ยาอย่างอาการชักที่ควบคุมไม่ได้ ระดับเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล ความดันโลหิตลดต่ำลงอย่างรุนแรง มีภาวะติดเชื้อ หรือเจ็บป่วยอย่างรุนแรง ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน ควรหยุดใช้ยาไปสักระยะหนึ่งจนกว่าอาการต่าง ๆ จะทุเลาขึ้น การใช้ยานี้ควรใช้ไปพร้อม ๆ กับการปรับเปลี่ยนอาหารโดยเน้นโภชนาการที่ดี ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนัก ยา Atorvastatin จึงจะสามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การไม่ปรับเปลี่ยนอาหารให้มีคุณค่าทางโภชนาการอาจทำให้ยาไม่มีผลทางการรักษาที่ดีเท่าที่ควร และผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อผลการควบคุมระดับไขมันในเลือดในระหว่างการรักษา หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่รู้ตัว แต่หากนึกขึ้นได้ในระยะเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมงก่อนมื้อยาครั้งต่อไป ไม่ควรรับประทานยามื้อที่ขาดไปอีก และไม่ควรเพิ่มยาเป็น 2 เท่า เพราะอาจเป็นยา Over Dose ได้ กรณีสำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร หรือผู้ที่มีโรคตับ ห้ามรับประทานยา Atrovastatin โดยเด็ดขาด เพราะอาจมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อทารกในครรภ์ หรือทำให้อาการของโรคตับรุนแรงมากขึ้น หากมีการใช้ยาก่อนตั้งครรภ์ ควรหยุดยา และปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันผลกระทบจากการหยุดยาด้วย

ยาอะทอร์วาสแตตินมีผลข้างเคียงอย่างไร

หากมีอาการหลังใช้ยา ดังต่อไปนี้ให้หยุดยา และรีบไปพบแพทย์

มีอาการปวดที่กล้ามเนื้อ เมื่ออกแรงกดแล้วรู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อไม่มีแรง
ไข้ขึ้น อ่อนเพลีย ปัสสาวะมีสีเข้ม
ตัวบวม น้ำหนักขึ้น ปัสสาวะไม่ค่อยออก
เบื่ออาหาร เจ็บแน่นท้องส่วนบน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีซีด มีอาการของดีซ่าน

เพื่อความปลอดภัยก่อนการใช้ยา ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับ

ประวัติการallergy-0094/”>แพ้ยาอะไรบ้าง
ประวัติทางสุขภาพ อาทิโรคที่กำลังรักษา หรือโรคที่เคยรักษามาก่อน โดยเฉพาะโรคตับ โรคไต และการดื่มสุรา
ก่อนไปทำฟัน หรือเข้ารับการผ่าตัด ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบว่ารับประทานยาอะไรอยู่
ควบคุมการดื่มสุรา เพราะจะทำให้เกิดปัญหาพิษต่อตับเพิ่มขึ้น

ใครที่ไม่ควรใช้ยาอะทอร์วาสแตติน

Atorvastatin เป็นยากลุ่มสแตตินที่มักสั่งจ่ายเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว อะทอร์วาสแตตินจะทนต่อยาได้ดีและมีประสิทธิผลสำหรับคนจำนวนมาก แต่ก็มีสถานการณ์และเงื่อนไขทางการแพทย์บางประการที่การใช้ยานี้อาจมีข้อห้ามหรือต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ข้อควรพิจารณาบางประการสำหรับบุคคลที่อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหรือใช้ atorvastatin ด้วยความระมัดระวัง:

ปฏิกิริยาการแพ้:

- - บุคคลที่ทราบว่ามีอาการแพ้หรือแพ้ยา atorvastatin หรือส่วนประกอบใดๆ ของยาไม่ควรใช้ยานี้

โรคตับ:

- - Atorvastatin ถูกเผาผลาญโดยตับ และห้ามใช้ยานี้ในบุคคลที่เป็นโรคตับหรือมีภาวะเอนไซม์ตับสูงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทราบสาเหตุในการทดสอบการทำงานของตับ

การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:

- - อะทอร์วาสแตตินอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ในระหว่างตั้งครรภ์ และโดยทั่วไปแล้วการใช้ยานี้จะมีข้อห้ามในสตรีมีครรภ์ สตรีวัยเจริญพันธุ์ควรใช้การคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิผลในระหว่างการรักษาด้วยอะทอร์วาสแตติน ไม่แนะนำให้ใช้ Atorvastatin ในระหว่างให้นมบุตร

โรคไตอย่างรุนแรง:

- - บุคคลที่เป็นโรคไตขั้นรุนแรง รวมถึงผู้ที่จำเป็นต้องฟอกไต อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรือติดตามอย่างระมัดระวังเมื่อใช้อะทอร์วาสแตติน

ประวัติความผิดปกติของกล้ามเนื้อ:

- - ยากลุ่มสแตติน ซึ่งรวมถึงอะทอร์วาสแตติน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ รวมถึงภาวะที่หายากแต่ร้ายแรงที่เรียกว่า rhabdomyolysis บุคคลที่มีประวัติความผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือเคยมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเกี่ยวกับยากลุ่มสแตตินอาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดหรือใช้ยาอื่น

ปวดกล้ามเนื้อหรืออ่อนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ:

- - บุคคลที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการกดเจ็บ หรืออ่อนแรงควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ยากลุ่มสแตติน

การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด:

- - การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาตับและโรคกล้ามเนื้อ (ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ) ที่เกี่ยวข้องกับอะทอร์วาสแตติน บุคคลที่มีประวัติการใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดอาจต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง

การโต้ตอบกับยาบางชนิด:

- - อะทอร์วาสแตตินสามารถโต้ตอบกับยาได้หลายชนิด รวมถึงยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาต้านเชื้อรา และยาบางชนิดที่ใช้ในการรักษาเอชไอวี การแจ้งผู้ให้บริการด้านการแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่กำลังรับประทานถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้น

ผู้สูงอายุ:

- - ผู้สูงอายุอาจมีความไวต่อผลข้างเคียงมากกว่า และอาจจำเป็นต้องมีการปรับขนาดยาหรือการติดตามอย่างระมัดระวังในประชากรกลุ่มนี้

ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์:

- บุคคลที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำที่ไม่ได้รับการรักษา (ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป) อาจพบระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น และควรแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ก่อนที่จะพิจารณาการรักษาด้วยอะทอร์วาสแตติน

จำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละบุคคลจะต้องปรึกษาหารือกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างละเอียดก่อนที่จะเริ่มใช้ยา atorvastatin หรือยากลุ่ม statin อื่นๆ การตัดสินใจสั่งยาอะทอร์วาสแตตินควรขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของแต่ละบุคคล สถานะสุขภาพในปัจจุบัน และประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของยา การติดตามการทำงานของตับและอาการที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อเป็นประจำอาจเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยอะทอร์วาสแตตินอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอเมื่อใช้อะทอร์วาสแตตินหรือยาอื่นๆ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา