Apple Cider คืออะไร

แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ Apple cider vinegar คือ ยาสามัญประจำบ้านยอดนิยม คนเราใช้กันมานานมากในการปรุงอาหาร และใช้ในการรักษาต่างๆ ปกติแล้ว vinegar คือ น้ำส้มสายชูโดยทั่วไป แต่สำหรับแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นกลับไม่เหมือนกับน้ำส้มสายชูเหล่านั้น หลายคนเชื่อว่า น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถบรรเทารักษาโรคต่างๆ ได้ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการต้านเชื้อโรค และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นมีบางงานวิจัยที่พบว่า สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และโรคเบาหวานได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติม

ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ Apple cider คือ

1. น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง

น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ผลิตด้วย 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 สำหรับวิธีทำนำแอปเปิ้ลไซเดอร์ คือ การบดแอปเปิ้ลกับยีสต์เข้าด้วยกันซึ่งจะหมักน้ำตาล และเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นแบคทีเรียจะเพิ่มขึ้น และหมักแอลกอฮอล์ต่อไปจะได้กรดอะซิติกซึ่งเป็นสารประกอบหลักในน้ำส้มสายชู กรดอะซิติกช่วยให้น้ำส้มสายชูมีกลิ่น และรสเปรี้ยวเข้มข้น ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า กรดนี้มีผลต่อประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยแอปเปิ้ลไซเดอร์จะมีกรดอะซิติกอยู่ 5–6% น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ออร์แกนิกที่ไม่ผ่านการกรองจะมีสารแม่ซึ่งประกอบด้วยโปรตีน เอนไซม์ และแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งทำให้ประโยชน์ของมันเพิ่มยิ่งขึ้น

2. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลสามารถยับยั้งแบคทีเรีย

น้ำส้มสายชูสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งแบคทีเรีย ผู้คนมักใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ ใช้ในการกำจัดเชื้อราที่เล็บ หูด และการติดเชื้อในช่องหู เคยมีการใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดบาดแผลเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน อีกทั้งน้ำส้มสายชูยังเป็นสารกันบูดในอาหาร และจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า มันสามารถยับยั้งแบคทีเรียเช่น E. coli จากการเจริญเติบโต และการทำให้อาหารเน่าเสีย น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยถนอมอาหารแบบธรรมชาติได้อีกด้วย

3. ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ และควบคุมเบาหวาน

น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ คือ น้ำส้มสายชูที่น่าเชื่อถือที่สุดคือช่วยรักษาโรคเบาหวานประเภท 2 โรคเบาหวานประเภท 2 ผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง โดยเกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน หรือไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่เป็นโรคเบาหวานก็ได้รับประโยชน์จากการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยเช่นกัน เนื่องจากนักวิจัยบางท่านเชื่อว่า ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นสาเหตุสำคัญของการแก่ชรา และโรคเรื้อรังต่างๆ วิธีที่มีประสิทธิภาพ และดีต่อสุขภาพที่สุดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คือ การหลีกเลี่ยงการรับประทานคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลที่ผ่านการกลั่นมาแล้ว แต่การบริโภคน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจช่วยได้เช่นกัน นี่คือประโยชน์ต่อระดับน้ำตาลในเลือด และอินซูลิน
  • งานวิจัยเล็กๆ พบว่า น้ำส้มสายชูอาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินได้ 19–34% ในระหว่างมื้ออาหารที่มีการรับประทานคาร์โบไฮเดรตสูง และลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มการตอบสนองของอินซูลิน
  • การศึกษาบุคคลที่มีสุขภาพดี 5 ราย พบว่า น้ำส้มสายชูช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ 31.4% หลังจากรับประทานขนมปังขาว 50 กรัม
  • การศึกษาขนาดเล็กในผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่า การบริโภคน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอนช่วยลดน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารได้ 4% ในเช้าวันรุ่งขึ้น
  • การศึกษาอื่น ๆ อีกมากมายชี้ให้เห็นว่า น้ำส้มสายชูสามารถปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน และลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารได้

4. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอาจจะช่วยลดน้ำหนักได้

มีหลายการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า น้ำส้มสายชูสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ มีงานวิจัยที่พบว่าน้ำส้มสายชูทำให้รู้สึกอิ่มไวขึ้นได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นผลดีในระหว่างที่คุณทำการลดน้ำหนัก มีการศึกษาในผู้ป่วยโรคอ้วน 175 ราย พบว่า การบริโภคน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกวันช่วยลดไขมันหน้าท้อง และลดน้ำหนักได้
  • รับประทาน 1 ช้อนโต๊ะ (12 มล.) ช่วยลดน้ำหนัก 1.2 กก.
  • รับประทาน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.) ช่วยลดน้ำหนัก 1.7 กก.
นี่เป็นการศึกษาดำเนินการ 3 เดือน ดังนั้นจึงยังไม่ชัดเจนว่า ปัจจัยใดที่มีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างชัดเจนว่าการเพิ่ม หรือลดอาหาร หรือส่วนผสมเพียงอย่างเดียวมีผลต่อการลดน้ำหนัก โดยการลดน้ำหนักในระยะยาวเรื่องอาหาร และพฤติกรรมเป็นเรื่องสำคัญ สรุปได้ว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก โดยส่งเสริมความอิ่ม การลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดระดับอินซูลิน อีกทั้งน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีแคลอรี่ประมาณ 3 แคลอรี่ต่อช้อนโต๊ะเท่านั้นApple Cider

5. แอปเปิ้ลไซเดอร์เสริมสุขภาพหัวใจ

โรคหัวใจเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ พบว่า น้ำส้มายชูมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคหัวใจ มีงานวิจัยที่พบว่า น้ำส้มสายชูสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการทดสอบในสัตว์ทดลอง โดยการศึกษาในสัตว์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด รวมถึงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ และมีอีกงานวิจัยในหนูทดลองพบว่า น้ำส้มสายชูช่วยลดความดันโลหิตซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจและไต อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดในการส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ สิ่งนี้ยังต้องได้รับการวิจัยเพิ่มเติม

6. น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยฟื้นฟูผิว

น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ใช้ในการรักษาผิวที่แห้ง หรือกลากเกลื้อน ผิวนั้นมีความเป็นกรดเล็กน้อยตามธรรมชาติ การใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์เฉพาะที่สามารถช่วยปรับสมดุล pH ตามธรรมชาติของผิว และปรับปรุงการป้องกันผิวได้ ในทางกลับกันสบู่ และน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นด่างจะทำให้ผู้ที่เป็นกลากอาการแย่ลง ด้วยคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียของน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนัง ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากกลาก หรือสาเหตุอื่นๆ

น้ำส้มแอปเปิ้ลมีวิธีใช้อย่างไร

การบริโภคน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ดีที่สุดคือ เติมลงในอาหารขในการปรุงอาหาร อาจจะเป็นน้ำสลัด หรือมายองเนสที่ทำเอง หรืออาจจะเจือจางในเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 1-2 ช้อนชา (5–10 มล.) มากไปถึง 1-2 ช้อนโต๊ะ (15–30 มล.) ต่อวัน  ควรค่อยๆ เริ่มรับประทานในปริมาณน้อย และไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการสึกกร่อนของฟัน และผลข้างเคียงอื่นๆ

สรุปประโยชน์แอปเปิ้ลไซเดอร์

มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และหลายๆ เว็บไซต์เพื่อสุขภาพกล่าวว่า น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือการรักษาโรค แต่ยังไม่ค่อยมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือนักมายืนยันประโยชน์เหล่านี้ แต่การศึกษาจำนวนมากก็พบว่า มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย การลดระดับน้ำตาลในเลือด และส่งเสริมการลดน้ำหนัก น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นปลอดภัยหากเราไม่รับประทานมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้งานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลไซเดอร์หมักผม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นต้น

ใครที่ไม่ควรทานแอปเปิ้ลไซเดอร์

โดยทั่วไปแล้วแอปเปิ้ลไซเดอร์ ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่อาจต้องใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงแอปเปิ้ลไซเดอร์ ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:
  • ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน:
      • น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีความเป็นกรดและอาจทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้นในบางคน มันอาจทำให้อาการเสียดท้องแย่ลงได้
  • ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ:
      • ACV อาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่รับประทานยาเพื่อลดน้ำตาลในเลือดควรติดตามระดับของตนเองอย่างใกล้ชิดและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ ACV
  • ฟันกร่อน:
      • การบริโภคน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลที่ไม่เจือปนอาจทำให้เคลือบฟันกัดกร่อนได้เนื่องจากความเป็นกรด แนะนำให้เจือจางและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฟันโดยตรง พิจารณาใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัส
  • ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด:
      • แอปเปิ้ลไซเดอร์อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย และยาสำหรับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพหากคุณใช้ยาและกำลังพิจารณาการบริโภคแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นประจำ
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร:
      • แม้ว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ปริมาณเล็กน้อยในการทำอาหารโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร แต่ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้เป็นอาหารเสริม
  • ปฏิกิริยาการแพ้:
      • บุคคลที่แพ้แอปเปิ้ลหรือยีสต์ควรระมัดระวังเมื่อทานแอปเปิ้ลไซเดอร์และติดตามอาการแพ้
  • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร:
    • บุคคลที่มีประวัติปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหารหรือโรคลำไส้อักเสบ ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์
  •  
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือแม้บางคนอาจได้รับประโยชน์จากการบริโภคน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างด้านสุขภาพที่แพร่หลายนั้นมีจำกัด หากคุณมีข้อกังวลหรือสภาวะด้านสุขภาพโดยเฉพาะ ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการรับประทานอาหารหรือวิถีชีวิตของคุณ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/diet/apple-cider-vinegar-and-your-health
  • https://www.medicinenet.com/20_benefits_of_drinking_apple_cider_vinegar/article.htm
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด