มะเร็งทวารหนัก (Anal Cancer) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
มะเร็งทวารหนัก

อะไรคือมะเร็งทวารหนัก?

มะเร็งทวารหนัก (Anal Cancer) เมื่อเซลล์มะเร็งก่อตัวเป็นเนื้องอกบริเวณทวารหนัก จะก่อให้เกิดมะเร็งทวารหนัก ทวารหนัก คือ ช่องเปิดที่ด้านล่างของลำไส้เพื่อนำอุจจาระออกจากร่างกาย มะเร็งทวารหนักพบได้น้อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย หากมีปัจจัยเสี่ยงตามด้านล่างนี้ ควรปรึกษาแพทย์ Anal Cancer

ประเภทของมะเร็งทวารหนัก

มะเร็งทวารหนักมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทถูกกำหนดโดยชนิดของเนื้องอกที่พัฒนา เนื้องอกคือ การเจริญเติบโตที่ผิดปกติในร่างกาย โดยอาจจะเป็นอันตรายหรือไม่ก็ได้ เนื้องอกมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเมื่อเวลาผ่านไป หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การแบ่งประเภทของมะเร็งทวารหนักสามารถยึดตามตำแหน่งการเกิดโรคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งได้แก่ มะเร็งชนิดอยู่เฉพาะที่ มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma มะเร็งชนิดต่อม มะเร็งชนิด Basal cell carcinoma มะเร็งชนิด Malignant melanoma เป็นต้น
  1.   มะเร็งชนิดอยู่เฉพาะที่ : เซลล์ผิวชั้นนอกทวารหนักมีความผิดปกติมาก คล้ายคลึงกับเซลล์มะเร็ง
  2.   มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma : เนื้องอกที่เกิดจากเซลล์ชนิด Squamous ที่ปากทวารหนักและส่วนใหญ่ในรูทวารหนัก
  3.   มะเร็งชนิดต่อม : เกิดจากต่อมใต้เยื่อเมือกทวารหนักที่ขับสารคัดหลั่งของรูทวาร และอาจเกิดขึ้นจากต่อม apocrine ( เป็นต่อมผิวหนังรอบทวารหนัก )
  4.   มะเร็งชนิด Basal cell carcinoma : เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังรอบทวารหนักหรือบริเวณผิวหนังที่มักจะถูกแดดส่อง เช่น ใบหน้าและมือ แต่จะมีจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นที่ทวารหนัก
  5.   มะเร็งชนิด Malignant melanoma : เป็นเนื้องอกที่เติบโตขึ้นมาจากเม็ดสีเมลานินภายในผิวหนังของทวารหนัก จะมีมะเร็งทวารหนักประมาณ 1% – 2% เท่านั้นที่เป็น Malignant melanoma

สาเหตุของมะเร็งทวารหนัก

มะเร็งทวารหนักเกิดจากการพัฒนาของเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย เซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้จะเจริญเติบโตแบบที่ควบคุมไม่ได้ และกลายเป็นเนื้องอกมะเร็ง จากนั้นมะเร็งจะกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย และขัดขวางการทำงานโดยปกติ มะเร็งทวารหนักส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจาก human papillomavirus (HPV) ซึ่งเป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ มะเร็งทวารหนักอาจเกิดจากมะเร็งอื่น ๆ ในร่างกายที่แพร่กระจายไปยังช่องทวารหนัก 

อาการของมะเร็งทวารหนัก

อาการของมะเร็งทวารหนักนั้นคล้ายคลึงกับโรคริดสีดวงทวาร โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และโรคระบบทางเดินอาหารหลายชนิด ตัวอย่างเช่น
  • ลำไส้แปรปรวน
  • อุจจาระกะปริบกะปรอย
  • มีเลือดออกทางทวารหนัก
  • เจ็บปวดหรือมีก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก
  • มีน้ำไหลออกจากทวารหนักหรือมีอาการคัน
หากสงสัยว่าเป็นมะเร็งทวารหนัก ให้ไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยโดยเร่งด่วน

ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งทวารหนัก

ประกอบไปด้วย

การติดเชื้อ HPV 

HPV คือ กลุ่มไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดย HPV นั้นพบในมะเร็งทวารหนักด้วยเช่นกัน อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกได้

การติดเชื้อ HIV

เชื้อ HIV ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งทวารหนัก เพราะระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายลงไปแล้ว

กิจกรรมทางเพศ

การมีคู่นอนหลายๆ คน การมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางทวารหนัก การไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์นั้นทำให้มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสกับเชื้อ HPV และนำไปสู่มะเร็งทวารหนักในที่สุด

การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่เป็นการกระตุ้นเซลล์มะเร็งดังนั้นควรเลิกสูบบุหรี่

ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งทวารหนัก โดยพบมากที่สุดในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ

อายุเพิ่มขึ้น

ส่วนมากพบผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

การรักษามะเร็งทวารหนัก

มีปัจจัยหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อการรักษา ถ้ามะเร็งไม่ลุกลามผ่านผนังทวารหนัก และไม่แพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง แบบนี้เป็นมะเร็งระยะเริ่มแรกระยะ 1 (หรือ stage 1) มะเร็งที่ลุกลามผนังทวารหนักแต่ยังไม่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งระยะ 2 ถ้ามีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองด้วยเรียกว่า ระยะที่ 3 มะเร็งที่แพร่กระจายไปที่อื่นๆ เรียกว่า ระยะ 4 การผ่าตัดเอามะเร็งออกเป็นวิธีการรักษามะเร็งทวารหนักทุกระยะ แต่การผ่าตัดมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งอยู่ตรงไหน อยู่สูงหรือต่ำใกล้ชิดกล้ามเนื้อหูรูดหรือไม่อย่างไร สำหรับมะเร็งที่ลุกลามผนังหรือผ่านผนังทวารหนักการผ่าตัดต้องตัดก้อนมะเร็งออกพร้อมกับเนื้อเยื่อที่ไม่เป็นมะเร็งโดยรอบ ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ได้รับการตัดออกด้วย เมื่อตัดอย่างว่าแล้วบางกรณีศัลยแพทย์สามารถเย็บต่อลำไส้ใหญ่เข้ากับทวารหนักส่วนปลายที่ปราศจากมะเร็ง ถ้าทำอย่างนั้นได้เมื่อแผลหายแล้วคนไข้จะยังสามารถถ่ายอุจจาระทางก้นได้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นไม่ได้ เช่น ทำยาก มีความเสี่ยงที่การต่อลำไส้จะไม่ติดคือรั่ว ศัลยแพทย์ก็จะทำการผ่าตัดเอารูทวารออกด้วยพร้อมทั้งทำการสร้างรูทวารใหม่ให้เปิดออกที่หน้าท้อง (colostomy) นอกจากการผ่าตัดแล้ว ในกรณีมะเร็งทวารหนักเป็นมากลุกลามมากแพทย์ผ่าตัดไม่ได้ แพทย์จะให้เคมีบำบัดและการฉายแสงร่วมด้วย ถ้ามะเร็งไม่ได้แพร่กระจายไปยังที่ห่างไกลจากต้นตอ การให้เคมีบำบัดและการฉายแสงจะเป็นการรักษาให้ก้อนมะเร็งลดขนาดลงก่อนทำการผ่าตัดเอามันออก โดยทั่วไปแนะนำการให้เคมีบำบัดและฉายแสงก่อนการผ่าตัด ในรายที่เป็นมะเร็งทวารหนักระยะ 2 และ 3 และหลังจากผ่าตัดแล้วยังให้เคมีบำบัดเพิ่มเติมด้วย

ภาวะแทรกซ้อนจากมะเร็งทวารหนัก

ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งทวารหนักสามารถเกิดขึ้นได้จากตัวมะเร็ง การรักษา หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้:
  • การแพร่กระจายของโรค : หากตรวจไม่พบหรือรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ มะเร็งทวารหนักสามารถแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง นำไปสู่ระยะของโรคที่รุนแรงขึ้น
  • การอุดตัน : เนื้องอกอาจมีขนาดใหญ่พอที่จะขัดขวางคลองทวารหนัก ส่งผลให้ถ่ายอุจจาระลำบาก สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด ไม่สบายตัว และท้องผูก
  • เลือดออก : มะเร็งทวารหนักอาจทำให้มีเลือดออกทางทวารหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง (จำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำ) เมื่อเวลาผ่านไป เลือดออกรุนแรงอาจต้องได้รับการแทรกแซงทางการแพทย์
  • การติดเชื้อ : เนื้องอกและแผลที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งทวารหนักสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการติดเชื้อได้ การติดเชื้อที่รุนแรงอาจต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือการผ่าตัดระบายน้ำทิ้ง
  • ฝีคัณฑสูตร : ฝีคัณฑสูตร คือความผิดปกติซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างคลองทวารกับโครงสร้างอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด มีของเหลวไหลออก และติดเชื้อได้
  • การบีบรัด : แผลเป็นจากมะเร็งและการรักษาอาจทำให้คลองทวารหนักตีบตัน ส่งผลให้ลำไส้เคลื่อนไหวลำบาก
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม : ต่อมน้ำเหลืองอาจได้รับผลกระทบจากมะเร็งหรือถูกตัดออกในระหว่างการรักษา ทำให้เกิดการสะสมและบวมของน้ำเหลือง (lymphedema)
  • ผลข้างเคียงของการรักษา :
    • การบำบัดด้วยรังสี : การฉายรังสีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ท้องร่วง เหนื่อยล้า และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับถ่ายในระยะยาว
    • เคมีบำบัด : ยาเคมีบำบัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้หลายอย่าง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • ศัลยกรรม : ขั้นตอนการผ่าตัดอาจทำให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนในการสมานแผล และการเปลี่ยนแปลงการทำงานของลำไส้และทางเดินปัสสาวะ
    • การรักษาแบบผสมผสาน : การฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัดร่วมกันสามารถเพิ่มความรุนแรงของผลข้างเคียงได้
  • ผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์ : การวินิจฉัยโรคมะเร็งอาจทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ วิตกกังวล และซึมเศร้า การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและความท้าทายอาจเป็นเรื่องท้าทายทางจิตใจเช่นกัน
  • การกลับเป็นซ้ำ : แม้ว่าการรักษาจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่มะเร็งจะกลับมาอีก การนัดหมายติดตามผลเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามการเกิดซ้ำ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือความก้าวหน้าในการดูแลรักษาทางการแพทย์ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น และลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เหล่านี้ได้ แผนการรักษาได้รับการปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคลเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งและการรักษา หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งทวารหนัก การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำเฉพาะที่เหมาะกับสถานการณ์ได้

นี่คือที่มาในแหล่งบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/anal-cancer/symptoms-causes/syc-20354140
  • https://www.nhs.uk/conditions/anal-cancer/
  • https://www.webmd.com/cancer/what-is-anal-cancer
  • https://www.cancer.org/cancer/anal-cancer/about/what-is-anal-cancer.html

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด