Amoxicillin 500 mg คือยาอะไร
อะม็อกซี่ซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะ ใช้เพื่อรักษาอาการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียบางชนิด ยาอะม็อกซี่ซิลลินสำหรับช่องปาก มีทั้งแบบปลดปล่อยตัวยาออกมาทันที (IR), การปลดปล่อยตัวยาแบบช้า ๆ (ER) หรือยาที่ต้องเคี้ยวเวลารับประทาน ยาแบบเคี้ยว และยาแบบ IR นั้นมีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่ในกรณียาแบบ ER จะพบในรูปแบบยาเฉพาะ Moxatag เท่านั้น ยาอะม็อกซี่ซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาจใช้ร่วมกับแนวทางการรักษาอื่น ๆ แบบผสมผสาน เป็นการรักษาโดยใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น ๆ ยาอะม็อกซี่ซิลลินมีทั้งแบบปลดปล่อยตัวยาทันที (IR) แบบปลอดปล่อยตัวยาช้า ๆ (ER) และที่ต้องเคี้ยวเมื่อรับประทาน ยาอะม็อกซี่ซิลลินแบบเคี้ยวและแบบ IR มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่ยาอะม็อกซี่ซิลลินแบบ ER มีรูปแบบยาเฉพาะ Moxatag เท่านั้น ยาอะม็อกซี่ซิลลินที่จำหน่ายแบบทั่วไปมักมีราคาไม่แพง แต่กรณีที่มีเครื่องหมายการค้าและมีการระบุสรรพคุณชัดเจนอาจมีราคาสูงกว่า ยาอะม็อกซี่ซิลลินยังอยู่ในรูปแคปซูล และยาน้ำแขวนตะกอนได้ ทุกรูปแบบใช้วิธีการรับประทาน ยาอะม็อกซี่ซิลลินยังมีในรูปแบบแคปซูล และยาน้ำแขวนตะกอน ซึ่งทุกรูปแบบจะใช้วิธีการรับประทานเท่านั้นผลข้างเคียงของยา Amoxicillin 500 mg
ยาอะม็อกซี่ซิลลินไม่ทำให้รู้สึกง่วงนอน แต่อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยาอะม็อกซี่ซิลลิน ได้แก่: หากผลข้างเคียงไม่รุนแรง อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะหายได้เองภายในไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์ หากอาการรุนแรงมากขึ้น หรือไม่หายไป ให้รีบไปพบแพทย์ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของอะม็อกซี่
รับไปพบแพทย์ หากพบมีผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือรู้สึกว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยผลข้างเคียงที่ร้ายแรงนั้นมีลักษณะอาการดังต่อไปนี้:- ภูมิคุ้มกันทำงานไวเกินไป โดยมีอาการดังนี้:
- อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ รู้สึกเป็นไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือเจ็บคอ
- ผื่นแดงหรือม่วงที่สร้างความเจ็บปวด และลุกลามไปทั่วร่างกาย
- แผลพุพองที่ทำให้ผิวหนังแตก และทำให้เกิดแผลเปิด
- ความเสียหายที่ตับ เป็นผลกระทบที่หาได้ยาก โดยมีอาการดังนี้:
-
- เอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้น พบได้ด้วยการตรวจเลือด
- ปวดท้อง (บริเวณช่วงท้อง)
- ผิวหนังและดวงตากลายเป็นสีเหลือง
- เหนื่อยล้า
ข้อควรระวังที่สำคัญ
- การรักษาขั้นสุดท้าย: การรักษาตามที่แพทย์กำหนดให้สำเร็จลุล่วงนั้นมีความสำคัญ ห้ามหยุดรับประทานยา หรือลดปริมาณยาเมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้น การกระทำลักษณะดังกล่าวอาจทำให้การติดเชื้อยาวนานมากขึ้นได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอาการดื่อยาได้ ซึ่งหมายความว่าหากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในอนาคต ผู้ป่วยอาจไม่สามารถรักษาได้ให้หายด้วยยาอะม็อกซีซิลลิน
- อาการท้องร่วง: ยาอะม็อกซีซิลลินอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง รีบแจ้งแพทย์หากมีอาการท้องร่วงเป็นเลือด หรือเป็นน้ำ แม้ว่าจะมีหรือไม่มีอาการปวดท้อง และมีไข้ก็ตาม
- อาการแพ้อย่างรุนแรง: ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ (ทำให้เสียชีวิต) หากเคยมีอาการallergy-0094/”>แพ้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ๆ อย่างยาเพนิซิลลิน หรือยาเซฟาโลสปอริน ก็จะมีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาอะม็อกซีซิลลินได้มากขึ้น รีบปรึกษาแพทย์หากมีอาการหายใจลำบาก หรืออาการบวมบริเวณคอหรือลิ้น ในขณะที่กำลังใช้ยาชนิดนี้
Amoxicillin 500 กินอย่างไร
ยาอะม็อกซี่ซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะ ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียบางชนิด ยาอะม็อกซี่ซิลลินอาจใช้รักษาโรคร่วมกับยาชนิดอื่น ๆ สามารถรับประทาน วันละ 3 ครั้งหลังอาหารเช้าเย็นการทำงานของยาอะม็อกซี่ซิลลิน
ยาอะม็อกซี่ซิลลินเป็นหนึ่งในยาประเภทเพนนิซิลิน ประเภทของยากลุ่มนี้จะทำงานในลักษณะเดียวกัน ใช้เพื่อรักษาอาการของโรคที่คล้ายคลึงกัน ยาอะม็อกซี่ซิลลินทำงานโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในร่างกาย ปฏิกิริยาของยาอะม็อกซี่ซิลลินกับยาชนิดอื่น ๆ ยาอะม็อกซี่ซิลลินสามารถทำปฏิกิริยากับยา วิตามิน หรือสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ได้ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจเปลี่ยนวิธีการทำงานของยาชนิดต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายหรือทำให้ยาไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าว แพทย์จะกำหนดยาให้ใช้อย่างระมัดระวัง ผู้ป่วยต้องแจ้งให้แพทย์ทราบว่ามียา วิตามิน หรือสมุนไพรใดบ้างที่กำลังรับประทานอยู่ หากต้องการทราบว่ายาเหล่านี้มีปฏิกิริยากับยาอะม็อกซี่ซิลลินหรือไม่ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ตัวอย่างยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยาอะม็อกซีซิลลิน ได้แก่ ยาที่ทำให้ผลข้างเคียงจากยาอะม็อกซีซิลลินเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ร่วมกัน การใช้ยาอะม็อกซีซิลลินร่วมกับยาบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากยาอะม็อกซีซิลลินได้ เนื่องจากปริมาณของอะม็อกซีซิลลินในร่างกายอาจเพิ่มขึ้น ตัวอย่างยาที่มีปัญหาดังกล่าว ได้แก่ :- Probenecid: หากกำลังใช้ยาชนิดนี้อยู่ แพทย์อาจพิจารณาใช้ปริมาณยาอะม็อกซีซิลลินคงเดิม
- Allopurinol: หากใช้ยาร่วมกัน ผู้ป่วยอาจเกิดผื่นคันได้
ยาที่เกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับยาอะม็อกซีซิลลิน
การใช้ยาอะม็อกซีซิลลินร่วมกับยาบางชนิด อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยาเหล่านั้นเพิ่มขึ้น เพราะ ยาอะม็อกซีซิลลินจะเพิ่มปริมาณยาเหล่านั้นในร่างกายได้ ตัวอย่างยาเหล่านี้ ได้แก่ ยารักษาลิ่มเลือด หากใช้ร่วมกับยาอะม็อกซีซิลลินอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเลือดออกยาที่เกิดผลข้างเคียง โดยทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
ยาอะม็อกซีซิลลินมีประสิทธิภาพลดลง: เมื่อใช้ยาอะม็อกซีซิลลินร่วมกับยาบางชนิด เนื่องจากปริมาณยาอะม็อกซีซิลลินในร่างกายอาจลดลง ตัวอย่างของยาเหล่านี้ ได้แก่ :- คลอแรมเฟนิคอล
- แมคโครไลด์ เช่น อิริโทรมัยซิน คลาริโทรมัยซิน หรือ อะซิโทรมัยซิน
- ซัลโฟนาไมด์ เช่น Sulfamethoxazole
- เตตราไซคลีน เช่น เตตราไซคลีน หรือ ด็อกซีไซคลิน
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (คุมกำเนิด)
ข้อควรระวังในการใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน
ยานี้มีคำเตือนหลายประการ ดังนี้อาการแพ้
ยาอะม็อกซีซิลลินอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง ซึ่งรวมถึง:- หายใจลำบาก
- อาการบวมบริเวณคอหรือลิ้น
คำเตือนกรณีมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง
สำหรับผู้ป่วยโรคโมโนนิวคลีโอซิส (โรคโมโนนิวคลีโอซิสหรือโรคจูบ): ยาอะม็อกซีซิลลินจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นผื่นที่รุนแรง สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน : ยาอะม็อกซีซิลลินอาจทำให้ผลการทดสอบปริมาณน้ำตาลกลูโคส (น้ำตาล) ในปัสสาวะผิดพลาดได้ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานให้บอกแพทย์เกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อกำลังกินยาอะม็อกซีซิลลิน สำหรับผู้ที่เป็นโรคไต: หากเป็นโรคไตระดับรุนแรง ไตอาจไม่สามารถขจัดยานี้ออกจากร่างกายได้ ส่งผลให้ระดับของอะม็อกซีซิลลินเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว แพทย์อาจลดยาให้น้อยลงคำเตือนด้านอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์: ยาอะม็อกซีซิลลินเป็นยาที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ประเภท B หรือส่งผลใน 2 ลักษณะคือ:- ผลวิจัยในสัตว์ไม่พบความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ เมื่อแม่รับประทานยานี้
- ผลการศึกษาในมนุษย์ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปว่ายานี้มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์หรือไม่
วิธีการใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน
ปริมาณที่ใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน ที่ไม่รวมถึงปริมาณ และรูปแบบของยาทั้งหมด โดยปริมาณยา รูปแบบยา และความถี่ในการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับ:- อายุของผู้ป่วย
- สภาพอาการขณะทำการรักษา
- ระดับความรุนแรงของอาการ
- ปัจจัยทางสุขภาพอื่น ๆ
- การตอบสนองต่อยา เมื่อได้รับครั้งแรก
ข้อกำหนดการใช้งาน
ยาอะม็อกซีซิลลินใช้สำหรับการรักษาอาการในระยะสั้น ๆ มักมีความเสี่ยงร้ายแรงหากไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ หากหยุดใช้ยากะทันหันหรือไม่รับประทานเลย: อาการติดเชื้อแบคทีเรียอาจไม่หาย หรือแย่ลงได้ หากไม่รับประทานยา หรือรับประทานไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ผู้ป่วยอาจไม่ได้ผลการรักษาหรือหยุดการรักษาแบบสิ้นเชิง เพื่อให้ยาทำงานได้ดี ต้องควบคุมให้มีปริมาณยาในร่างกายตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือปฏิบัติตาแนวทางการรักษาทั้งหมดที่แพทย์กำหนด ห้ามหยุดรับประทาน หรือลดปริมาณหากรู้สึกว่าอาการดีขึ้น เพราะอาจทำให้การติดเชื้อยาวนานขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยยังอาจเกิดอาการดื้อยาได้ หมายความว่าหากติดเชื้อแบคทีเรียในอนาคต ผู้ป่วยจะไม่สามารถรับการรักษายาอะม็อกซีซิลลินได้ กรณีรับประทานมากเกินไป: ผู้ป่วยอาจมีระดับยาที่เป็นอันตรายตกค้างในร่างกาย อาการของการใช้ยาเกินขนาดนั้นรวมถึง:- ปวดท้อง
- ท้องร่วง
ใครที่ไม่ควรใช้อะม็อกซี่ซิลลิน
Amoxicillin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่จำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย โดยทั่วไปปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม บุคคลบางคนอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหรือใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากสภาวะเฉพาะ การแพ้ หรือการใช้ยา ต่อไปนี้คือกลุ่มบางกลุ่มที่อาจต้องระวังการใช้ยาแอมม็อกซีซิลลิน:- ปฏิกิริยาการแพ้:บุคคลที่ทราบว่าแพ้ยาเพนิซิลลินหรือยาปฏิชีวนะเบต้าแลคตัมอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะมีอาการแพ้ยาแอมม็อกซีซิลลินมากกว่า ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงภูมิแพ้รุนแรงถึงขั้นคุกคามถึงชีวิต หากคุณมีประวัติแพ้ยาเพนิซิลลินหรือยาปฏิชีวนะที่คล้ายคลึงกัน คุณควรหลีกเลี่ยงยาอะม็อกซีซิลลิน เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ปฏิกิริยารุนแรงก่อนหน้านี้:ผู้ที่เคยประสบกับอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง เช่น ผื่นรุนแรง พุพอง หรือผลข้างเคียงร้ายแรงอื่นๆ ขณะรับประทานแอมม็อกซีซิลลินหรือยาปฏิชีวนะที่เกี่ยวข้องในอดีต ควรหลีกเลี่ยงในอนาคต
- เงื่อนไขทางการแพทย์:ผู้ที่มีอาการป่วยบางอย่างอาจจำเป็นต้องใช้แอมม็อกซีซิลลินด้วยความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีประวัติเกี่ยวกับโรคตับหรือไต โรคโมโนนิวคลีโอซิส (เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผื่นที่ผิวหนัง) หรือโรคหอบหืด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับประทานอะม็อกซีซิลลิน
- ยาอื่นๆ:ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับแอมม็อกซีซิลลิน ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียง แจ้งผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ รวมถึงยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และอาหารเสริม เพื่อให้แน่ใจว่ายาเหล่านั้นไม่มีปฏิกิริยาเชิงลบกับแอมม็อกซีซิลลิน
- การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยที่จะใช้อะม็อกซีซิลลินในระหว่างตั้งครรภ์และขณะให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับยาอื่นๆ จำเป็นต้องปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อดูความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์เหล่านี้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/drugs/2/drug-1531-3295/amoxicillin-oral/amoxicillin-oral/details
- https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a685001.html
- https://www.nhs.uk/medicines/amoxicillin/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น