ฝีเกิดจากอะไร
ฝีเกิดจากการสะสมของหนองที่อยู่ใต้ผิว ตรงจุดศูนย์กลางบนรูขุมขน และเกิดการติดเชื้อ ฝีอาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเสมอไปและสามารถเกิดขึ้นจากภาวะการอักเสบที่เกิดขึ้นเองเช่นการอักเสบของต่อมเหงื่อ ฝีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่มีการเสียดสี มีเหงื่อออกหรือที่เส้นผม บริเวณคอเสื้อ ใบหน้า รักแร้และร่องก้น มักเป็นบริเวณที่เกิดฝีขึ้นบ่อยๆ ฝีไม่ใช่แค่สิว แต่จะทำให้รู้สึกเจ็บและระคายเคือง ฝีส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ที่บ้าน รวมถึงการทำตามคำแนะนำของแพทย์ วิธีรักษาฝีที่บ้านด้วยตนเอง:- น้ำมันทีทรีออยล์
- ประคบร้อน
- ขมิ้นชัน
- ดีเกลือฝรั่ง
- น้ำมันละหุ่ง
- น้ำมันนีม (น้ำมันสะเดา)
- หอมใหญ่ดิบ
- กระเทียม
- น้ำมันตีนตุ๊กแก
- หญ้าแพะหงี่
- สารสกัด devil’s horsewhip
การรักษาฝีที่บ้านด้วยวิธีธรรมชาติทำอย่างไร?
การประคบร้อนคือวิธีเดียวเท่านั้นที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าช่วยรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรจำไว้เสมอว่าศาสตร์ทางการแพทย์แนวธรรมชาตินั้นจะไม่สามารถเข้ามาทดแทนการรักษาแผนปัจจุบันได้ และมีประโยชน์มากกว่าหากมีการรักษาร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันได้ดีกว่าการรักษาแบบธรรมชาติเพียงอย่างเดียว การรักษาด้วยตนเองด้วยวิธีธรรมชาติบางอย่างอาจเป็นสาเหตุของการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งจะทำให้อาการทางผิวหนังยิ่งแย่ลงกว่าเดิมมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือแพทย์ผิวหนังก่อนลองใช้วิธีรักษาทางเลือกเหล่านี้การรักษาฝีด้วยตนเองที่บ้าน
1. การใช้ความร้อน
ไม่ได้หมายความไปยังเผ็ดร้อน แต่หมายความถึงการประคบร้อนบริเวณที่เกิดฝีก็จะช่วยให้การระบายของเหลวในฝีได้ง่ายขึ้น การใช้ความร้อนคือการรักษาฝีที่ดีที่สุดและควรถูกนำมาใช้เป็นการรักษาแรกๆ และฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายวิธีใช้
ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นและนำมาประคบบริเวณที่เป็นฝีทิ้งไว้ 10-15 นาที วันละสามหรือสี่ครั้งต่อวันจะช่วยสลายตุ่มหนองจากภายในได้ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหยได้ที่นี่2. การใช้น้ำมันทีทรีออยล์เพื่อรักษาฝี
น้ำมันทีทรีออยล์ได้มาจากต้นทีทรีของประเทศออสเตรเลียและมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและฆ่าเชื้อโรค มีประโยชน์ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นต้นเหตุของฝีวิธีใช้
เจือจางน้ำมันทีทรีออยล์สองสามหยดในน้ำมันเช่นน้ำมันละหุ่งหนึ่งช้อนชา จากนั้นนำไปทาที่ฝีและบนผ้าพันแผล ทำซ้ำวันละสองครั้ง3. ขมิ้นชัน: ไม่ใช่แค่ประโยชน์ในการทำแกงกะหรี่เท่านั้น
ส่วนประกอบหลักของขมิ้นชันและส่วนผสมที่เป็นสารออกฤทธิ์คือ เคอร์คูมิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและอาจช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อหากเกิดขึ้นในฝีวิธีใช้
ปริมาณเคอร์คูมินที่พบบ่อยๆมนเครื่องเทศสำหรับทำอาหารยังไม่เพียงพอในการรักษาฝี อาจจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารเสริมขมิ้นชันที่มีส่วนผสมของสารสกัดพริกไทยดำ ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมขมิ้นชันได้ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการรับประทานอาหารเสริมตัวใหม่4. ดีเกลือฝรั่งช่วยเรื่องฝีหรือไม่
แมกนีเซียม ซัลเฟต คือแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่ถูกค้นพบในเอปซอม ประเทศอังกฤษ เกลือจะละลายเป็นแมกนีเซียมและซัลเฟตเมื่อเติมลงไปในน้ำอุ่น ดีเกลือฝรั่งยังช่วยให้ผ่อนคลายดีขึ้น คลายข้อแข็งและช่วยทำให้ตุ่มหนองที่ฝีแห้งวิธีใช้
เพื่อให้เกิดผลตรงบริเวณที่เป็นฝี ให้นำผ้าขนหนูไปแช่ในดีเกลือฝรั่ง นำไปใช้บริเวณที่เป็นฝีราว 30 นาที ทำวันละสามครั้งต่อวันจนกระทั่งฝีหายไปไป5. กำจัดฝีด้วยน้ำมันละหุ่ง
ทำมาจากต้นละหุ่ง เป็นน้ำมันที่มีกรดริซิโนเลอิกเป็นส่วนประกอบ เป็นกรดไขมันที่ช่วยสลายแบคทีเรียที่ติดอยู่ น้ำมันละหุ่งเคยใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณในการรักษาบาดแผลและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิววิธีใช้
หยดน้ำมันละหุ่งโดยตรงที่ฝีวันละสามครั้งต่อวันจนกระทั่งฝีหายไป6. น้ำมันสะเดา
น้ำมันสะเดาคือน้ำมันที่ทำมาจากผลไม้และเมล็ดของต้นไม้ที่มีใบเขียวตลอดเวลาที่ถูกพบในอินเดีย เพราะมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ ต้านแบคทีเรีย และต้านจุลินทรีย์ สามารถพบได้ในสบู่ โลชั่น ยาไล่แมลงและขี้ผึ้งที่ใช้รักษาผิวหนังติดเชื้อ (รวมถึงฝี)วิธีใช้
การดื่มกินน้ำมันสะเดาเป็นความคิดที่ไม่ดี เพราะมีสารพิษ แต่ในทางกลับกันหากนำน้ำมันสะเดาไปใช้โดยตรงที่ฝีวันละสามหรือสีครั้ง ต้องแน่ใจว่าล้างมือทั้งก่อนและหลังการใช้ทุกครั้ง7. ใช้หอมหัวใหญ่ครอบที่ฝี
หอมหัวใหญ่มียาปฏิชีวนะตามธรรมชาติที่เรียกว่าแอลลิซินเป็นส่วนประกอบ หอมหัวใหญ่มีกลิ่นแรงและทำให้น้ำตาไหลได้ ด้วยคุณสมบัติการดูดซึมที่มีตามธรรมชาติของหัวหอมอาจช่วยดูดหนองออกจากฝีได้ เมื่อใช้หัวหอมลงที่ผิวจะเกิดความร้อนขึ้น ไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระบวนการรักษาเยียวยาบาดแผลตามธรรมชาติวิธีใช้
ตัดหัวหอมเป็นแผ่นหนา ห่อด้วยผ้าก็อซแล้วนำไปแปะไว้ที่ฝีประมาณหนึ่งชั่วโมง ทำวันละครั้งหรือสองครั้งจนกว่าฝีจะหาย8. ทาด้วยกระเทียมบด
กระเทียมคือญาติกับหัวหอม – ทั้งสองอย่างจัดอยู่ในพืชตระกูลอัลเลี่ยม หัวหอมและกระเทียมมีสารประกอบแอลลิซินที่ช่วยต้านจุลินทรีย์วิธีใช้
บดกระเทียมเอาน้ำมาทาที่ฝี จากนั้นปิดไว้ด้วยผ้าพันแผล นำหอมหัวใหญ่มาผสมกับกระเทียมเพื่อประโยชน์สูงสุด สามารถใช้น้ำกระเทียมบดไปต้มเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่ต้องล้างออกหลังจากกลิ่นหมด ขั้นตอนการเตรียม คือ นำกระเทียมสัก5-6 กลีบมาปอกเปลือกและบด จากนั้นนำไปต้มในน้ำ 1 ลิตรเป็นเวลา 5 นาที นำออกจากความร้อนและทิ้งไว้ 30-45 นาที นำไปกรองแล้วนำไปเติมในอุ่น และแช่ทิ้งไว้ 30 นาที ทำซ้ำทุกวันจนกว่าฝีจะหายไป9. หยุดและดม…ต้นตีนตุ๊กแก
ต้นตีนตุ๊กแกเป็นวัชพืชในเขตร้อนที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาในอินเดียมานานมากแล้ว น้ำมันต้นตีนตุ๊กแกทำมาจากใบ ก้านและดอกไม้และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบวิธีใช้
เติมน้ำมันหอมระเหยเล็กน้อยลงในน้ำมันละหุ่งและใช้เป็นประจำวันละสองครั้ง10. สารสกัด Devil’s horsewhip มีฤทธิ์เย็น
เป็นไม้ยืนต้นของประเทศเนปาลที่นำมาใช้เป็นยาเพื่อจุดประสงค์ในการบรรเทาอาการคลื่นไส้และท้องเสีย และยังช่วยรักษาบาดแผลวิธีใช้
ให้หยดสารสกัดสองสามหยอดลงบนฝีและปิดไว้ด้วยผ้าพันแผลการป้องกันการเกิดฝี
ในขณะที่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะสามารถป้องกันการเกิดฝีได้ แต่มีวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดขึ้นได้ การป้องกันการเกิดฝีคือ:- รักษาใบหน้าและลำตัวให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ
- หากมีแนวโน้มจะเกิดฝีและผิวมีความทนทานต่อการเกิดฝี ใช้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียล้างตัว เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ 10 เปอร์เซ็นต์ (ข้อควรระวัง-อาจเกิดอาการระคายเคืองและสามารถฟอกขาวเสื้อผ้า)
- ล้างมือบ่อยๆ
- รักษาแผลเปิดให้สะอาด
- อย่าใช้มีดโกน ผ้าขนหนู เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น
- อย่าหยิบจับ บีบหรือเค้นบริเวณที่ควรหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ฝีแย่ลง
ภาวะแทรกซ้อน
ฝีส่วนใหญ่มักรักษาหายได้ภายในสองสามสัปดาห์ หลีกเลี่ยงการบีบฝี การบีบจะนำมาแค่อาการเจ็บและระคายเคืองเท่านั้น การบีบฝีจะเพิ่มให้เกิดการติดเชื้อ มีอาการแดงและเป็นแผลเป็นมากยิ่งขึ้น แม้จะพบได้ไม่บ่อยนักก็ตาม แต่ก็พบว่าเชื้อแบคทีเรียจากฝีอาจเข้าสู่กระแสเลือดได้และเป็นสาเหตุของปัญหา หากพบว่าฝีไม่หายและมีอาการอื่นๆเช่นเจ็บ ตัวสั่น วิงเวียนศีรษะ อัตราการเต้นหัวใจสูงหรือมีไข้ ให้ปรึกษาแพทย์ทันทีไปพบแพทย์หากจำเป็น
ถ้าฝีมีขนาดใหญ่ เจ็บปวด เกิดขึ้นอีก หรือมีไข้หรือมีอาการติดเชื้ออื่นๆ ร่วมด้วย ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและรักษาต่อไป พวกเขาอาจแนะนำยาปฏิชีวนะหรือขั้นตอนการระบายน้ำเพื่อช่วยแก้ฝีได้เร็วขึ้นและป้องกันภาวะแทรกซ้อน สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือการรักษาด้วยตนเองเหล่านี้มักได้ผลกับฝีเล็กๆ ที่ไม่ซับซ้อน หากคุณกังวลเกี่ยวกับอาการเดือดหรือการรักษาที่บ้านแล้วอาการไม่ดีขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือขอคำแนะนำจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น